ชำแหละความเสียหายข้าวจีทูจี 2 หมื่นล.ศาลฎีกาฯเชือดแล้ว-ไฉนหน่วยงานรัฐไม่ยื่นบังคับคดี?

ดูกันชัด ๆ เปิดคำร้อง 5 หน่วยงานรัฐ ยื่นที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา เรียกค่าเสียหายคดีทุจริตระบายข้าวจีทูจีรวม 2.9 หมื่นล้าน พิพากษาแล้วตั้งแต่ 6 ก.ย. 62 ไฉนมีแค่ อ.ต.ก. ยื่นกรมบังคับคดีดำเนินการ แต่อีก 4 หน่วยงานยังเงียบ ?

PIC ricerice 11 2 63 87

กรณีนายศุภฤกษ์ เอี่ยมลออ รักษาการผู้อำนวยการองค์การตลาดเพื่อการเกษตร (อ.ต.ก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ฝ่ายกฎหมายของ น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ถึงกรณีการติดตามบังคับคดีทรัพย์สินของกลุ่มเอกชนที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตโครงการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ภายหลังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำพิพากษาให้กลุ่มเอกชนร่วมกันชดใช้ค่าความเสียหายกว่า 2 หมื่นล้านบาท โดยมี 5 หน่วยงาน ได้แก่ 1.กระทรวงพาณิชย์ 2.องค์การคลังสินค้า (อคส.) 3.อ.ต.ก. 4.กระทรวงพาณิชย์ และ 5.กระทรวงการคลัง เป็นผู้ยื่นคำร้อง
กำลังเป็นเงื่อนปมสำคัญในการควานหาเงินที่อาจยังหลงเหลืออยู่ในโครงการทุจริตระบายข้าวแบบจีทูจี เนื่องจากนายศุภฤกษ์ อ้างว่า ในบรรดา 5 หน่วยงานรัฐข้างต้น มีเพียง อ.ต.ก. แห่งเดียวที่ยื่นเรื่องต่อกรมบังคับคดีให้ดำเนินการ แต่อีก 4 แห่งยังมิได้ดำเนินการแต่อย่างใด (อ่านประกอบ : 'บิ๊ก อ.ต.ก.'ปูด 4 หน่วยงานรัฐเกียร์ว่าง ไม่ยื่นบังคับคดีเอกชนทุจริตข้าวจีทูจีหมื่นล.)

เพื่อให้สาธารณชนรับทราบข้อเท็จจริงมากขึ้น สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) นำคำร้องของ 5 หน่วยงานรัฐข้างต้นที่ยื่นต่อที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา ให้พิจารณาวินิจฉัยสั่งจำเลยทั้งหมดร่วมกันชดใช้เงินคืนแก่รัฐกว่า 2 หมื่นล้านบาท สรุปรายละเอียดได้ ดังนี้

ระหว่างการพิจารณา 1.กระทรวงพาณิชย์ 2.อคส. 3.อ.ต.ก. 4.กระทรวงพาณิชย์ และ 5.กระทรวงการคลัง เป็นผู้ยื่นคำร้องที่ 1-5 โดยระบุว่า ผู้ร้องทั้ง 5 เป็นหน่วยงานของรัฐและมีฐานะนิติบุคคลตามกฎหมาย ผู้ร้องที่ 1 ได้ทำสัญญาขายข้าวแบบจีทูจีซึ่งเป็นข้าวในโครงการรับจำนำข้าว ผู้ร้องที่ 2-3 มีหน้าที่ดูแลรักษาข้าวในคลังสินค้าและเบิกจ่ายข้าวแก่ผู้ซื้อ ผู้ร้องที่ 4 เป็นหน่วยงานกำกับดูแลผู้ร้องที่ 1 ส่วนผู้ร้องที่ 5 มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับการเงินการคลังของแผ่นดิน

ผู้ร้องที่ 1 ทำสัญญาซื้อขายแบบจีทูจีกับบริษัท กว่างตงฯ และบริษัท ห่ายหนานฯ (2 รัฐวิสาหกิจจีน) ต่ำกว่าราคาในท้องตลาดอันเป็นผลสืบเนื่องมาจากการกระทำความผิดของจำเลยทั้ง 28 ราย (จำเลยทั้งหมดในคดีระบายข้าวจีทูจี อ่านประกอบ : INFO: จำแนกจำเลย-โทษเรียงคนคดีทุจริตระบายข้าวจีทูจี) ทำให้ผู้ร้องที่ 1 ชำระเงินค่าข้าวแก่ผู้ร้องที่ 2-3 ต่ำกว่าราคาในท้องตลาด การกระทำของจำเลยทั้ง 28 ราย เป็นการจงใจทำละเมิดต่อผู้ร้องทั้ง 5 โดยผิดกฎหมาย ทำให้ผู้ร้องทั้ง 5 ได้รับความเสียหาย 2 ส่วน คือ

หนึ่ง ส่วนต่างของราคาข้าวตามสัญญากับราคาข้าวในท้องตลาด ณ วันที่ทำสัญญาซื้อขาย สอง ส่วนต่างของมูลค่าข้าวตามสัญญากับจำนวนเงินที่มีการชำระราคา พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่ได้รับมอบข้าวอันเป็นวันทำละเมิด แยกคำนวณตามสัญญาแต่ละฉบับ ดังนี้

1.ค่าความเสียหายตามสัญญาฉบับที่ 1 เป็นข่าวเก่าทุกชนิดที่มีอยู่ในสต๊อกประกอบด้วย ข้าวหอมมะลิ 100% ชั้น 2 ปีการผลิต 2551/52 และปีการผลิต 2552/53 มีการรับมอบ 49,540 ตัน ข้าวหอมจังหวัด ปีการผลิต 2552 ปีการผลิต 2551/52 และปีการผลิต 2554/55 มีการรับมอบ 51,949.57 ตัน ข้าวปทุมธานี ปีการผลิต 2551 ปีการผลิต 2551/52 ปีการผลิต 2552 ปีการผลิต 2552/53 และปีการผลิต 2554/55 มีการรับมอบ 161,928.27 ตัน ข้าวขาว 5% ปีการผลิต 2549 ปีการผลิต 2551 ปีการผลิต 2551/52 ปีการผลิต 2551/53 ปีการผลิต 2552 และปีการผลิต 2552/53 มีการรับมอบ 1,515,795.68 ตัน ข้าวขาว 10% ปีการผลิต 2551/52 มีการรับมอบ 2,551.46 ตัน ข้าวขาว 15% ปีการผลิต 2551/52 มีการรับมอบ 200 ตัน ข้าวขาว 15% เลิศ ปีการผลิต 2548/49 มีการรับมอบ 18,176 ตัน และข้าวเหนียวขาว 10% ปีการผลิต 2548/49 มีการรับมอบ 18,176 ตัน และข้าวเหนียวขาว 10% ปีการผลิต 2551/52 ปีการผลิต 2552 และปีการผลิต 2554/55 มีการรับมอบ 20,674.68 ตัน

รวมค่าความเสียหาย 10,991,736,139.90 บาท ดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันรับมอบข้าว คือวันที่ 18 ต.ค. 2554 ถึงวันยื่นคำร้อง รวมเป็นต้นเงินและดอกเบี้ย 14,711,610,678.76 บาท

2.ค่าความเสียหายตามสัญญาฉบับที่ 2 เป็นข้าวปีการผลิต 2554/55 ประกอบด้วย ข้าวหอมมะลิ 100% ชั้น 2 มีการรับมอบ 584,497.30 ตัน ข้าวขาว 5% มีการรับมอบ 321,128.23 ตัน ข้าวท่อนหอมมะลิ มีการรับมอบ 30,157.64 ตัน ปลายข้าวหอมมะลิ มีการรับมอบ 280,982.99 ตัน ปลายข้าวขาวเอวันเลิศ มีการรับมอบ 156,610.31 ตัน และข้าวขาว 10% มีการรับมอบ 29,161.39 ตัน รวมค่าเสียหาย 2,135,632,483 บาท ดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันรับมอบข้าว คือวันที่ 22 มี.ค. 2555 ถึงวันยื่นคำร้อง รวมต้นเงินและดอกเบี้ย 2,789,925,915.40 บาท

3.ค่าความเสียหายตามสัญญาฉบับที่ 3 เป็นข้าวนาปรัง ปีการผลิต 2555 ประกอบด้วยข้าวขาว 5% มีการรับมอบ 1,350,986.25 ตัน และปลายข้าวขาวเอวันเลิศ มีการรับมอบ 303,466.88 ตัน รวมค่าเสียหาย 6,687,419,994.09 บาท ดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันรับมอบข้าว คือวันที่ 1 ส.ค. 2555 ถึงวันยื่นคำร้อง รวมเป็นต้นเงินและดอกเบี้ย 8,554,849,125.32 บาท

4.ค่าเสียหายตามสัญญาฉบับที่ 4 คือ เป็นปลายข้าวเหนียวเอวัน ปีการผลิต 2554/55 มีการรับมอบ 49,151.54 ตัน และปลายข้าวเหนียวเอวัน ปีการผลิต 2555 มีการรับมอบ 12,231.68 ตัน รวมค่าเสียหาย 199,495,495.30 บาท ดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันรับมอบข้าว คือวันที่ 10 ก.ย. 2555 ถึงวันยื่นคำร้อง รวมต้นเงินและดอกเบี้ย 253,564,240.16 บาท

ส่วนความเสียหายที่เกิดจากการชำระเงินน้อยกว่ามูลค่าข้าวที่รับไปตามสัญญา แยกเป็นสัญญาที่ 1 จำนวน 113.64 บาท สัญญาที่ 2 จำนวน 43,438,123.92 บาท สัญญาที่ 3 จำนวน 1,380.64 บาท และสัญญาที่ 4 จำนวน 30.30 บาท รวมต้นเงินค่าเสียหายตามสัญญาทั้ง 4 ฉบับ 43,439,648.50 บาท

PIC เสยหายจทจ 77
(บางส่วนในคำพิพากษาคดีข้าวจีทูจี ที่สาลสั่งให้จำเลยที่ 17-28 ร่วมกันชดใช้ค่าความเสียหายทั้งหมดกว่า 2.9 หมื่นล้านบาท จากเงินต้น 2 หมื่นล้านบาท)

ขอให้บังคับจำเลยที่ 7-15 และที่ 17-28 ร่วมกันชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่ผู้ร้องทั้ง 5 โดยให้จำเลยที่ 7-15 และที่ 17-21 ร่วมกันชำระเงิน 26,366,708,172.42 บาท พร้อมดอกเบี้ยอันตราร้อยละ 7.5 ต่อปีของเงินต้นเสียหาย 20,057,723,761.66 บาท

ให้จำเลยที่ 22-23 ร่วมกันรับผิดชำระเงิน 78,738,455.31 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงินเสียหาย 60,548,441.52 บาท ให้จำเลยที่ 23-24 ร่วมกับรับผิดชำระเงิน 139,890,041.01 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงิน 108,570,063.23 บาท ให้จำเลยที่ 25-26 ร่วมกันรับผิดชำระเงิน 41,451,933.71 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงินค่าเสียหาย 30,970,688.92 บาท และให้จำเลยที่ 27-28 ร่วมกันรับผิดชำระเงิน 163,313,749.50 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปีของต้นเงินค่าเสียหาย 122,313,749.50 บาท

อย่างไรก็ดีท้ายที่สุด องค์คณะที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา มีคำวินิจฉัยอุทธรณ์คดีดังกล่าว พิพากษาแก้ให้จำคุกเพิ่มนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ เป็น 48 ปี พร้อมกับสั่งจำคุกผู้บริหารกลุ่มโรงสีอีก 7 แห่ง แต่รอลงอาญา และมีคำสั่งให้กลุ่มเอกชนทั้งหมด รวมถึงนายสุธี เชื่อมไธสง (จำเลยที่ 16 ซึ่งหลบหนีไม่มาฟังคำพิพากษา) ร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงินกว่า 2.9 หมื่นล้านบาท (อ่านประกอบ : จำคุก'บุญทรง'เพิ่มอีก 6 ปีรวม 48 ปี-กลุ่มโรงสีผิดด้วยแต่รอลงโทษ3ปี-สั่งชดใช้2หมื่นล.)

ในส่วนของกลุ่มนักการเมือง และกลุ่มอดีตข้าราชการนั้น กระทรวงการคลัง มีคำสั่งตั้งคณะกรรมการความรับผิดทางละเมิด เพื่อพิจารณาให้ชดใช้ค่าเสียหายคดีดังกล่าว รวมวงเงินกว่า 2 หมื่นล้านบาท อย่างไรก็ดีนายบุญทรง นายภูมิ และกลุ่มอดีตข้าราชการ ได้ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองเพื่อขอให้ยกเลิกคำสั่งชดใช้เงินดังกล่าว และขอให้คุ้มครองชั่วคราว เบื้องต้นศาลปกครองไม่มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว และปัจจุบันคดีนี้ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาคดีของศาลปกครองกลาง (อ่านประกอบ : ‘ภูมิ-บุญทรง’แห้ว!ศาล ปค.ไม่คุ้มครองปมอาจถูกอายัดทรัพย์ชดใช้คดีจีทูจี 2 หมื่นล.)

ประเด็นสำคัญคือสาเหตุอะไรทำไม 4 หน่วยงานรัฐที่เหลือ (นอกจาก อ.ต.ก. ตามที่นายศุภฤกษ์ กล่าวอ้าง) จึงยังไม่รีบดำเนินการบังคับคดีกับกลุ่มเอกชนที่ร่วมกันทุจริตในโครงการนี้ เพื่อให้ชดใช้ค่าเสียหาย คงต้องรอคำชี้แจงกันต่อไป !

หมายเหตุ : ภาพประกอบโรงสีข้าว และศาลฎีกา จาก https://static.posttoday.com/

อ่านประกอบ :

'บิ๊ก อ.ต.ก.'ปูด 4 หน่วยงานรัฐเกียร์ว่าง ไม่ยื่นบังคับคดีเอกชนทุจริตข้าวจีทูจีหมื่นล.

รู้อยู่แล้วว่ามีทุจริตแต่ยังทำ! เบื้องหลังพิพากษาแก้สั่งคุกกลุ่มโรงสีคดีข้าวจีทูจี

ผิดครบทั้ง 4 กรรม! เบื้องหลังเพิ่มโทษคุก‘บุญทรง’48 ปี เหตุไปแก้ไขสัญญาแรกด้วย

จำคุก'บุญทรง'เพิ่มอีก 6 ปีรวม 48 ปี-กลุ่มโรงสีผิดด้วยแต่รอลงโทษ3ปี-สั่งชดใช้2หมื่นล.

‘โจ’ดีล‘วีระวุฒิ’ขาย‘สมคิด’เบิกข้าวให้!ล้วงคำวินิจฉัยองค์คณะฯทำไมต้องลงโทษโรงสีคดีจีทูจีเก๊?

ไม่เอกฉันท์ยกฟ้องโรงสีคดีจีทูจีเก๊ คำวินิจฉัยองค์คณะฯชี้ซื้อต่อ‘โจ’ผิดปกติ-อัยการจ่ออุทธรณ์

ศาลฎีกาฯพิพากษาคุก‘หมอโด่ง’50 ปี-‘สุธี’ 32 ปี ทุจริตข้าวจีทูจี-หลบหนีสั่งออกหมายจับ

ไม่รู้‘หมอโด่ง’เอาข้าวจีทูจีมาขาย!ล้วงเหตุผลศาลฎีกาฯยกฟ้อง7โรงสี-เอกชน

INFO:จำแนกครบ17จำเลย-โทษเรียงคนคดีทุจริตข้าวจีทูจีเจ๊งหมื่นล.ยกฟ้อง 8-ออกหมายจับ3

คำพิพากษาชำแหละ‘โจ’มือขวา‘เสี่ยเปี๋ยง’ ตัวละครสำคัญรับบทนายหน้าเบิกข้าวคดีจีทูจีเก๊