ศบค.เผยพบผู้ติดเชื้อใหม่ 5 ราย เดินทางกลับมาจาก ตปท. อเมริกา 1 ราย สิงคโปร์ 2 ราย ยู.เอ.อี. 2 ราย ทำยอดสะสมผู้ป่วย 3,232 ราย – แม่ทัพภาค 2 เตรียมรับทหารไทยจากฮาวาย 151 นายกลับไทย คาดใช้อาคารสวนสนประดิพัทธ์รองรับ ยืนยันคัดกรองเข้มงวด กักตัว 14 วัน
เมื่อวันที่ 15 ก.ค. 2563 เวลา 12.00 น. ที่กระทรวงสาธารณสุข พญ.พรรณประภา ยงค์ตระกูล ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. กล่าวถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ว่า ในประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้น 5 ราย เป็นผู้ป่วยเดินทางกลับมาจากประเทศ โดยมาจากประเทศสหรัฐอเมริกา 1 ราย ประเทศสิงคโปร์ 2 ราย และประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 2 ราย ทำให้มีผู้ป่วยสะสม 3,232 ราย รักษาหายเพิ่ม 1 ราย หายป่วยสะสม 3,092 ราย รักษาอยู่ 82 ราย โดยวันนี้ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต ซึ่งผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 58 ราย
@แม่ทัพภาค 2 พร้อมรับตัวทหารไทย 151 นายกลับจากฮาวาย-คาดใช้อาคารสวนสนประดิพัทธ์กักตัว 14 วัน
วันเดียวกัน พล.ท.ธัญญา เกียรติสาร แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมดูแลทหารกองร้อยทหารราบของกองทัพบกไทย (ร้อย.ร.ไทย) RTA Combat Team จำนวน 151 นาย สังกัดกองทัพภาคที่ 2 ที่จะเดินทางกลับจากรัฐฮาวาย สหรัฐอเมริกา ภายหลังจากการฝึกร่วม Lightning Forge 2020 หรือ LF20 ในวันที่ 22 ก.ค.นี้ว่า ขณะนี้ทางกองทัพบกกำลังพิจารณาประสานเรื่องการขออนุญาตใช้สถานที่กักตัว หรือ State Quarantine จากศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือศบค.ว่าจะสามารถใช้สถานที่ใดได้บ้าง
(พล.ท.ธัญญา เกียรติสาร แม่ทัพภาคที่ 2)
พล.ท.ธัญญา ระบุว่า เบื้องต้นกองทัพบกจะเสนอขอใช้สถานที่โรงแรมที่กองทัพบกดูแล แต่ไม่ใช่โรงแรมในพื้นที่ที่ จ.นครราชสีมาแน่นอน เพราะติดขัดเรื่องสถานที่ที่ไม่เพียงพอต่อการรองรับ ซึ่งคาดว่าจะใช้อาคารรับรองสวนสนประดิพัทธ์ เนื่องจากมีพื้นที่จำนวนพื้นที่ และห้องมากกว่า สามารถรองรับทหารทั้งหมดได้ อย่างไรก็ตามทหารทุกคนจะเดินทางกลับมาประเทศไทยด้วยเครื่องบินเช่าเหมาลำเหมือนเช่นตอนขาไป โดยเครื่องบินจะลงจอดที่สนามบินสุวรรณภูมิ จากนั้นนายทหารทุกนายจะต้องเข้าสู่ขั้นตอนการตรวจโรคจากด่านคัดกรองที่สนามบินตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข และศบค. ก่อนออกเดินทางไปกักตัวที่โรงแรมเป็นเวลา 14 วัน เพื่อเฝ้าสังเกตอาการ หากครบกำหนดระยะเวลาแล้วก็จะเดินทางกลับภูมิลำเนาต่อไป
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage