"...โครงการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรและการพัฒนาประเทศ ตั้งงบประมาณไว้ที่ 6,015.8 ล้านบาท บรรจุอยู่ในแผนงานยุทธศาสตร์ป้องกันและแก้ไขปัญหาที่มีผลกระทบต่อความมั่นคง มีวัตถุประสงค์สร้างกลไกมาตรารักษาความมั่นคงเกี่ยวกับไซเบอร์ พัฒนาและบูรณาการด้านการข่าวรวมอยู่ด้วย โดยงานป้องกันและแก้ไขปัญหาความมั่นคงทางไซเบอร์ ตั้งงบไว้ 6.2 ล้านบาท แยกเป็น โครงการพัฒนาระบบป้องกันและแก้ไขปัญหาการเผยแพร่ข้อมูลที่กระทบต่อความมั่นคง โครงการทบทวนระบบป้องกันและแก้ไขปัญหาการเผยแพร่ข้อมูลที่กระทบต่อความมั่นคง โครงการสร้างความตระหนักรู้ และรอบรู้การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ภาคประชาชนและหน่วยงานทั่วไป..."
ประเด็นตรวจสอบกรณี นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ อดีตพรรคอนาคตใหม่ อภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เกี่ยวกับการมีส่วนรู้เห็นต่อการสนับสนุนงบประมาณ ให้กับเว็บไซต์ www.pulony.blogspot.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์ผลิตความเกลียดชังใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยอ้างเอกสารงบประมาณของ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน. )ที่ระบุว่า ให้รายงานผลการปฏิบัติการข่าวสารของเว็บไซต์ดังกล่าวที่ได้รับงบประมาณในปี 2560-2562 ด้วย
นับจนถึงเวลานี้ ยังไม่มีคำชี้แจงจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ว่า กอ.รมน. เป็นผู้สนับสนุนงบประมาณให้กับเว็บไซต์ www.pulony.blogspot.com จริงหรือไม่?
ขณะที่คำชี้แจงของ พล.อ.ประยุทธ์ ต่อกรณีนี้ มีเพียงแค่ ว่า "สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ในโซเชียลมีเดีย เฟซบุ๊กต่าง ๆ กล่าวอ้างอะไรกันมากมาย ให้ร้ายป้ายสีเยอะแยะไปหมด เมื่อวานพูดจาเรื่องนี้ เราจะต้องสืบหาข้อเท็จจริงที่พูดเมื่อวาน เกิดความเสียหายแก่หน่วยงานภาครัฐ เป็นเรื่องการติดตาม และติดตามพบเยอะ ไม่ว่าจะไปไหนกันมา มันไม่ดี ปลุกระดมคนทะเลาะเบาะแว้ง เดี๋ยวตรวจสอบด้วย บางพรรคก็ทำ ทำเยอะด้วย คงต้องตรวจสอบกันทั้งหมด ตรวจหาข้อเท็จจริง ไม่ได้ขู่ใครทั้งสิ้น ให้ปฏิบัติตามกฎหมาย หาข้อเท็จจริงก่อนดำเนินการต่อไปในขั้นตอนอื่น ๆ"
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) สืบค้นข้อมูลรายละเอียดงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 จากเว็บไซต์รัฐสภา (http://bbstore.bb.go.th/cms/1570615079_4243.pdf) ในส่วนของ กอ.รมน.
พบว่า มีการระบุตัวเลขงบประมาณรายจ่าย ประจำปี 2562 ไว้ที่ 10,240,111,400 บาท ส่วนปี 2563 อยู่ที่ 10,005,172,500 บาท
มีการตั้งผลสัมฤทธิ์และประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับจากการใช้จ่ายงบประมาณ ไว้ 3 ส่วน คือ 1. ประเทศมีความมั่นคงอย่างยิ่งยืนภายใต้การปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทางเป็นประประมุข 2. ประชาชนมีคุณภาพชีวิตและสามารถดำเนินชีวิตประจำวันได้ 3. ทรัพยากรธรรมชาติ มีการอนุรักษ์และใช้ประโยชน์อย่างเหมาะสม
เมื่อเจาะลึกข้อมูลในส่วนงบประมาณ ปี 2562 ระบุเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการภาครัฐ จำนวน 835.01 ล้านบาท, งานตามภารกิจสังคมมีความมั่นคง ประชาชนปลอดภัยมีกลไกขับเคลื่อนการป้องกันปราบปราม ระงับยับยั้งและแก้ไขเหตุการณ์ที่เป็นภัยต่อความมั่นคง 4,859.13 ล้านบาท, ลดความขัดแย้งภาคการเมืองและภาคประชาชน โดยสร้างการรับรู้ในทุกระดับตามช้องทางต่างๆ 349.07 ล้านบาท, ปัญหาความมั่นคงที่มีอยู่ในปัจจุบันได้รับการแก้ไขจนไม่ส่งผลกระทบต่อการบริหารและพัฒนาประเทศ 16.0 ล้านบาท, ภาคใต้มีความสงบสุขร่มเย็น 3,974.19 ล้านบาท, เด็ก เยาวชน ผู้ใช้แรงงานและประชาชน ได้รับการสร้างภูมิคุ้มกันป้องกันยาเสพติด 206.64 ล้านบาท
ส่วนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 แยกเป็น 1. งบประมาณรายจ่ายบุคลากร 813,287,100 บาท
2. งบประมาณรายจ่ายของหน่วยรับงบประมาณ แบ่งเป็น 3 แผนงานคือ (1.) แผนงานพื้นฐานด้านความมั่นคง (2.) แผนงานยุทธศาสตร์รักษาความสงบภายในประเทศ และ (3.) แผนงานยุทธศาสตร์ป้องกันและแก้ไขปัญหาที่มีผลกระทบต่อความมั่นคง รวมวงเงิน 6,775,777,900 บาท
3. งบประมาณรายจ่ายบูรณาการ มี 2 แผน คือ 1.แผนงานบูรณาการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 2.แผนงานบูรณาการป้องกัน ปราบปราม และบำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติด รวมวงเงิน 2,416,107,500 บาท
จากการตรวจสอบข้อมูลโครงการต่างๆ ตามแผนงาน ที่เกี่ยวข้องกับงานด้านการข่าว และไซเบอร์ต่างๆ
พบว่า มีโครงการสำคัญที่เกี่ยวข้องดังต่อไปนี้
-โครงการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรและการพัฒนาประเทศ ตั้งงบประมาณไว้ที่ 6,015.8 ล้านบาท บรรจุอยู่ในแผนงานยุทธศาสตร์ป้องกันและแก้ไขปัญหาที่มีผลกระทบต่อความมั่นคง มีวัตถุประสงค์สร้างกลไกมาตรารักษาความมั่นคงเกี่ยวกับไซเบอร์ พัฒนาและบูรณาการด้านการข่าวรวมอยู่ด้วย
โดยงานป้องกันและแก้ไขปัญหาความมั่นคงทางไซเบอร์ ตั้งงบไว้ 6.2 ล้านบาท แยกเป็น โครงการพัฒนาระบบป้องกันและแก้ไขปัญหาการเผยแพร่ข้อมูลที่กระทบต่อความมั่นคง โครงการทบทวนระบบป้องกันและแก้ไขปัญหาการเผยแพร่ข้อมูลที่กระทบต่อความมั่นคง โครงการสร้างความตระหนักรู้ และรอบรู้การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ภาคประชาชนและหน่วยงานทั่วไป
-โครงการเพิ่มประสิทธิภาพงานข่าวกรองและบูรณาการฐานข้อมูลความมั่นคงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตั้งงบประมาณไว้ที่ 609.8 ล้านบาท บรรจุอยู่ในแผนงานบูรณาการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้
โครงการย่อยที่เกี่ยวข้องประกอบไปด้วย 1. โครงการข่าวกรองเชิงรุก 397.1 ล้านบาท 2. โครงการต่อต้านข่าวกรองเชิงรุก 34.2 ล้านบาท 3. โครงการพัฒนาและปรับปรุงประสิทธิภาพ ประสิทธิผลด้านการข่าว 89.6 ล้านบาท และ 4. โครงการบูรณาการฐานข้อมูลด้านความมั่นคงพื้นที่ จชต. 8.8 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังมีโครงการส่งเสริมและเผยแพร่ความจริงที่ถูกต้องเพื่อสนับสนุนการแก้ไขปัญหา ตั้งงบประมาณไว้อีก 151.2 ล้านบาท โครงการย่อย ได้แก่ โครงการศึกษาและผลิตชุดข้อมูลเพื่อสลายแนวคิดหัวรุนแรง 11.1 ล้านบาท (ดูรายละเอียดโครงการทั้งหมดในเอกสารประกอบ)
ทั้งหมดนี่ เป็นรายละเอียดงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 ของ กอ.รมน. ในส่วนที่เกี่ยวข้องโครงการงานด้านการข่าว และไซเบอร์ต่างๆ
ส่วนประเด็นการสนับสนุนงบประมาณให้กับ เว็บไซต์ www.pulony.blogspot.com มีจริงหรือไม่ ถูกแทรกหรือรวมไว้กับโครงการใด หรือเป็นงบลับพิเศษ
เป็นความจริง ที่รอคอยผู้มีอำนาจหน้าที่รับผิดชอบโดยตรง ตอบคำถามชี้แจงข้อเท็จจริงต่อสาธารณชนเพื่อให้เกิดความโปร่งใสเรื่องการใช้จ่ายเงินงบประมาณของรัฐโดยเร็วที่สุด
อ่านประกอบ :
blogspot.com ปัดให้ข้อมูลใครเจ้าของ 'pulony' -อ้างสัญญารักษาความลับลูกค้า
บางพรรคก็ทำ! ‘บิ๊กตู่’สั่งสอบปม IO-เผยผู้ต้องหาคดี 1MDB ใช้‘อีลิทการ์ด’เข้าไทย
ส่อง pulony.blogspot ผู้รับงบสนับสนุนกอ.รมน.ยุค บิ๊กตู่? ยอดคนดู2.7ล. แปลได้หลายสิบภาษา
ส.ส.สีส้มอ้างเอกสารกองทัพ-กอ.รมน.แฉปฏิบัติการ IO-จ่ายรายหัว 100-300 บ./ด.
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/
Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา 