เผยความคืบหน้าคดีเอื้อประโยชน์ซื้อรถนำเที่ยว อ.พิมาย! ล่าสุด ศาลอาญาคดีทุจริตฯ ภาค 3 สั่งแยกฟ้องคดีใหม่ หลังจำเลยหลายรายให้การรับสารภาพระหว่างพิจารณาคดี ส่วน 'ประจักษ์ สุวรรณภักดี' อดีตผู้ว่า นครราชสีมา- รองฯ -หน.สำนักงานจังหวัด ยังให้การปฏิเสธ
จากกรณีสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) นำเสนอข่าวมติที่ประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดกรณีกล่าวหา นายประจักษ์ สุวรรณภักดี อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา และพวก แบ่งซื้อโครงการจัดซื้อรถบริการนำเที่ยวเพื่อเอื้อประโยชน์ให้ผู้ประกอบการบางราย
ล่าสุด แหล่งข่าวจากสำนักงาน ป.ป.ช. เปิดเผยสำนักข่าวอิศราถึงความคืบหน้าผลคดีนี้ ว่า ภายหลังจากที่ คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิด นายประจักษ์ สุวรรณภักดี อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา และพวก จำนวนนับสิบราย เป็นทางการแล้ว สำนักงาน ป.ป.ช. ได้มีการส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน สำเนาอิเล็กทรอนิกส์และคำวินิจฉัยไปยังอัยการสูงสุด (อสส.) เพื่อดำเนินคดีอาญาในศาลซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีตามฐานความผิดดังกล่าวตามขั้นตอนทางกฎหมาย
ปัจจุบัน ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 3 ได้คำสั่งประทับรับฟ้องคดีไปแล้ว อย่างไรก็ดี ในระหว่างการพิจารณาคดีของศาลฯ ที่ผ่านมา จำเลยรายที่ 4 - 12 ได้รับสารภาพความผิดต่อศาลฯ ส่วนจำเลยรายอื่นยังคงให้การปฏิเสธ
ศาลฯ จึงมีคำสั่งให้แยกฟ้องคดีในส่วนของจำเลยที่ให้การปฏิเสธออกเป็นอีกคดีหนึ่ง
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับจำเลยที่ให้การปฏิเสธ ได้แก่ นายประจักษ์ สุวรรณภักดี อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา นายสมศักดิ์ ปะริสุทโธเหมทานนท์ หรือปริสุทโธเหมทานน รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา และนายบุญยืน คำหงส์ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดนครราชสีมา เป็นต้น
ส่วนจำเลยที่ให้การรับสารภาพไปแล้ว ส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มผู้บริหาร ข้าราชการ อำเภอพิมาย
อย่างไรก็ดี ปัจจุบันคดีนี้ ศาลยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด จำเลยทุก รายยังถือเป็นผู้บริสุทธิ์ มีสิทธิ์ต่อสู้คดีในชั้นศาลได้อีก