พบศพหนุ่มนิรนามถูกมัดมือไพล่หลัง โดนลูกซองจ่อยิงหัวดับใต้สะพาน อ.ระแงะ นราธิวาส ตำรวจให้น้ำหนักปมขัดแย้งส่วนตัว - ยาเสพติด แต่ยังไม่ตัดประเด็นโยงป่วนใต้ทิ้ง ด้านคดีตากใบยังไม่เงียบ แม้ขาดอายุความ กมธ.กฎหมายฯ ที่ สส.ประชาชาติเป็นประธาน ตั้งอนุ กมธ.พิจารณาศึกษาผลกระทบต่อ
เมื่อเวลา 07.30 น วันอังคารที่ 12 พ.ย.67 พ.ต.อ.อาภากร วิรูปักษ์อารักษ์ ผู้กำกับการ สภ.ระแงะ จ.นราธิวาส รับแจ้งมีเหตุพบศพผู้เสียชีวิต เป็นชาย บริเวณใต้สะพานบาตูสาลอแร บ้านกาหนั๊วะ หมู่ 5 ต.กาลิซา อ.ระแงะ จึงรีบนำกำลังรุดไปตรวจสอบ พร้อมกำลังทหารพราน
เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร เข้าพื้นที่อย่างระมัดระวัง และดำเนินมาตรการทำพื้นที่ให้ปลอดภัย 100% เนื่องจากเกรงว่า คนร้ายอาจมีแผนลวงดักทำร้ายขณะเข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุ
กระทั่งเวลา 14.00 น. พ.ต.อ.อาภากร พร้อมด้วย ร.อ.สวาสดิ์ ฝ้ายเส็ม ผู้บังคับกองร้อยทหารพรานที่ 4507 เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด หน่วยปฏิบัติการพิเศษ กองกำกับการตำรวจภูธร จ.นราธิวาส เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส ได้เข้าไปตรวจสอบยังจุดเกิดเหตุ
บริเวณที่พบศพอยู่ใต้สะพานบาตูสาลอแร ตรงเสาตอม่อกลางสะพานที่น้ำแห้งขอด ร่างผู้เสียชีวิตนอนหงายจมกองเลือด สภาพศพสวมกางเกงขายาวสีดำ และใส่เสื้อยืดแขนยาวสีขาว โดยที่มือทั้ง 2 ข้างมีเชือกไนล่อนสีขาวผูกไว้กับเอว ตรวจพบบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซองที่บริเวณท้ายทอย รวม 2 นัด คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 6 ชั่วโมง ในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ยังพบปลอกกระสุนปืนลูกซองสีเขียวตกอยู่จำนวน 2 ปลอก
จากการตรวจสอบเจ้าหน้าที่ไม่พบเอกสารหลักฐานที่แสดงว่าผู้ตายเป็นใคร มีภูมิลำเนาอยู่ที่ไหน แต่น่าจะมีอายุอยู่ในช่วงประมาณ 30-35 ปี และมีรอยสักบริเวณหน้าอก เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บรวบรวมหลักฐานในที่เกิดเหตุ ก่อนจะส่งศพให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิกู้ภัยระแงะ นำส่งโรงพยาบาลระแงะ เพื่อให้แพทย์ทำการชันสูตรพลิกศพอย่างละเอียดต่อไป
พ.ต.อ.อาภากร กล่าวว่า จุดเกิดเหตุเป็นสถานที่เปลี่ยว ไม่มีบ้านเรือนประชาชน เมื่อสอบถามชาวบ้านที่มามุ่งดูเหตุการณ์ ทุกคนบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่รู้จักผู้ตาย และไม่ใช่คนในหมู่บ้าน
เบื้องต้นสันนิษฐานว่ากลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุน่าจะมีประมาณ 2-3 คน ช่วยกันจับผู้ตายมัดมือไพล่หลังด้วยเชือกไนล่อน ก่อนจะนำตัวขึ้นรถยนต์มาจากพื้นที่อื่น แล้วนำมายิงทิ้งบริเวณใต้สะพาน
“มีความเป็นไปได้สูงว่า คนร้ายมีความขัดแย้งกับผู้ตายในปมเหตุเรื่องส่วนตัวที่อาจจะพัวพันหรือเกี่ยวโยงกับยาเสพติด แต่ไม่สามารถตกลงกันได้ จึงนำตัวผู้ตายมาจ่อยิง ส่วนปมเหตุเกี่ยวกับปัญหาความมั่นคงในพื้นที่ยังไม่ตัดทิ้ง แต่ให้น้ำหนักน้อยกว่าปมขัดแย้งส่วนตัว”
ผู้กำกับการ สภ.ระแงะ กล่าวอีกว่า ได้ประสานไปยัง สภ.ในพื้นที่ทั้ง 13 อำเภอของ จ.นราธิวาส รวมไปถึงพื้นที่จังหวัดใกล้เคียงว่า หากพื้นที่ใดมีการแจ้งคนหาย ให้ประสานมาที่ สภ.ระแงะ เพื่อที่จะได้ไปดูศพผู้เสียชีวิตว่าเป็นบุคคลคนเดียวกับที่แจ้งหายไว้หรือไม่
“ในเบื้องต้นจะนำศพไปฝากไว้ที่ห้องดับจิตของโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ อ.เมืองนราธิวาส ถ้าพบว่าผู้เสียชีวิตเป็นใคร จะได้ทำการสืบสวนสอบสวนขยายผลไปสู่กลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุ เพื่อติดตามจับกุมมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป” พ.ต.อ.อาภากร กล่าว
@@ ตั้งอนุ กมธ.ตรวจสอบผลกระทบคดีตากใบขาดอายุ
อีกด้านหนึ่ง มีความเคลื่อนไหวตรวจสอบผลกระทบกรณีคดีตากใบขาดอายุความ
โดยคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ได้ออกประกาศตั้งคณะอนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษาผลกระทบจากกรณีคดีสลายการชุมนุมเหตุการณ์ตากใบที่ขาดอายุความ เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ และฟื้นฟูความชอบธรรมของรัฐ
@@ ครบทีม! “รอมฎอน-กัณวีร์-อาดิลัน-พรเพ็ญ”
โดย กมธ.มีมติเมื่อวันที่ 30 ต.ค.67 โดยคณะอนุ กมธ.ประกอบด้วย
1.นายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ เป็นประธานคณะอนุกรรมาธิการ
2.นายวรสิทธิ์ กัลป์ตินันท์ เป็นรองประธานคณะอนุกรรมาธิการ คนที่ 1
3.นายรอมฎอน ปันจอร์ เป็นรองประธานคณะอนุกรรมาธิการ คนที่ 2
4.นายวรกร โอภาสนันท์ เป็นเลขานุการคณะอนุกรรมาธิการ
5.นายกัณวีร์ สืบแสง เป็นอนุกรรมาธิการ
6.น.ส.ศรีญาดา ปาลิมาพันธ์ เป็นอนุกรรมาธิการ
7.นายอามินทร์ มะยูโซ๊ะ เป็นอนุกรรมาธิการ
8.นายอาดิลัน อาลีอิสเฮาะ เป็นอนุกรรมาธิการ
9.น.ส.สัณหวรรณ ศรีสด เป็นอนุกรรมาธิการ
10.น.ส.พรเพ็ญ คงขจรเกียรติ เป็นอนุกรรมาธิการ
โดยให้คณะอนุ กมธ.มีหน้าที่และอำนาจดังนี้
1.พิจารณาศึกษาผลกระทบจากกรณีคดีสลายการชุมนุมเหตุการณ์ตากใบที่ขาดอายุความ เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้และการฟื้นฟูความชอบธรรมของรัฐ
2.จัดทำรายงานผลการศึกษาเสนอให้ กมธ.พิจารณา
3.ปฏิบัติหน้าที่อื่นๆ ตามที่คณะกรรมาธิการมอบหมาย เว้นแต่หน้าที่และอำนาจในการสอบหาข้อเท็จจริง