รัฐจะต้องเปิดเผยข้อมูลการครอบครองที่ดิน ยกเลิกประกาศที่ดินรัฐทุกประเภทที่ซ้อนทับกับที่อยู่อาศัยและที่ดิน หรือพื้นที่สาธารณะของชุมชน ตรวจสอบดำเนินการตามกฎหมายอย่างเข้มงวดต่อผู้กระทำผิดในการออกเอกสารสิทธิที่ดิน และหรือผู้ที่ครอบครองที่ดินโดยผิดกฎหมาย โดยเฉพาะนายทุน นักการเมืองที่ใช้อิทธิพล อำนาจในการครอบครองที่ดิน สปก. หรือ ภบท. อย่างมิชอบ
วันที่ 7 ธันวาคม ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (P-Move) สถาบันวิจัยสังคม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มูลนิธิพัฒนาภาคเหนือ (มพน.) มูลนิธิชุมชนไท กลุ่มจับตาปัญหาที่ดิน และคณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน (กป.อพช.) ได้จัดเวทีเสวนาเรื่อง “จากปารีณา 1,700 ถึงกรณีปัญหาที่ดินป่าไม้ของคนจน รัฐบาลประยุทธ์มีกี่มาตรฐาน ?” ณ ห้อง 103 ตึก 1 คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วยประชาชน นักพัฒนาเอกชน นักวิชาการ และนักกฎหมาย โดยเฉพาะเรื่องราวจากคนเล็กคนน้อยผู้ที่เผชิญกับผลกระทบอย่างรุนแรงจากนโยบายการทวงคืนผืนป่า สะท้อนให้เห็นถึงช่องว่างมหาศาลของสังคมไทย และความเหลื่อมล้ำ ไร้มาตรฐาน เลือกปฏิบัติของรัฐต่อประชาชนคนยากคนจนกับนายทุนและนักการเมืองผู้มีอำนาจอิทธิพล โดยได้มีข้อเรียกร้อง ดังนี้
1. การปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมให้เป็นอิสระและให้ความสำคัญกับข้อเท็จจริงจากพื้นที่ พิจารณาให้มีการนิรโทษกรรมให้แก่ชาวบ้านที่โดนดำเนินคดีอันเนื่องมาจากนโยบายทวงคืนผืนป่า และคดีที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะชาวบ้านที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากนโยบายของรัฐ รวมถึงความบิดเบือนในการดำเนินการ อาทิ คดีโลกร้อน โดยจะต้องมีการจัดตั้งกองทุนเยียวยาแก่ผู้ได้รับผลกระทบทั้งในระดับบุคคล ครอบครัว และชุมชนจากกฎหมาย นโยบาย และการดำเนินการที่ผิดพลาดของทุกหน่วยงาน
2. รัฐบาลจะต้องยกเลิกนโยบายทวงคืนผืนป่า แผนแม่บทการพิทักษ์ทรัพยากรป่าไม้ของชาติ พ.ศ.2557 โดยกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อยุติการขยายผลกระทบจากนโยบายดังกล่าวทันที และจะต้องให้เอาหน่วยงานทหาร และหน่วยงานด้านความมั่นคงออกจากกลไกการแก้ไขปัญหาป่าไม้ที่ดิน เพื่อให้หน่วยงานที่รับผิดชอบด้านที่ดินและทรัพยากรป่าไม้สามารถแก้ไขปัญหาร่วมกับชุมชนและผู้ได้รับผลกระทบ
3. การปฏิรูปกฎหมายป่าไม้ ทบทวนและแก้ไขนิยามคำว่า ป่าไม้ตามมาตรา 4 พระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 ยกเลิกมติคณะรัฐมนตรี พระราชบัญญัติที่เกี่ยวข้องกับป่าไม้ที่ดินทุกฉบับ รวมทั้งคำสั่งภายใต้รัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เนื่องจากเป็นนโยบายและกฎหมายที่ขาดการมีส่วนร่วมของประชาชน ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อประชาชนในวงกว้าง รัฐจะต้องทำให้ประชาชนเชื่อมั่นว่าการดำเนินการทางนโยบายและกฎหมายจะต้องยืนอยู่บนหลักการสิทธิมนุษยชน การรับรองสิทธิชุมชน และจะต้องให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของประชาชนในการบริหารจัดการที่ดินและทรัพยากรธรรมชาติ เพื่อแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำ และประชาชนสามารถเข้าถึงที่ดินอันเป็นปัจจัยพื้นฐานในการดำรงชีวิตและการประกอบอาชีพได้อย่างเป็นธรรม
4. รัฐจะต้องเปิดเผยข้อมูลการครอบครองที่ดิน ยกเลิกการประกาศที่ดินรัฐทุกประเภทที่ซ้อนทับกับที่อยู่อาศัยและที่ดินหรือพื้นที่สาธารณะของชุมชน จัดการตรวจสอบและดำเนินการตามกฎหมายอย่างเข้มงวดต่อผู้กระทำผิดในการออกเอกสารสิทธิที่ดิน และ/หรือผู้ที่ครอบครองที่ดินโดยผิดกฎหมายโดยเฉพาะนายทุนและนักการเมืองที่มีการใช้อิทธิพลและอำนาจในการครอบครองที่ดินเพื่อการปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตรกรรม (สปก.) หรือ ภบท. อย่างมิชอบ รวมถึงให้ผู้เกี่ยวข้องทุกระดับจะต้องแสดงความรับผิดชอบในทุกกรณี ทั้งที่เป็นข่าวและไม่เป็นข่าว
ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรมจะร่วมกับเครือข่ายประชาชนทั่วประเทศ เพื่อติดตามสถานการณ์การจัดการป่าไม้ที่ดินของรัฐและการแก้ปัญหาที่ดินของคนจนตามข้อเรียกร้องดังกล่าวให้มีผลปฏิบัติ จนถึงที่สุดข้อเรียกร้องต่อรัฐและผู้เกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหาที่ดินป่าไม้