“ซูเปอร์โพล” เผยผลสำรวจ 80% ประชาชนหวังความขัดแย้งคดีตากใบควรจบลง แนะหันหน้ามาช่วยกันหาทางออกด้วยสันติวิธี เพื่อความสงบสุขของประเทศชาติ เผยกลุ่มตัวอย่างเกือบครึ่งยอมรับรู้เรื่องตากใบ แต่ไม่รู้รายละเอียด แต่เกือบ 70% เศร้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น
วันอาทิตย์ที่ 27 ต.ค.67 สำนักวิจัยซูเปอร์โพล โดย ผศ.ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (Super Poll) ได้เสนอผลสำรวจเรื่อง “คดีตากใบ กับความสงบสุขของประชาชน” กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 1,089 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 24 - 26 ต.ค.67 ที่ผ่านมา
ผลสำรวจพบว่า ในประเด็นความรู้เกี่ยวกับคดีตากใบในหมู่ประชาชน ยังคงมีความหลากหลาย มีเพียง 12.4% เท่านั้นที่รับรู้รายละเอียดของเหตุการณ์อย่างละเอียด, 15.6% รับทราบค่อนข้างละเอียด, 48.2% รับรู้แต่ไม่รู้รายละเอียด และ 23.8% รู้น้อยมากหรือไม่รู้เรื่องนี้เลย
ส่วนทัศนคติต่อคดีนี้ มีประชาชนถึง 69.7% รู้สึกเศร้าใจมากถึงมากที่สุดต่อเหตุการณ์คดีตากใบ, ขณะที่ 7.8% รู้สึกเศร้าใจน้อยถึงไม่รู้สึกเลย และ 22.5% ไม่มีความเห็น
นอกจากนี้ประชาชนส่วนใหญ่เห็นว่า มีความจำเป็นอย่างมากที่จะต้องมีการเยียวยาความรู้สึกของผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้อย่างต่อเนื่อง โดยมีถึง 83.9% ที่เห็นด้วยกับการเยียวยาอย่างต่อเนื่อง, มีเพียง 1.3% เท่านั้นที่รู้สึกว่าไม่จำเป็น และ 14.8% ไม่มีความเห็น
ส่วนประเด็นความเห็นของคดีตากใบกับความสงบสุขของประชาชน พบว่า 80.1% ของผู้ตอบแบบสอบถามเชื่อว่า ความขัดแย้งในคดีตากใบควรจบลงได้แล้ว และทุกฝ่ายควรหยุดปมขัดแย้ง หันหน้ามาช่วยกันหาทางออกด้วยสันติวิธีเพื่อความสงบสุขของประชาชน
ขณะที่ประชาชนกลุ่มตัวอย่าง 11.4% คิดว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นยังไม่ควรจบ และอีก 8.5% ไม่มีความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้
ผู้อำนวยการสำนักวิจัย ซูเปอร์โพล (Super Poll) กล่าวว่า ผลสำรวจครั้งนี้ ชี้ให้เห็นชัดว่า สังคมไทยมีความต้องการอย่างมากในการหาทางแก้ไขปัญหาและความขัดแย้งในเรื่องนี้อย่างสันติและยั่งยืน เพื่อความสงบสุขที่ยั่งยืนในประเทศ
ดังนั้น คณะทำงานของซูเปอร์โพล จึงได้จัดทำข้อเสนอแนะต่อรัฐบาล หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง และต่อประชาชนด้วยว่า
1. ต่อรัฐบาลและหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง
ส่งเสริมกระบวนการยุติธรรม รัฐบาลควรรับรองความโปร่งใสและความยุติธรรมในการดำเนินคดี โดยปฏิบัติตามกระบวนการทางกฎหมายอย่างเคร่งครัด ไม่ให้มีการแทรกแซงจากฝ่ายการเมืองหรืออิทธิพลภายนอก
การติดตามและเรียกตัวผู้ต้องหาควรเพิ่มความพยายามในการติดตามและเรียกตัวผู้ต้องหาที่ยังหลบหนี ให้มาขึ้นศาลตามขั้นตอนของกฎหมาย เพื่อให้กระบวนการยุติธรรมสามารถดำเนินไปได้โดยครบถ้วน
2. ต่อประชาชน
การศึกษาและการเข้าถึงข้อมูล ประชาชนควรได้รับการสนับสนุนให้เข้าถึงข้อมูลคดีและกระบวนการทางกฎหมายอย่างเต็มที่ โดยรัฐบาลควรจัดทำข้อมูลให้เข้าใจง่ายและเปิดเผยอย่างกว้างขวาง เพื่อให้ทุกคนเข้าใจสถานการณ์และสามารถติดตามความคืบหน้าได้
การส่งเสริมการมีส่วนร่วม ควรมีการสนับสนุนให้ประชาชนมีส่วนร่วมในกระบวนการยุติธรรมผ่านช่องทางต่างๆ เช่น การแสดงความคิดเห็น, การเข้าร่วมเป็นสักขีพยานหรือการให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์
3. ข้อเสนอร่วมกันทุกฝ่าย
การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ รัฐบาลและสื่อมวลชนควรทำงานร่วมกันในการรายงานความคืบหน้าของคดีและผลกระทบที่เกิดขึ้นอย่างตรงไปตรงมาและต่อเนื่อง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความเข้าใจที่ดีต่อประชาชน
อย่างไรก็ตาม คดีตากใบยังคงเป็นหัวข้อที่ต้องจับตามอง และความร่วมมือจากทุกฝ่ายจะช่วยให้สังคมไทยสามารถเคลื่อนผ่านความท้าทายนี้ไปได้อย่างเป็นธรรมและมีประสิทธิภาพ