ทำความรู้จัก “บ้านปูลารายอ นราธิวาส” ตั้งอยู่บนเกาะกลางน้ำ พระองค์ภาเคยเสด็จฯ รมว.ยุติธรรม รุดเยี่ยม หวังยกระดับเป็น “บ้านกึ่งวิถี” ตามรอยความสำเร็จ “บ้านกาญจนาภิเษก” สร้างงาน สร้างอาชีพ ฟื้นฟูผู้ก้าวพลาดก่อนกลับคืนสู่สังคม
เมื่อเร็วๆนี้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และหัวหน้าพรรคประชาชาติ นำคณะเจ้าหน้าที่ ข้าราชการ คณะพรรคประชาชาติ และผู้นำท้องถิ่น เดินทางลงพื้นที่ไปเยี่ยมและให้กำลังใจ พร้อมร่วมหารือแนวทางการพัฒนาสถานสงเคราะห์ บ้านปูลารายอ กาแลตาแป อ.เมือง จ.นราธิวาส เพื่อยกระดับให้เป็น “บ้านกึ่งวิถี” หรือ Halfway House ให้สามารถสร้างงาน สร้างอาชีพให้ผู้ก้าวพลาดได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน โดยมีศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน (ชาย) บ้านกาญจนาภิเษก เป็นตัวอย่าง
สำหรับสถานสงเคราะห์ บ้านปูลารายอ กาแลตาแป อ.เมือง จ.นราธิวาส มีผู้เข้าพักที่กลับสู่สังคม ตั้งแต่วันที่ 17 ม.ค.63 ถึงวันที่ 31 ต.ค.67 จำนวน 54 ราย โดยในปัจจุบันคงเหลือจำนวน 12 ราย
โอกาสนี้ พ.ต.อ.ทวี กล่าวระหว่างการหารือว่า “สถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ที่มีเกียรติ โดยเฉพาะพระองค์ภา ท่านได้วางวิสัยทัศน์เอาไว้ ซึ่งบ้านปูลารายอถ้าแค่ต้นทุนของพระองค์ท่านที่เสด็จมา ก็เป็นสถานที่ที่ทุกคนไม่มีใครปฏิเสธอยู่แล้ว ดังนั้นสถานที่แห่งนี้มีความสำคัญ คือ เป็นสถานที่สำหรับบุคคลที่ก้าวพลาด บุคคลที่ผ่านตัวเองจากการใช้ยาเสพติด บางส่วนก็ต้องไปอยู่หลังกำแพง บางส่วนก็มาอยู่กรมประพฤติ แต่เขาต้องกลับไปสู่สังคม
เราอยากจะให้คนกลุ่มนี้กลับไปมีคุณภาพชีวิตที่ดีต่อสังคม เขาไม่ได้อยู่ที่นี่ตลอด สถานที่แห่งนี้จึงมีความสำคัญ โดยเฉพาะสังคมเรามีความเหลื่อมล้ำ มีผู้มีรายได้น้อย มีความแตกต่างกัน อยากจะให้สมมุติว่า สถานที่แห่งนี้จะเป็นที่ฟื้นฟูสภาพทางสังคม คนที่เข้าพลาด ทำอย่างไรให้คนที่เข้ามาอยู่ที่นี่ ซึ่งไม่มีการศึกษาได้รับการศึกษา และทำให้คนที่เข้ามาอยู่ที่นี่ไม่กลับไปกระทำผิดอีก”
รมว.ยุติธรรม กล่าวอีกว่า “อยากให้คนที่เข้ามาที่นี่กลับออกไปเป็นคนที่มีคุณภาพ มีความเป็นผู้นำในชุมชนหมู่บ้านต่อไป อาจจะทำให้ที่นี่เป็นพื้นที่ไต่เต้าก้าวกระโดดเป็นสถานศึกษาในเรื่องเทคโนโลยี มีคอมพิวเตอร์ที่ดีที่สุด อย่าเพียงแค่เอาเขามาเป็นช่างเชื่อม ต้องคิดให้เขาเป็นนักธุรกิจใหญ่ คิดให้เขาเป็นผู้บริหารในอนาคตด้วย
ที่สำคัญอยากให้เป็นสถานที่นี้ มีลักษณะที่ไม่ควรจะพึ่งเงินของรัฐบาลทั้งหมด ควรแบบเหมือนบ้านกึ่งวิถี (ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน (ชาย) บ้านกาญจนาภิเษก) คือ ต้องหาคนที่เก่งๆ มาร่วมดำเนินการด้วย”
@@ รู้จัก “บ้านกึ่งวิถีกลางน้ำ” แห่งบางนรา
หากพูดถึง “ศูนย์” หรือ “บ้าน” ที่ให้การช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง ทั้งผู้หญิง ผู้ชายที่ก้าวพลาด ในจังหวัดนราธิวาสมีบ้านที่ชื่อว่า “ปูลารายอ กาแลตาแป นราธิวาส”
แม้ชื่อจะยาว เรียกยาก แต่ประวัติของสถานที่แห่งนี้นับว่าน่าสนใจ
บ้านแห่งนี้ พูดง่ายๆ ก็คือเป็น “สถานสงเคราะห์” หรือ “บ้านกึ่งวิถี” ตั้งอยู่บนเกาะเล็กๆ กลางน้ำในชุมชนกาแลตาแป อำเภอเมืองนราธิวาส
โดย “บ้านกึ่งวิถี” ในทางวิชาการเรียกว่า Halfway House อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกรมคุมประพฤติ กระทรวงยุติธรรม
บ้านกึ่งวิถีแห่งนี้ตั้งขึ้นเมื่อปี 61 เมื่อครั้งที่ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา เสด็จเปิดโครงการกำลังใจฯ ที่เรือนจำจังหวัดนราธิวาส และทรงพระราชทานแนวทางในการดูแลผู้ต้องขังที่พ้นโทษ แต่ยังไม่มีสถานที่พัก หรือไม่มีบ้านจะกลับ หรือบ้านยังไม่พร้อมที่จะรองรับผู้ต้องขังกลับ เพื่อให้ไปพักชั่วคราว เตรียมความพร้อมก่อนกลับบ้านหรือกลับชุมชน
ต่อมาจึงมีการเปิดบ้านกึ่งวิถีที่เกาะกลางน้ำ ในปี 2563 โดย สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาฯ เสด็จไปประกอบพิธีเปิดบ้านด้วยพระองค์เอง
วันอาทิตย์ที่ 17 พ.ย.67 พ.ต.อ.ทวี ได้เดินทางลงพื้นที่ไปเยี่ยมบ้านกึ่งวิถีแห่งนี้ โดยรัฐมนตรีทวี เพิ่งผลักดัน “ร่างกฎกระทรวง” รองรับการออกใบอนุญาตให้เอกชน และภาคสังคม จัดตั้งสถานดูแล ฟื้นฟูเด็กก้าวพลาด หรือ “บ้านกึ่งวิถี” โดยได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ ซึ่งจะส่งผลให้ไม่มีปัญหาเรื่องขาดแคลนงบประมาณอีกต่อไป
การผลักดันร่างกฎกระทรวงฉบับนี้ ได้รับการขานรับจากภาคประชาสังคม โดย นางอังคณา นีละไพจิตร สมาชิกวุฒิสภา อดีตกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และ นางทิชา ณ นคร หรือ “ป้ามล” ผู้อำนวยการศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน (ชาย) บ้านกาญจนาภิเษก ได้เคยโพสต์เฟซบุ๊กขอบคุณ จนเป็นข่าวเกรียวกราวเมื่อไม่นานมานี้ รวมถึงศิษย์บ้านกาญจนาฯ รวมตัวไปขอบคุณรัฐมนตรีทวี ถึงที่กระทรวงด้วย
@@ ร่วมอาลัยอดีต ปธ.ชมรมชาวไทยเชื้อสายจีนยะลา
วันเดียวกัน พ.ต.อ.ทวี เดินทางไปที่ จ.ยะลา เพื่อร่วมแสดงความไว้อาลัย นายฟุ้ง สุขเสรีทรัพย์ อดีตประธานชมรมชาวไทยเชื้อสายจีนจังหวัดยะลา ที่ได้ถึงแก่กรรมเมื่อวันอาทิตย์ที่ 10 พ.ย.67 ซึ่งทางครอบครัวได้ตั้งศพบำเพ็ญกุศลแบบจีน ที่ศาลา 3 มูลนิธิแม่กอเหนี่ยวยะลา ท่ามกลางบรรยากาศอันโศกเศร้าเสียใจของครอบครัว ญาติพี่น้อง และเพื่อนๆ รวมทั้งเจ้าหน้าที่รัฐและข้าราชการทุกหมู่เหล่า
โอกาสนี้ พ.ต.อ.ทวี ได้กล่าวแสดงความเสียใจกับครอบครัวของนายฟุ้ง ทั้งยังบอกอีกว่า นายฟุ้งเป็นบุคคลที่มีคุณูปการแก่มูลนิธิ ชมรมต่างๆ รวมไปถึงภาคธุรกิจ ช่วยงานสาธารณประโยชน์ของสมาคม ชมรม โรงเจ หน่วยงานราชการ กิจกรรมเพื่อสังคมต่างๆ เสมอมา
สำหรับ นายฟุ้ง สุขเสรีทรัพย์ เจ้าของห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.) น่ำฮั่วจั่นยะลา ทำธุรกิจหลายประเภท โดยเฉพาะการขายปลีกและขยายส่งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ เป็นอดีตประธานชมรมชาวไทยเชื้อสายจีนจังหวัดยะลา อดีตประธานมูลนิธิกวนอิมจังหวัดยะลา ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์มูลนิธิแม่กอเหนี่ยวจังหวัดยะลา อดีตประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดยะลา และอดีตรองประธานสมาคมตั้งศรียะลา
ทั้งนี้ครอบครัวได้ตั้งบำเพ็ญกุศลและจะมีพิธีสวดอภิธรรมศพ เพื่ออุทิศบุญกุศลให้แก่ผู้ล่วงลับและจัดให้มีพิธีถวายสังฆทาน โดยในวันที่ 18 พ.ย.67 ได้มีพิธีเคลื่อนศพไปยังยังสุสานจีน บ้านบุดี อ.เมือง จ.ยะลา
@@ เยี่ยมกุโบร์ฝังศพนักกิจกรรมรือเสาะ
พ.ต.อ.ทวี ยังเดินทางไปที่กุโบร์ยาบะ หมู่ 1 ต.รือเสาะ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส เพื่อเคารพหลุมฝังศพและให้กำลังใจครอบครัว นายอาแซ เจ๊ะมะ นักกิจกรรมในพื้นที่ อ.รือเสาะ ที่ถูกยิงเสียชีวิต โดยมีครอบครัวและชาวบ้านในพื้นที่ร่วมให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น
น.ส.นิซารีฟา เจ๊ะมะ ภรรยาของนายอาแซ ได้โพสต์ข้อความแสดงความขอบคุณผ่านเฟซบุ๊ก โดยระบุว่า พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ได้กรุณามาเยี่ยมกุโบร์ เพื่อระลึกถึงการจากไปของสามี ท่านให้กำลังใจ ให้อดทน สร้างขวัญกำลังใจแก่ลูกๆ เป็นอย่างมาก ฉันรู้สึกตื้นตัน ปลาบปลื้มใจ เพราะสามีเป็นชาวบ้านธรรมดาไม่ได้เป็นกลไกอะไรของรัฐ
“ที่ภาคภูมิใจมากคือ เขาไม่เป็นบุคคลกลับกลอก มีความเป็นลูกผู้ชาย ทำดี พูดดี กระทำดีกับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นคนพุทธหรือคนอิสลาม ไม่เคยเกลียดทหาร ตำรวจ และข้าราชการ ไม่ทำร้ายใคร ทั้งต่อหน้าและลับหลัง เป็นคนชัดเจน มีจุดยืน
อยากบอกกับทุกคน อย่าท้อแท้กับการเป็นคนดี ไม่มีใครเห็นใครรู้ แต่พระเจ้าเห็น ผู้ใหญ่เห็น ดุอาอ์ถูกตอบรับ ให้เป็นคนดีที่อยู่อย่างมีความสุข ไม่ทนต่อการถูกเอารัดเอาเปรียบ ไม่ทนต่อความไม่ยุติธรรม ศาสนาฉันสอนไว้แบบนั้น” ภรรยาของนายอาแซ โพสต์ข้อความเอาไว้