"...ภายหลังจากที่มีข่าวว่า พล.ต.อ.อัศวิน ผู้ว่าฯ กทม. นำคณะผู้บริหารสำนักสิ่งแวดล้อม และเจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้าจับกุม รถขยะที่ไม่ได้รับอนุญาตเข้ามาทิ้งภายในโรงกำจัดขยะหนองแขม ของ ศูนย์กำจัดขยะหนองแขม และมีการระบุชื่อหจก.รายนี้ ว่า เป็นเจ้าของที่นำขยะเข้ามาทิ้งโดยไม่ได้รับอนุญาต ทำให้คนในพื้นที่ อบต.ท่าไม้ มองว่า เหตุผลที่ หจก.รายนี้ ลักลอบนำขยะไปทิ้งใน ศูนย์กำจัดขยะหนองแขม น่าจะมีสาเหตุมาจากความต้องการลดต้นทุนค่าใช้จ่ายของตนเองลง เนื่องจากโรงงานคัดแยกขยะใน ต.บางโทรัด เรียกเก็บค่าบริการทิ้งขยะค่อนข้างสูงอยู่ที่ตันละหลายร้อยบาท ขณะที่ อบต.ท่าไม้ ไม่ได้รู้เห็นอะไรด้วย เพราะเรื่องนี้เป็นการกระทำความผิดในส่วนของเอกชนกับข้าราชการ เจ้าหน้าที่ ลูกจ้าง ศูนย์กำจัดขยะหนองแขมเอง..."
หากใครที่ติดตามข้อมูลข่าวสารกรณี พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นำคณะผู้บริหารสำนักสิ่งแวดล้อม และเจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้าจับกุม รถขยะที่ไม่ได้รับอนุญาตเข้ามาทิ้งภายในโรงกำจัดขยะหนองแขม ของ ศูนย์กำจัดขยะหนองแขม ทำให้ราชการเสียหายเป็นจำนวนเงินหลายสิบล้านบาท เมื่อวันที่ 16 ม.ค.2563 ที่ผ่านมา ที่ สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org นำมาเสนออย่างต่อเนื่อง
คงพอจะได้รับข้อมูลเชิงลึกกันไปแล้วว่า พฤติการณ์การกระทำความผิดในคดีนี้ มีอยู่ 2 ส่วน ผ่านบุคคล 2 กลุ่ม คือ
1. กลุ่มเอกชน ประกอบได้วย เจ้าของรถขยะและคนขับรถขยะ ที่ลักลอบขนขยะเข้าไปทิ้งในโรงกำจัดขยะหนองแขม โดยมีข้อมูลปรากฎว่า รถขยะที่ถูกจับกุมได้ มีจำนวน 9 คัน ลักลอบขนขยะจาก อบต.สวนหลวง อบต.ท่าไม้ และแหล่งอื่นในจังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งเป็นขยะที่อยู่นอกเขตพื้นที่กรุงเทพฯ เพื่อมาทิ้งที่ศูนย์กำจัดขยะหนองแขมโดยไม่ผ่านเครื่องชั่ง ถือเป็นการกระทำทุจริตทำให้กรุงเทพมหานครเกิดความเสียหาย
2. กลุ่มข้าราชการ เจ้าหน้าที่ และลูกจ้างประจำ ของ ศูนย์กำจัดขยะหนองแขม ที่ปล่อยให้รถขนขยะของเอกชนเหล่านี้ นำขยะเข้าที่ทิ้งภายในโรงกำจัดขยะหนองแขม โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งตามระเบียบรถขยะที่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาทิ้งขยะได้ จะเป็นรถขยะของกทม. หรือหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ รวมไปถึงเอกชนบางรายที่มีการทำเรื่องขออนุญาต จ่ายค่าธรรมเนียมเป็นทางการเท่านั้น
โดยข้อมูลจากพล.ต.อ.อัศวิน ระบุว่า ขยะที่นำเข้ามาทิ้ง โดยไม่ได้ผ่านเครื่องตราชั่งน้ำหนัก เฉลี่ยวันละ 30 คัน ขนขยะเข้ามาทิ้ง ประมาณ 5 ตันต่อคัน รวมขยะที่นำมาทิ้ง 150 ตันต่อวัน ทำให้กทม.ได้รับความเสียหาย เพราะกทม. จ้างเอกชนขนขยะมูลฝอย เพื่อนำไปกำจัดโดยการฝังกลบ โดยค่าขน ที่กทม.ต้องจ่าย อยู่ที่ราคาตันละ 680 บาท ซึ่งกทม. จะต้องรับภาระจ่ายค่าขนขยะ จำนวน 150 ตัน คิดเป็นเงิน 1 แสนกว่าบาทต่อวัน เดือนละ 3-4 ล้านบาท ปีละ 30-40 ล้านบาท
ข้อมูลสำคัญส่วนหนึ่ง ที่ยังไม่ถูกเปิดเผยต่อสาธารณชน คือ ทำไม กลุ่มเอกชน เจ้าของรถขยะ ถึงตัดสินใจลับลอบนำขยะเข้ามาทิ้งไว้ที่ โรงกำจัดขยะหนองแขม โดยไม่ได้รับอนุญาต แบบนี้
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา ได้รับการยืนยันข้อมูลจากแหล่งข่าวใน อบต.ท่าไม้ ซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่ถูกระบุว่า เป็นต้นต่อขยะ ที่ถูกลักลอบนำเข้าไปทิ้งในโรงกำจัดขยะหนองแขมว่า ระบบการว่าจ้างเอกชนเข้ามาเป็นคู่สัญญาเก็บขยะในพื้นที่ ของ อบต.ท่าไม้ ในแต่ละปี จะมีการออกใบอนุญาตให้เอกชนเข้ามารับงานเก็บขยะตามบ้านเรือน โรงงานเอกชน
โดยเอกชนที่เข้ามารับหน้าที่นี้ จะเสียธรรมเนียมการออกใบอนุญาตให้อบต. เป็นจำนวนเงิน 5,000 บาท และจะต้องวางเงินค้ำประกันการทำงานตามอายุสัญญา 1 ปี เป็นจำนวนเงิน 5 หมื่นบาท ตามระเบียบราชการ
ส่วนเอกชน จะได้รับค่าตอบแทนจากการเก็บค่าบริการจัดเก็บขยะ ตามบ้านเรือนทั่วไปอยู่ที่ประมาณ 40-50 บาท/เดือน ขณะที่โรงงานเอกชน อัตราค่าบริการอยู่ที่ 80-100 บาท/เดือน หรือตามแต่จะตกลง
ทั้งนี้ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา อบต.ท่าไม้ มีการออกใบอนุญาตให้เอกชนรายหนึ่งเข้ามารับงานต่อเนื่องหลายปี จนกระทั่งถูกร้องเรียนเรื่องปัญหาการให้บริการ จึงเปลี่ยนรูปแบบการหาตัวเอกชนเข้ามารับหน้าที่จัดเก็บขยะใหม่ โดยใช้วิธีการคัดเลือก โดยให้ยื่นเอกสารประกอบการทำงาน รวมถึงข้อเสนอการกำจัดขยะในพื้นที่แบบครบวงจร
เบื้องต้นมีเอกชน 2 รายเข้ามาแข่งขันกัน คือ เอกชนรายเดิมที่ผูกรับงานมาตลอด กับ หจก.รายใหม่ โดยมีการแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาทำหน้าที่ในการคัดเลือก และเชิญตัวแทนหน่วยงานภายนอกมาเข้าร่วมพิจารณาด้วย
ผลการคัดเลือก ปรากฏว่า หจก.รายใหม่ ได้รับการคัดเลือกไป เนื่องจากยื่นเอกสารหลักฐานประกอบครบถ้วน โดยเสนอจุดที่จะนำขยะไปจัดการที่ โรงงานคัดแยกขยะแห่งหนึ่งใน ต.บางโทรัด
ซึ่งภายหลังจากที่มีข่าวว่า พล.ต.อ.อัศวิน ผู้ว่าฯ กทม. นำคณะผู้บริหารสำนักสิ่งแวดล้อม และเจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้าจับกุม รถขยะที่ไม่ได้รับอนุญาตเข้ามาทิ้งภายในโรงกำจัดขยะหนองแขม ของ ศูนย์กำจัดขยะหนองแขม และมีการระบุชื่อหจก.รายนี้ ว่า เป็นเจ้าของที่นำขยะเข้ามาทิ้งโดยไม่ได้รับอนุญาต
ทำให้คนในพื้นที่ อบต.ท่าไม้ มองว่า เหตุผลที่ หจก.รายนี้ ลักลอบนำขยะไปทิ้งใน ศูนย์กำจัดขยะหนองแขม น่าจะมีสาเหตุมาจากความต้องการลดต้นทุนค่าใช้จ่ายของตนเองลง เนื่องจากโรงงานคัดแยกขยะใน ต.บางโทรัด เรียกเก็บค่าบริการทิ้งขยะค่อนข้างสูงอยู่ที่ตันละหลายร้อยบาท
ขณะที่ อบต.ไม่ได้รู้เห็นอะไรด้วย เพราะเรื่องนี้เป็นการกระทำความผิดในส่วนของเอกชนกับข้าราชการ เจ้าหน้าที่ ลูกจ้าง ศูนย์กำจัดขยะหนองแขมเอง
ส่วนผู้ที่ทำเรื่องร้องเรียนไปยังกทม.ให้เข้ามาจับกุม คนในพื้นที่เชื่อมั่นหมื่นเปอร์เซ็นต์ว่า น่าจะเป็นฝีมือของกลุ่มเอกชน ที่พื้นที่ที่ผิดหวังไม่ได้รับงานเก็บขยะในพื้นที่ อบต.ท่าไม้ อีก หลังจากผูกขาดรับงานมายาวนานต่อเนื่องหลายปี
อย่างไรก็ดี ประเด็นที่น่าสนใจต่อมาก็คือ ในทางการสืบสวนข้อมูลของกทม. ระบุว่า ขบวนการลักลอบนำขยะมาทิ้งในโรงกำจัดขยะหนองแขม ทำกันมานานหลายปีแล้ว
นั้นหมายความว่า ก่อนหน้าที่ หจก.คู่สัญญาเก็บขยะกับ อบต.ท่าไม้ จะลักลอบนำขยะเข้าไปทิ้งในครั้งนี้แล้วถูกจับได้ จึงต้องมีเอกชนรายอื่น และในพื้นที่อื่น ที่ทำแบบนี้มาแล้วเหมือนกัน
ส่วนจะเป็นเอกชนรายใดบ้างนั้น? อัตราค่าตอบแทนที่จ่ายให้กับข้าราชการเจ้าหน้าที่ลูกจ้าง มีจำนวนเท่าไร? เส้นทางเงินจาก 'ส่วยขยะ' ที่เกิดขึ้น ถูกส่งไปถึงมือใครบ้าง?
คงต้องรอฟังผลการสอบสวนเป็นทางการจากเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามกันอีกครั้ง!
อ่านประกอบ :
ยอดพุ่ง 21 ราย! กทม.ตั้งสอบวินัยร้ายแรง'ขรก.-จนท.-ลูกจ้าง' เกลี้ยงศูนย์ขยะหนองแขม
เซ่นคดีลักลอบทิ้งขยะ! สอบวินัยร้ายแรงขรก.จนท.17 ราย-เด้งหน.ศูนย์หนองแขมเข้ากรุ 20 ม.ค.นี้
นายกฯสวนหลวง โวยถูกแอบอ้างชื่อ! ตามหา 'ทรัพย์อิ่มอำไภย' ตัวละครคดีทิ้งขยะที่ อัศวิน กล่าวถึง
สืบจากสติ๊กเกอร์! บ.เจ้าของรถลักลอบทิ้งขยะศูนย์หนองแขม เพิ่งจัดตั้ง 2 ด.ก่อนโดน 'อัศวิน' รวบ
ผู้ว่าฯ อัศวิน ลุยจับทุจริตลอบขนขยะทิ้งโรงกำจัดหนองแขม หลังพบงบพุ่งกว่า 3 ล้าน/เดือน
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/