ครม.เคาะ 3 หมื่นล้านบาททำโครงการคนละครึ่ง แจกเงินคนละ 3,000 บาท 10 ล้านคน คาดทำเศรษฐกิจหมุนเวียน 6 หมื่นล้านบาท เริ่ม 16 ต.ค.นี้ นอกจากนั้นยังใช้อีก 2 หมื่นล้านบาท เติมเงิน 500 บาทใส่บัตรคนจน 3 เดือนมีคนได้รับสิทธิ์อีก 14 ล้านคน
----------------------------------------------------
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงาน ว่า เมื่อวันที่ 29 ก.ย.2563 นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบ 2 โครงการสำคัญในการกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ โดยให้ใช้เงินกู้ในการดำเนินโครงการรวม 50,922.77 ล้านบาท ดังนี้
1.โครงการคนละครึ่ง วงเงิน 30,000 ล้านบาท โดยเป็นการดำเนินโครงการในลักษณะการร่วมจ่าย (Co-pay) เพื่อสนับสนุนค่าใช้จ่าย 50% หรือไม่เกิน 150 บาทต่อคนต่อวันหรือไม่เกิน 3,000 บาทตลอดโครงการ ให้กับประชาชนในการซื้ออาหาร เครื่องดื่ม และสินค้าทั่วไป ไม่รวมสลากกินแบ่งรัฐบาล ยาสูบ หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยผู้ที่ได้รับสิทธิตามโครงการนี้ต้องมีสัญชาติไทย อายุ 18 ปีขึ้น จำกัดจำนวนไม่เกิน 10 ล้านคน และต้องเป็นการใช้จ่ายผ่าน g-wallet ผ่านแอปพลิเคชั่นเป๋าตัง โดยประชาชนสามารถเริ่มลงทะเบียนได้ตั้งแต่ 16 ต.ค.2563 และเริ่มใช้จ่ายได้ตั้งแต่วันที่ 23 ต.ค.-31 ธ.ค.2563 ทั้งนี้คาดว่าจะมีร้านค้าเข้าร่วมโครงการอย่างน้อย 1.2 แสนร้านค้า และทำให้เกิดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจประมาณ 60,000 ล้านบาท ส่งผลให้จีดีพีขยายตัวที่ 0.18%
2.โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ วงเงิน 20,922.77 ล้านบาท เพื่อเพิ่มเงิน 500 บาท รวม 3 เดือนให้กับผู้ที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 13.94 ล้านคน โดยเป็นการดำเนินโครงการตั้งแต่ ต.ค.-ธ.ค.2563
นายอนุชา กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ที่ประชุม ครม.ยังเห็นชอบการปรับปรุงคุณสมบัติผู้จบการศึกษาใหม่ที่เข้าร่วมโครงการส่งเสริมการจ้างงานใหม่สำหรับผู้จบการศึกษาใหม่โดยภาครัฐและเอกชน เพื่อให้นักศึกษาที่เคยทำงานนอกเวลาเรียน หรืองานพาร์ทไทม์ สามารถเข้าร่วมโครงการดังกล่าวได้
นอกจากนี้ที่ประชุม ครม.ยังอนุมัติให้ใช้เงินกู้อีก 878.20 ล้านบาท ในการจัดหาครุภัณฑ์เครื่องฉายรังสีให้กับโรงพยาบาล เพื่อรองรับผู้ป่วยทั่วประเทศตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนออีกด้วย
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage