คุก 262 ปี 787 ด. ติดจริง 50 ! จำเลยคนที่ 2 คดี อดีต ผจก.โรงรับจำนำรัฐ 27

picnewspppcs5 15 64

ป.ป.ช. เผยแพร่ความคืบหน้าคดีกล่าวหา 'พธรพล หรือชลอ พูลทรัพย์' อดีตผจก.โรงรับจำนำรัฐ 27 กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ประเมินราคาทรัพย์เกินหลักเกณฑ์ตามระเบียบฯ ล่าสุด ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาคกลาง พิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยรายที่ 2 'ชัยรัตน์ นฤชัย' 2 ปี 6 เดือน 131 กระทง เป็น 262 ปี 787 เดือน แต่ติดจริง 50 ปี

.....................................

สืบเนื่องจากสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานข่าวว่า เมื่อเร็วๆ นี้ เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา นายพธรพล หรือชลอ พูลทรัพย์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้จัดการสถานธนานุเคราะห์ 27 กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กับพวก ตรวจสอบคุณภาพและประเมินราคาทรัพย์จำนำเกินหลักเกณฑ์ตามระเบียบสำนักงานธนานุเคราะห์ ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมติชี้มูลความผิดทางอาญาตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 มาตรา 8 และมาตรา 11 ประกอบ ป.อ.มาตรา 86 และ 91 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2559

โดยเมื่อวันที่ 28 กันยายน 2563 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาคกลาง มีคำพิพากษาว่า นายพธรพล หรือชลอ พูลทรัพย์ มีความผิดตามมาตรา 8 , 11 การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ตาม ป.อ.มาตรา 91 และความผิดแต่ละกระทงเป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ทำจัดการหรือรักษาทรัพย์ใดๆ ใช้อำนาจในหน้าที่โดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่องค์การ ซึ่งเป็นกฎหมายที่มีโทษหนักสุดตาม ป.อ.มาตรา 90 จำคุกกระทงละ 5 ปี รวม 986 กระทง เป็นจำคุก 4,930 ปี แต่เมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้ว คงให้จำคุก 50 ปี ตาม ป.อ.มาตรา 91 (3)

(อ่านประกอบ : คุก 4,930 ปี ติดจริง 50! อดีต ผจก.โรงรับจำนำรัฐ 27 ประเมินราคาทรัพย์เกินระเบียบ)

ล่าสุด เว็บไซต์ ป.ป.ช. เผยแพร่ความคืบหน้าคดีนี้เพิ่มเติม ว่า เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2563 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาคกลาง ได้มีคำพิพากษาตัดสิน นายชัยรัตน์ นฤชัย จำเลยอีกรายหนึ่งในคดีนี้

ศาลฯ พิพากษาว่า นายชัยรัตน์ นฤชัย จำเลย มีความผิด ตามมาตรา 8 พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ตาม ป.อ.มาตรา 91

จำคุกกระทงละ 5 ปี

จำเลยให้การรับสารภาพลดโทษให้กระทงละกึ่งหนึ่ง คงจำคุกกระทงละ 2 ปี 6 เดือน รวม 131 กระทง เป็นจำคุก 262 ปี 787 เดือน

เมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้วให้ จำคุก 50 ปี ตาม ป.อ มาตรา 91(3)

ทั้งนี้ คดียังไม่สิ้นสุด จำเลย มีสิทธิต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาลที่สูงกว่านี้อีกได้

เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการประชุมเมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2564 ลงมติเห็นพ้องกรณีอัยการสูงสุด (อสส.) จะไม่อุทธรณ์คำพิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาคกลาง

สำหรับ พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 มาตรา 8 ระบุว่า ผู้ใดเป็นพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด ๆ ใช้อำนาจในหน้าที่โดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่องค์การ บริษัทจำกัดห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลหรือหน่วยงานที่เรียกชื่ออย่างอื่น ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงสี่หมื่นบาท

มาตรา 11 ระบุว่า ผู้ใดเป็นพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

picpppkiksassassaasasa5 15 21