การใช้ชีวิตประจำวัน การเว้นระยะห่างทางสังคม วันนี้จึงถือเป็นหนึ่งในอาวุธที่ดีที่สุด ที่เราสามารถชะลอการแพร่กระจายของไวรัสนี้อย่างเงียบ ๆ ซึ่งที่ผ่านมาใช้ได้ผลดีป้องกันการแพร่ระบาดได้ในประเทศจีน และกำลังใช้ได้ผลกับประเทศอื่นๆ รวมถึงสหรัฐอเมริกาด้วย
ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 แรกๆ เรามักได้รับคำแนะนำให้พยายามหลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดกับคนที่ป่วยที่มีไข้ ไอ หรือจาม แต่วันนี้คาดว่า ไม่เพียงพอเสียแล้ว เพราะมีงานศึกษาพบว่า หลายคนที่ยังไม่มีอาการ ก็สามารถแพร่เชื้อไวรัสโคโรน่าได้
หนึ่งในมาตรการที่หลายๆ ประเทศนำมาใช้ คือการแนะนำให้พลเมืองของตนอยู่บ้าน ออกจากบ้านเมื่อจำเป็นจริงๆ เช่น การไปร้านขายของชำ ร้านขายยา หรือออกกำลังกาย ทำกิจกรรมกลางแจ้งในที่โล่งกว้าง
ส่วนคำแนะนำอื่น ๆ ได้แก่ การหลีกเลี่ยงการรวมตัวกันมากกว่า 10 คน ไม่มีการจับมือ และให้ล้างมือเป็นประจำ เมื่อพบใครบางคนนอกบ้าน พยายามอยู่ห่างกันอย่างน้อย 6 ฟุตหรือ 2 เมตร
การลดการแพร่กระจายของเชื้อโคโรน่าไวรัส ด้วยมาตรการการเว้นระยะห่างทางสังคม หรือภาษาอังกฤษ ที่องค์การอนามัยโลกใช้คำว่า physical distancing และ social distancing
หลายคนอาจมีคำถาม มาตรการ social distancing สุดยอดแล้วจริงหรือ ?
มีงานวิจัย ซึ่งตีพิมพ์ในวารสารวิทยาศาสตร์ โดยนักวิจัย ที่ได้รับทุนจาก NIH-funded researchers ได้พยายามค้นหาคำตอบ ทำไมการเว้นระยะห่างทางสังคม ถึงกลายเป็นความหวังที่จะชะลอการแพร่ระบาดไวรัสตัวนี้ได้
นักวิจัยได้ไปศึกษาจากเอกสารย้อนกลับไปดูข้อมูลตั้งแต่เดือนมกราคม 2563 และทำแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ของการแพร่กระจายของ coronavirus ในประเทศจีน พบว่า ผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อโคโรน่า ทุกกรณีของจีน มีแนวโน้มว่าจะมีอีก 5-10 คน ที่ไม่ถูกตรวจพบว่า ติดเชื้อ
สรุปง่ายๆ ว่า มีผู้ที่ติดเชื้อ แต่ตรวจไม่พบก็มากเช่นกัน แต่หลังจากจีน 'จำกัด' การเดินทาง และให้มีระยะห่างทางสังคม การแพร่กระจายของ COVID-19 ก็ชะลอตัวลงอย่างเห็นได้ชัด
การใช้ชีวิตประจำวัน การเว้นระยะห่างทางสังคม ถึงวันนี้จึงถือเป็นหนึ่งในอาวุธที่ดีที่สุด ที่มนุษย์จะสามารถชะลอการแพร่กระจายของไวรัสนี้อย่างเงียบ ๆ ที่ผ่านมาใช้ได้ผลดีลดการแพร่ระบาดได้ในประเทศจีน และกำลังใช้ได้ผลกับประเทศอื่นๆ รวมถึงสหรัฐอเมริกาด้วย
รองศาสตราจารย์แพทย์หญิงลิซ่า มาลากริส ( Lisa Maragakis) ผู้อำนวยการอาวุโสด้านการป้องกันการติดเชื้อระบบสุขภาพ มหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกิ้น (Johns Hopkins) ให้ความเหมาย การเว้นระยะห่างทางสังคม ที่ถึงแม้จะดูเป็นเรื่องน่าผิดหวังที่ทั่วโลกต้องยกเลิกการแข่งขันกีฬา ยกเลิกเทศกาล และการชุมนุมต่างๆ จำนวนมาก ด้วยเหตุผลด้านสาธารณสุข แต่การยกเลิกกิจกรรมเหล่านี้จะช่วยหยุด หรือชะลอการแพร่กระจายของโรคโควิด-19 ได้ ทำให้ระบบสาธารณสุขประเทศต่างๆ สามารถดูแลผู้ป่วยได้ง่ายขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป
"การอยู่ห่างกันอย่างน้อย 6 ฟุตจะช่วยลดโอกาสในการติดเชื้อ COVID-19 ได้ social distancing ยังรวมไปถึงการทำงานจากที่บ้านแทนที่ทำงานที่สำนักงาน ปิดโรงเรียนหรือเปลี่ยนเป็นห้องเรียนออนไลน์ พบปะคนที่คุณรักด้วยอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ แทนที่จะมาด้วยตนเอง การยกเลิกหรือเลื่อนการประชุมและการประชุมขนาดใหญ่"
สำหรับบ้านเรา วันที่นายแพทย์แดเนียล เคอร์เทสซ์ (Dr. Daniel Kertesz) ผู้แทนอนามัยโลกประจำประเทศไทย เข้าพบนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เขาชื่นชมประเทศไทยสามารถรับมือกับสถานการณ์โรคโควิด-19 ได้อย่างดีเยี่ยม
ไทยเป็นประเทศที่มีการวินิจฉัยผู้ติดเชื้อนอกประเทศจีนได้เป็นประเทศแรก และยังมีความเข้มแข็งในการติดตามผู้ติดเชื้อมารักษา ไม่ให้เกิดการแพร่เชื้อต่อได้อย่างทันท่วงที การที่กระทรวงสาธารณสุขได้ออกมาให้คำแนะนำประชาชนเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) เป็นสิ่งที่ดีมาก เป็นประโยชน์ต่อการควบคุม ป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ได้ดีกว่าการใช้วัคซีน
องค์การอนามัยโลก เน้น และให้ความสำคัญ ประชาชนป้องกันกันตนเองด้วย มาตรการหลัก 4 ข้อ คือ
1.ล้างมือด้วยน้ำและสบู่ หรือเจลแอลกอฮอล์บ่อยๆ
2.หลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้า ป้องกันเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายผ่านทาง ตา จมูก ปาก
3.หากไอ จาม ให้ใช้ข้อพับแขน หรือใช้กระดาษชำระปิด ปาก จมูก และทิ้งใส่ถุงขยะ และล้างมือทันที
4.สำคัญที่สุดคือการเว้นระยะห่างทางสังคม มากกว่า 1 เมตร ซึ่งประเทศไทยได้ใช้มาตรการนี้อยู่แล้ว
รวมคลิปวีดีโอ Social Distancing