ที่สำคัญคือไม่มีการให้กรรมการแต่ละคนออกเสียงในเรื่องที่ขอมติ ดังนั้น สรุปได้ว่า มติของคณะกรรมการวัตถุอันตรายที่เลื่อนการแบนสามสารพิษ จึงไม่ใช่มติที่ชอบด้วยกฎหมาย หรือพูดอีกอย่างได้ว่า เท่ากับยังไม่มีมติใหม่
ผศ.ดร.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล อาจารย์ประจำภาควิชากฎหมายมหาชน คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์เฟชบุค กรณีมติคณะกรรมการวัตถุอันตรายที่เลื่อนการแบนสามสารพิษชอบด้วยกฎหมายหรือไม่
ตามที่คุณสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และประธานคณะกรรมการวัตถุอันตราย ได้แถลงว่า คณะกรรมการวัตถุอันตรายมีมติเป็นเอกฉันท์ให้เลื่อนการแบนสามสารพิษทางการเกษตรออกไป 6 เดือน แต่รองศาสตราจารย์เภสัชกร จิราภรณ์ ลิ้มปานานนท์ ได้ออกมาแย้งว่า ในการประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตรายครั้งนี้ ไม่มีการลงมติอย่างชัดเจนว่ากรรมการแต่ละท่านเห็นด้วยหรือไม่ในแต่ละประเด็น แต่เป็นภาวะจำยอม
คำถามคือเมื่อไม่มีการให้กรรมการลงมติ จะถือว่าเป็นมติของคณะกรรมการวัตถุอันตรายที่ชอบด้วยกฎหมายได้หรือไม่?
ในฐานะที่เป็นอาจารย์ที่สอนวิชากฎหมายมหาชนเบื้องต้น ที่สอนเรื่องการลงมติ มาทุกเทอม จึงขอเอากรณีนี้มาให้สาธารณชนได้พิจารณา และเป็นกรณีศึกษาให้นักศึกษากฎหมายมหาชนได้เรียนรู้กัน ดังนี้
พระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ.2535 มาตรา 12 วรรคสอง บัญญัติว่า
“การวินิจฉัยชี้ขาดของที่ประชุมให้ถือเสียงข้างมาก กรรมการคนหนึ่งให้มีเสียงหนึ่งในการลงคะแนน ถ้าคะแนนเสียงเท่ากันให้ประธานในที่ประชุมออกเสียงเพิ่มขึ้นอีกเสียงหนึ่งเป็นเสียงชี้ขาด ..”
นั้นหมายความว่า จะเรียกว่าเป็นการลงมติได้ จะต้องให้กรรมการแต่ละคนได้ออกเสียงในแต่ละประเด็น โดยให้กรรมการคนหนึ่งมีหนึ่งเสียง
และเมื่อต้องมีการออกเสียง ก็ต้องมีการตรวจสอบองค์ประชุมก่อนด้วย ซึ่ง พรบ.วัตถุอันตราย มาตรา 12 วรรคหนึ่ง บัญญัติว่า
“การประชุมของคณะกรรมการต้องมีกรรมการมาประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนกรรมการทั้งหมดจึงจะเป็นองค์ประชุม”
ตามข้อเท็จจริงจากอาจารย์จิราภรณ์ ไม่ได้มีการให้กรรมการแต่ละคนได้ลงมติหนึ่งคนหนึ่งเสียงแต่ประการใด ซึ่งสอดคล้องกับที่นายสุริยะได้ให้สัมภาษณ์ไว้ คือตนเองสันนิษฐานเอา ทั้งไม่ปรากฏว่ามีการตรวจสอบองค์ประชุมแต่ประการใดว่ามีสมาชิกมาประชุมอย่างน้อยกึ่งหนึ่งแล้วหรือไม่
แม้จะมีหลักฐานการเซ็นชื่อเข้าประชุมว่า มีกรรมการมาประชุมตอนเริ่มประชุมครบองค์ประชุม แต่เรื่องนี้ทั้งศาลรัฐธรรมนูญและศาลฎีกา ได้เคยวินิจฉัยเป็นบรรทัดฐานไว้แล้วว่า องค์ประชุมต้องครบตลอดเวลาไปถึงตอนลงมติ จึงต้องนับองค์ประชุมตอนลงมติว่าครบหรือไม่ จากคะแนนเสียงทั้งหมดที่ออก แต่เมื่อไม่มีการให้กรรมการลงมติจึงไม่อาจทราบได้เลยว่าองค์ประชุมตอนลงมติครบองค์ประชุมหรือไม่
และที่สำคัญคือไม่มีการให้กรรมการแต่ละคนออกเสียงในเรื่องที่ขอมติ ดังนั้น สรุปได้ว่า มติของคณะกรรมการวัตถุอันตรายที่เลื่อนการแบนสามสารพิษ จึงไม่ใช่มติที่ชอบด้วยกฎหมาย หรือพูดอีกอย่างได้ว่า เท่ากับยังไม่มีมติใหม่
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/