“บิ๊กโจ๊ก” บินด่วนนราธิวาส ประชุมสรุปคดีโกดังพลุระเบิดมูโนะ ผู้ต้องหา 3 ราย ผัวเมียเจ้าของโกดัง - ช่างรับเหมา ผิดประมาททำผู้อื่นถึงแก่ความตาย ด้านเจ้าหน้าที่รัฐ ตร. ทหาร อบต. ศุลกากร 16 ราย ผิด ม.157 – รับส่วย ทั้งดำเนินคดีบริษัทนำเข้าดอกไม้ไฟต้นทางที่เกี่ยวข้องอีก 7 บริษัท
เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 22 ก.ย. 66 พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เดินทางมายัง สภ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เพื่อสรุปการสืบสวนสอบสวนขยายผลการดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องโดยแยกเป็นผิดมาตรา 157 และกรณีการรับส่วยจาก 2 สามีภรรยา คือ นายสมปอง ณะกุล และ น.ส.ปิยะนุช พึ่งวิรวัฒน์ เจ้าของโกดังเก็บดอกไม้ไฟ บ้านมูโนะ ม.1 ต.มูโนะ อ.สุไหงโก-ลก ที่ได้เกิดระเบิดขึ้นเมื่อวันที่ 29 ก.ค.66 จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 11 ราย ได้รับบาดเจ็บ 389 คน และบ้านเรือนได้รับความเสียหาย 649 หลัง
ในการสรุปคดีมีการเชิญเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมชี้แจง ประกอบด้วย พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต., พล.ต.ท.สันติ์ สุขวัจน์ ที่ปรึกษา ผอ.ศพดส.ตร., พล.ต.ต.ศุภเศรษฐ์ ฌชคชัย รอง ผบช.ทท., พล.ต.ต.กฤษฎา แก้วจันดี รอง ผบช.ภ.9, พล.ต.ต.อนุรุธ อิ่มอาบ ผบก.ภ.จว.นราธิวาส, พ.ต.อ.สุธน สุขวิเศษ รอง ผบก.ภ.จว.นราธิวาส, พ.ต.อ.ดิเรก โฉมยงค์ รอง ผบก.ภ.จว.นราธิวาส รักษาราชการแทน ผกก.สภ.มูโนะ, พ.ต.อ.มานิตย์ ปานทอง นวท.สบ.4 พฐ.จว.นราธิวาส, พ.ต.อ.นิยม สุวรรณคง ผกก.สส.ภ.จว.นราธิวาส และนายอนิรุทธ บัวอ่อน นายอำเภอสุไหงโก-ลก ทั้งยังมีตัวแทนของชาวบ้านที่เสียชีวิตร่วมฟังการชี้แจงสรุปในครั้งนี้ ซึ่งการประชุมใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมง
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวถึงคดีเหตุโกดังพลุระเบิดว่า หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้จับกุมผู้ต้องหา 3 คน ประกอบด้วย 1.น.ส.ปียะนุช พึ่งวิรวัฒน์ เจ้าของโกดัง 2.นายสมปอง ณะกุล ผู้ดูแลโกดัง 3.นายปฐมพร พรหมสกุล ช่างรับเหมา ในความผิดฐานกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ได้รับอันตรายสาหัส และได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ, ร่วมกันทำ สั่ง นำเข้า หรือค้าซึ่งดอกไม้เพลิง โดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงานตามพ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน และร่วมกันก่อสร้าง ตัดแปลง หรือเคลื่อนย้ายอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งพนักงานสอบสวนได้มีการสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้องจำนวน 822 ปาก มีเอกสารในสำนวนมาก 6,529 แผ่น และได้สรุปสำนวนการสอบสวนส่งอัยการจังหวัดนราธิวาสแล้วในวันที่ 18 ก.ย.66 ที่ผ่านมา
นอกจากนี้ทางการสืบสวนยังพบว่า เหตุการณ์ระเบิดดังกล่าว ส่วนหนึ่งเกิดมาจากการปล่อยปละละเลยของเจ้าหน้าที่รัฐที่มีหน้าที่ในการตรวจสอบการนำเข้า จำหน่าย และเก็บรักษาดอกไม้ไฟ บางรายมีการเรียกรับผลประโยชน์ เพื่อแลกกับการไม่ดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่รัฐรวม 16 ราย เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ 4 ราย เจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนตำบล 4 ราย เจ้าหน้าที่ศุลกากร 7 ราย และเจ้าหน้าที่ทหาร 1 ราย ประกอบด้วย
1.พ.ต.ท.สุพจน์ เรืองรุ่งโรจน์ รอง ผกก.สส.สภ.บูเก๊ะตา
2.จ.ส.ต.มาหาหมัดฟาโร ตันยีนายู ผบ.หมู่ จราจร สภ.มูโนะ
3.ส.ต.อ.สุทิน เกอัฎฎาชีวะ ผบ.หมู่ ป.สภ.มูโนะ
4.ส.ต.อ.ต่วนอูเซ็น ต่วนจาหลง ปคบ.
5.ด.ต.รูสลาม อาแว นายก อบต.มูโนะ
6.นายซูกีปลี เจะแล รรท.ผอ.กองช่างฯ อบต.มูโนะ
7.น.ส.สุดสาย แดงดี ปลัด อบต.มูโนะ
8.น.ส.วิมล หนูรัตน์ หน.สำนักปลัด อบต.มูโนะ
9.นายภัทรเทพ (ไม่เปิดเผยนามสกุล) นายตรวจศุลกากรท่าเรือ
10.นายปรัชญา (ไม่เปิดเผยนามสกุล) นายตรวจศุลกากรท่าเรือ
11.นายพนมชัย (ไม่เปิดเผยนามสกุล) นายตรวจศุลกากรท่าเรือ
12.นายวรกานต์ (ไม่เปิดเผยนามสกุล) นายตรวจศุลกากรท่าเรือ
13.นายรณกฤต (ไม่เปิดเผยนามสกุล) นายตรวจศุลกากรท่าเรือ
14.นายพลวรรธน์ (ไม่เปิดเผยนามสกุล) นายตรวจศุลกากรท่าเรือ
15.นายสยุมภู (ไม่เปิดเผยนามสกุล) นายตรวจศุลกากรท่าเรือ
16.จ.ส.อ.ชัยยะ ยอดพิบูลย์ เจ้าหน้าที่ทหารพรานกรมทหารพรานที่ 45
โดยเจ้าหน้าที่รัฐทั้ง 16 รายถูกดำเนินคดีในความผิดฐาน เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหาย หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ซึ่งทางเจ้าหน้าตำรวจได้รับมอบตัวและแจ้งข้อกล่าวหาพร้อมดำเนินการส่งสำนวนให้ ป.ป.ช.แล้ว 8 ราย และยังอยู่ในระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีอีก 8 ราย
ส่วนกรณีการลักลอบจำหน่ายดอกไม้ไฟ เจ้าหน้าที่สืบสวนเพิ่มเติมทราบว่า ดอกไม้ไฟในโกดังที่เกิดเหตุ ซึ่งผู้ต้องหาได้สั่งซื้อมานั้น มาจากผู้ค้าหลายรายทั้งในเขตพื้นที่ จ.สงขลา กรุงเทพฯ และปริมณฑล จึงได้เปิดปฏิบัติการเข้าตรวจค้นเป้าหมาย 17 จุด ซึ่งเป็นผู้ค้า และผู้นำเข้าดอกไม้ไฟจากต่างประเทศ โดยสามารถตรวจยึดของกลางเป็นดอกไม้ไฟมากถึง 959 ลัง เป็นของกลางที่ลักลอกนำเข้าประเทศโดยผิดกฎหมายจากเครือข่ายจำนวน 7 บริษัทที่มีการลักลอบค้าและจำหน่ายดอกไม้ไฟให้กับสมปอง โดยฝ่าฝืนกฎหมาย ประกอบด้วย
1.บริษัท โอเอ็นจี ทูเก็ตเตอร์ จำกัด
2.บริษัท ทีพีบี ไฟร์เวิร์ค จำกัด
3.ร้านเอเชีย คลองแงะ
4.บริษัท สุรเสียง (ประเทศไทย) จำกัด
5.บริษัท ไดมอนโดม จำกัด
6.บริษัท เคทูเค ไฟร์เวิร์ค จำกัด
7.บริษัท ทองทาดา จำกัด
บริษัททั้ง 7 แห่ง จะถูกดำเนินคดีในความผิดฐาน ค้าดอกไม้เพลิงโดยฝ่าฝืนคำสั่งฯ, ไม่ใด้ขออนุญาตในการค้าและการขนส่งดอกไม้ไฟ, มีและนำเข้าซึ่งประทัดไฟโดยไม่ได้รับอนุญาต ขณะนี้อยู่ในระหว่างการสอบสวน มีการแจ้งข้อกล่าวหาและรับสารภาพแล้วบางส่วน ซึ่งจะดำเนินการให้เสร็จสิ้นในสัปดาห์หน้าทั้งหมด
ส่วนหลังจากนี้หากมีพยานหลักฐานเชื่อมโยงกับบุคคลใดเพิ่มเติมอีกก็จะนำตัวมาดำเนินคดีจนถึงที่สุดต่อไป
นอกจากนี้ยังได้ประสานงานติดต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการช่วยเหลือเยียวยา ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว เบื้องต้นแต่ละหน่วยงานอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาหลักเกณฑ์ เพื่อเร่งมอบเงินช่วยเหลือให้กับผู้เสียหายเยียวยาและฟื้นฟูบ้านเรือนจากความสูญเสียดังกล่าวโดยเร็ว
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้กล่าวชี้แนวทางแก่ตัวแทนผู้เสียชีวิตว่า อยากให้ทุกท่านรวมตัวกันไปฟ้องร้องทางแพ่งได้ คือทางตำรวจเราไม่มีอำนาจในการฟ้องคดีแพ่ง ซึ่งเราต้องตั้งทนาย โดยการอาศัยต้นทาง เมื่อตำรวจชี้ว่าใครผิด อย่างที่เห็นก็คือ เจ้าของโกดัง เขาจะต้องชดใช้แน่ รวมทั้ง 7 บริษัทด้วย เพราะผมเชื่อมั่นว่า ในส่วนพื้นที่ของท่าน ท่านสามารถปรึกษาผู้กำกับหรือผู้การตำรวจได้เลย