"... ล่าสุด มีการเผยแพร่คำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ฉบับใหม่ ระบุเรื่องการกำหนดลักษณะงาน และการมอบอำนาจหน้าที่ความรับผิดชอบให้ จเรตำรวจแห่งชาติ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่ปรึกษาพิเศษสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รองเจรตำรวจแห่งชาติ ซึ่งมีการระบุถึงข้อมูลคำสั่งย้าย พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มาปฏิบัติราชการสำนักนายกรัฐมนตรี และ พล.ต.อ.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ปฎิบัติราชการที่ศูนย์ปฎิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มาใช้ประกอบในการออกคำสั่งฉบับนี้ ด้วย ..."
กลายเป็นประเด็นร้อนของคนในแวดวงสีกากี ขึ้นมาทันที
เมื่อนับตั้งแต่ช่วงสาย จนถึงบ่ายของวันที่ 24 ม.ค.2563 มีข่าวใหญ่เกี่ยวกับการโยกย้ายตำแหน่งนายตำรวจระดับสูงออกมาต่อเนื่องในช่วงเวลาไล่เลียกัน
รายแรก พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
ปรากฎข่าวยืนยันเป็นทางการ ในช่วงสายวันที่ 24 ม.ค.2563 ภายหลังจากที่ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. ออกมาเปิดเผยถึงกรณีที่สื่อมวลชนและสังคมโซเชียลมีเดีย ได้ตั้งประเด็นคำถามถึงกรณีที่สำนักนายกรัฐมนตรี มีคำสั่งให้ รอง ผบ.ตร. ท่านหนึ่งไปปฎิบัติราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี นั้น ทั้งนี้ ขอเรียนชี้แจงถึงประเด็นคำถามว่า สำนักนายกรัฐมนตรีได้มีคำสั่งที่ 22/2563 เรื่อง ให้ข้าราชการตำรวจมาปฎิบัติราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นเรื่องจริง
ก่อนจะมีการเปิดเผยข้อมูลคำสั่งดังกล่าวในภายหลังว่า รอง ผบ.ตร. ที่ถูกย้ายคือ พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา
ระบุสาเหตุมาจาก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รายงานว่า พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. มีพฤติการณ์และการกระทำ ซึ่งส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของประชาชนเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ ในการอำนวยการยุติธรรม กระทบต่อภาพลักษณ์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และการปฏิบัติราชการของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นเหตุให้ราชการเสียหาย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงได้แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ตามคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 24/2563 ลงวันที่ 21 มกราคม 2563 แล้ว
เพื่อประโยชน์แก่การตรวจสอบเรื่องดังกล่าวและเรื่องอื่นๆ ในมูลกรณีที่ประชาชนร้องเรียนเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อยู่ระหว่างตรวจสอบให้เป็นไปอย่างโปร่งใส มีความน่าเชื่อถือ และเพื่อให้เป็นที่ยอมรับแก่ประชาชนและผู้ร้องเรียน สมควรพิจารณาสั่งการให้ พล.ต.อ.วิระชัย ทรงมตตา รอง ผบ.ตร. ไปปฏิบัติราชการ นอกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 11 (4) แห่ง พ.ร.บ. ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 จึงมีคำสั่งให้ พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. มาปฏิบัติราชการสำนักนายกรัฐมนตรี โดยไม่ขาดจากอัตราเงินเดือนทางสังกัดเดิม และให้ได้รับเงินเดือน เงินประจำตำแหน่ง เงินเพิ่มพิเศษและสิทธิประโยชน์อื่นใดไม่ต่ำกว่าที่ได้รับอยู่เดิม โดยเบิกจ่ายจากสังกัดเดิม ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นตันไปจนกว่าจะมีคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประการอื่น สั่ง ณ วันที่ 23 ม.ค.2563 (ดูคำสั่งประกอบ)
รายสอง พล.ต.อ.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
จากนั้นในช่วงบ่าย วันที่ 24 ม.ค.2563 ก็มีข่าวปรากฎว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) มีคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 28/2563 ลงวันที่ 23 ม.ค. เรื่องข้าราชการตำรวจปฎิบัติราชการ ใจความว่า เพื่อให้การปฎิบัติราชการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ
รอง ผบ.ตร. ที่ถูกย้ายคือ พล.ต.อ.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย
ระบุว่า อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 11 แห่งพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 และข้อ 8(1) แห่งระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่าด้วยการสั่งให้ข้าราชการตำรวจไปปฎิบัติราชการภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2552 จึงให้ พล.ต.อ.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ปฎิบัติราชการที่ศูนย์ปฎิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อาคาร 1 ชั้น 20 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยขาดจากการปฎิบัติหน้าที่ทางตำแหน่งเดิม เพื่อปฎิบัติหน้าที่ตามที่ผู้อำนวยการ ศูนย์ปฎิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติมอบหมาย
ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง (ดูคำสั่งประกอบ)
ล่าสุด มีการเผยแพร่คำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ฉบับใหม่ ระบุเรื่องการกำหนดลักษณะงาน และการมอบอำนาจหน้าที่ความรับผิดชอบให้ จเรตำรวจแห่งชาติ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่ปรึกษาพิเศษสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รองเจรตำรวจแห่งชาติ
ซึ่งมีการระบุถึงข้อมูลคำสั่งย้าย พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มาปฏิบัติราชการสำนักนายกรัฐมนตรี และ พล.ต.อ.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ปฎิบัติราชการที่ศูนย์ปฎิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มาใช้ประกอบในการออกคำสั่งฉบับนี้ ด้วย (ดูคำสั่งท้ายเรื่อง)
ถ้าหากไล่เรียงทุกคำสั่งเข้าด้วยกัน จะพบว่ามีความเชื่อมโยงต่อเนื่องกันหมด เหมือนทุกอย่างถูกจัดเตรียมไว้ล่วงหน้าหมดแล้ว
และยิ่งทำให้การปฏิบัติเด้งฟ้าผ่า รองผบ.ตร. ทั้ง 2 รายครั้งนี้ กลายเป็นเรื่องสำคัญ และถูกพูดถึงจากคนในแวดวงสีกากีมากทวีคูณขึ้นกว่าเดิมเสียอีก!
ล่าสุด มีรายงานข่าวว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) ได้ตอบคำถามสื่อมวลชนถึงกรณีการออกคำสั่งโยกย้าย พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร.และ พล.ต.อ.ชัยวัฒน์ เกตุรชัย ว่า กรณีของ พล.ต.อ.วิระชัย นั้น ได้เสนอไปยังสำนักนายกรัฐมนตรีให้มีการพิจารณากรณีดังกล่าว จริงๆ แล้วเป็นเรื่องของการมีเอกภาพในการตรวจสอบข้อเท็จจริงของ รอง ผบ.ตร. ดังกล่าว หากดำรงตำแหน่งเกรงว่าจะมีอุปสรรคปัญหา
เมื่อถามว่าสาเหตุในการเด้ง พล.ต.อ.วิระชัย คือคลิปเสียงที่มีการสนทนาระหว่างผู้ใหญ่ 2 ท่านคุยกันใช่หรือไม่ ผบ.ตร. ตอบว่า "ใช่"
เมื่อถามถึงสาเหตุการโยกย้าย พล.ต.อ.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย รองผบ.ตร. นั้น พล.ต.อ.จักรทิพย์ ผบ.ตร. กล่าวว่า เพื่อความเหมาะสม (อ้างอิงข่าวส่วนนี้จาก เว็บไซต์แนวหน้า https://www.naewna.com)
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/