EXCLUSIVE: เปิดพฤติการณ์ 32 บริษัทเอกชนกลุ่ม ‘วีรยุทธ แซ่หลก’ แจ้งประกอบธุรกิจส่งออกแร่ ขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นเท็จ 4.3 พันล้านเศษ แบ่ง 2 โซน เขต 22 บางรัก กทม.-เขต 1 สมุทรปราการ เริ่มตั้งแต่ มี.ค. 54-ก.พ. 56 ก่อน ป.ป.ช.ชี้มูลบิ๊กข้าราชการ-สอบความผิดทางละเมิด สั่ง ‘สาธิต รังคสิริ-อดีตซี 8-9’ ชดใช้ 4 พันล้าน
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานแล้วว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ คณะกรรมการสอบสวนความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่รัฐ กระทรวงการคลัง ได้สรุปผลการสอบสวนอดีตข้าราชการกรมสรรพากร อย่างน้อย 12 ราย กรณีคดีคืนภาษีมูลค่าเพิ่มอันเป็นเท็จมูลค่ารวมกว่า 4 พันล้านบาท โดยมีอดีตข้าราชการระดับสูงอย่างน้อย 4 ราย ต้องชดใช้เงินคืนกระทรวงการคลัง ได้แก่ นายสาธิต รังคสิริ อดีตอธิบดีกรมสรรพากร นายศุภกิจ ริยะการ อดีตข้าราชการระดับ 9 สำนักงานสรรพากร กทม. พื้นที่ 22 (บางรัก) นายพายุ สุขสดเขียว อดีตข้าราชการระดับ 9 สำนักงานสรรพากรสมุทรปราการ พื้นที่ 1 และนายสุวัฒน์ จารุมณีโรจน์ อดีตข้าราชการระดับ 8 สำนักงานสรรพากร กทม. พื้นที่ 22 รวมวงเงินกว่า 4.5 พันล้านบาท (อ่านประกอบ : สั่ง‘สาธิต-อดีตซี 8-9’ชดใช้ 4 พันล.! เปิดผลสอบ กก.รับผิดทางละเมิด ก.คลังคดีคืนภาษี)
ชนวนเหตุของกรณีนี้ เกิดขึ้นจากสำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบข้อมูลบริษัทเอกชนที่ทำเรื่องขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มกว่า 30 บริษัท ระหว่างปี 2554-2556 พบว่า บริษัทต่าง ๆ เหล่านั้นไม่ได้ประกอบธุรกิจจริง แต่มีการมาขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มกว่า 4 พันล้านบาท ต่อมาสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ไต่สวนข้อเท็จจริง และมีมติชี้มูลความผิดทางวินัยร้ายแรง ทางอาญา รวมถึงกรณีร่ำรวยผิดปกติแก่ นายสาธิต นายศุภกิจ นายพายุ นายสุวัฒน์ และข้าราชการที่เกี่ยวข้อง และกลุ่มเอกชนของนายวีรยุทธ แซ่หลก ขณะที่ขั้นตอนของกระทรวงการคลัง มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง และมีมติให้นายสาธิต นายศุภกิจ นายพายุ และนายสุวัฒน์ รวมถึงข้าราชการที่เกี่ยวข้องถูกไล่ออกจากราชการ นอกจากนี้ยังตั้งคณะกรรมการสอบสวนความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่รัฐดังกล่าว เพื่อให้ชดใช้เงินคืนแก่กระทรวงการคลังด้วย (อ่านประกอบ : ปิดคดีทุจริตคืนภาษี 4.3 พันล.ฟัน 6 ขรก. 28 เอกชน-4 บิ๊กรวยผิดปกติ 1.3 พันล., 5 ปีคดีคืนภาษีฉาว 4.3 พันล. ป.ป.ช. ฟัน 3 ขรก.สรรพากรก่อน'สาธิต'โดนรวยผิดปกติ)
ความคืบหน้าคดีนี้ เมื่อวันที่ 18 ก.ค. 2562 สำนักข่าวอิศรา ได้รับการยืนยันจากแหล่งข่าวในสำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) ว่า สำหรับความผิดทางอาญาที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิด กรณีรายนายสาธิต กับพวก คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้ส่งสำนวนการไต่สวนไปให้อัยการแล้วตั้งแต่ปี 2560 อย่างไรก็ดีมีพยานหลักฐานบางส่วนยังไม่สมบูรณ์ ฝ่ายอัยการและ ป.ป.ช. จึงตั้งคณะทำงานร่วมเพื่อพิจารณาข้อไม่สมบูรณ์ขึ้นมา ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมเอกสารหลักฐานต่าง ๆ เพื่อเตรียมยื่นฟ้องต่อศาลอาญาแผนกคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางในเร็ว ๆ นี้
ส่วนกรณีร่ำรวยผิดปกตินั้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เพื่อขอให้ทรัพย์สินของนายสาธิต กับพวก ประมาณ 1.3 พันล้านบาท ตกเป็นของแผ่นดินแล้ว ปัจจุบันอยู่ระหว่างไต่สวนพยาน
ส่วนกรณีกระทรวงการลัง แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิดกับเจ้าหน้าที่รัฐ กรณีทุจริตการคืนภาษีเท็จนั้น คณะกรรมการสอบสวนฯ ได้สรุปผลออกมาแล้ว โดยนายสาธิต กับพวก ต้องชดใช้เงินร่วมกันประมาณ 4.5 พันล้านบาท หากนายสาธิต กับพวกไม่ชดใช้ค่าเสียหาย สามารถบังคับคำสั่งทางปกครองได้ตาม พ.ร.บ.วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง อย่าไงรก็ดีนายสาธิต กับพวกสามารถฟ้องต่อศาลปกครอง โดยอ้างว่าเป็นคำสั่งที่มิชอบด้วยกฎหมายได้ แต่ถ้าไม่ฟ้องให้ถือว่าคำสั่งถึงที่สุด กระทรวงการคลังต้องบังคับทางปกครอง โดยสืบหาทรัพย์สินและทำการยึดอายัด ถ้าไม่มี หรือมีไม่พอ ต้องฟ้องต่อศาลเป็นคดีล้มละลายต่อไป (อ่านประกอบ : ป.ป.ช.-อัยการตั้งคณะทำงานร่วมฯ ‘สาธิต-พวก’คดีทุจริตคืนภาษี ปมรวยผิดปกติไต่สวนในศาลแล้ว)
ในผลสรุปการสอบสวนของคณะกรรมการสอบสวนความรับผิดทางละเมิดเจ้าหน้าที่รัฐ ของกระทรวงการคลัง ในกรณีนี้ ระบุถึงพฤติการณ์การขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มของบริษัทเอกชนอย่างน้อย 32 แห่ง มูลค่ารวมกว่า 4 พันล้านบาทไว้อย่างละเอียด
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org เรียบเรียงให้สาธารณชนรับทราบ ดังนี้
คณะกรรมการสอบสวนความผิดทางละเมิดกระทรวงการคลัง สรุปข้อเท็จจริงว่า กรณีนี้มีกลุ่มบริษัทเอกชนอย่างน้อย 32 แห่ง ประกอบธุรกิจการส่งออกเศษโลหะ และแร่โลหะ เพิ่งจดทะเบียนนิติบุคคล และส่งออกสินค้า แต่ถูกไต่สวนพบว่า มิได้ประกอบการจริง แสดงให้เห็นว่ากลุ่มเอกชนเหล่านี้ มิได้มีการซื้อสินค้าเพื่อส่งออกจริง และไม่ได้ประกอบการจริงเช่นกัน แต่กลับได้รับอนุมัติคืนเงินภาษีมูลค่าเพิ่มในหลายเดือนภาษี อันเกิดแต่อดีตข้าราชการกรมสรรพากรผู้ถูกกล่าวหาพิจารณา และร่วมกันทุจริต เพื่อฉ้อฉลเอาเงินคืนภาษีมูลค่าเพิ่มดังกล่าวไปโดยผิดกฎหมาย
รวม 32 บริษัท แบ่งเป็นพื้นที่ กทม. เขต 22 (บางรัก) จำนวน 25 บริษัท และพื้นที่สมุทรปราการ เขต 1 จำนวน 7 บริษัท รวมมูลค่าความเสียหายทั้งสิ้น 4,346,815,252 บาท
@กลุ่มเอกชนขอคืนภาษีพื้นที่ กทม. 25 ราย รวมวงเงิน 3,206,036,331 บาท
1.บริษัท เกิดทรัพย์มั่งมี จำกัด ขอคืนภาษี 6 เดือน (พ.ค.-ต.ค. 2555) รวม 176,976,137 บาท
2.บริษัท โอ เอ โอ พี จำกัด ขอคืนภาษี 6 เดือน (พ.ค.-ต.ค. 2555) รวม 171,736,980 บาท
3.บริษัท เค เค พี โอ ไอ จำกัด ขอคืนภาษี 6 เดือน (พ.ค.-ต.ค. 2555) รวม 182,403,841 บาท
4.บริษัท หอกิตติทรัพย์ จำกัด ขอคืนภาษี 6 เดือน (พ.ค.-ต.ค. 2555) รวม 179,718,004 บาท
5.บริษัท จี จี พี เอส ไอ จำกัด ขอคืนภาษี 6 เดือน (พ.ค.-ต.ค. 2555) รวม 177,685,341 บาท
6.บริษัท พี เอส สำราญ จำกัด ขอคืนภาษี 6 เดือน (พ.ค.-ต.ค. 2555) รวม 174,534,006 บาท
7.บริษัท พีพีทรัพย์โลหะ จำกัด ขอคืนภาษี 3 เดือน (ก.ย.-พ.ย. 2555) รวม 117,224,045 บาท
8.บริษัท นำชัยเจริญโลหะเก่า จำกัด ขอคืนภาษี 3 เดือน (ก.ย.-พ.ย. 2555) รวม 103,463,797 บาท
9.บริษัท ที ที เมทัล เทรดดิ้ง จำกัด ขอคืนภาษี 3 เดือน (ก.ย.-พ.ย. 2555) รวม 102,445,510 บาท
10.บริษัท วี เอ็ม ที เมทัล จำกัด ขอคืนภาษี 3 เดือน (ก.ย.-พ.ย. 2555) รวม 101,902,053 บาท
11.บริษัท เค วี เมทัล จำกัด ขอคืนภาษี 3 เดือน (ก.ย.-พ.ย. 2555) รวม 112,841,346 บาท
12.บริษัท เอ็ม กรุ๊ป เมทัล จำกัด ขอคืนภาษี 3 เดือน (ก.ย.-พ.ย. 2555) รวม 104,055,959 บาท
13.บริษัท บี เค แอล เมทัล จำกัด ขอคืนภาษี 4 เดือน (พ.ย. 2555-ก.พ. 2556) รวม 116,202,627 บาท
14.บริษัท โอ เค เมทัล เทรดดิ้ง จำกัด ขอคืนภาษี 4 เดือน (พ.ย. 2555-ก.พ. 2556) รวม 122,317,382 บาท
15.บริษัท ซัพพลาย เมทัล จำกัด ขอคืนภาษี 4 เดือน (พ.ย. 2555-ก.พ. 2556) รวม 116,825,475 บาท
16.บริษัท เอส ยู พี สตีล จำกัด ขอคืนภาษี 4 เดือน (พ.ย. 2555-ก.พ. 2556) รวม 118,693,361 บาท
17.บริษัท เมเจอร์ เมทัล จำกัด ขอคืนภาษี 4 เดือน (พ.ย. 2555-ก.พ. 2556) รวม 123,477,301 บาท
18.บริษัท ลีดเดอร์ สตีล จำกัด ขอคืนภาษี 4 เดือน (พ.ย. 2555-ก.พ. 2556) รวม 117,714,313 บาท
19.บริษัท เดอะสตาร์ กรุ๊ป จำกัด ขอคืนภาษี 4 เดือน (พ.ย. 2555-ก.พ. 2556) รวม 113,907,755 บาท
20.บริษัท ไอ เอส เอส เทรดดิ้ง จำกัด ขอคืนภาษี 4 เดือน (พ.ย. 2555-ก.พ. 2556) รวม 130,251,974 บาท
21.บริษัท ดีเอส ที เทรดดิ้ง จำกัด ขอคืนภาษี 4 เดือน (พ.ย. 2555-ก.พ. 2556) รวม 120,991,447 บาท
22.บริษัท แซด คาซ่า จำกัด ขอคืนภาษี 4 เดือน (พ.ย. 2555-ก.พ. 2556) รวม 118,118,957 บาท
23.บริษัท สเตท เทรด จำกัด ขอคืนภาษี 4 เดือน (พ.ย. 2555-ก.พ. 2556) รวม 117,826,999 บาท
24.บริษัท ไซเบอร์ เทรดดิ้ง จำกัด ขอคืนภาษี 3 เดือน (ธ.ค. 2555-ก.พ. 2556) รวม 88,107,584 บาท
25.บริษัท วี อี อาร์ เค จำกัด ขอคืนภาษี 3 เดือน (ธ.ค. 2555-ก.พ. 2556) รวม 96,624,126 บาท
@กลุ่มเอกชนขอคืนภาษีพื้นที่สมุทรปราการ 7 ราย รวมวงเงิน 1,140,778,921 บาท
1.บริษัท ฟรีไทม์ ค้าโลหะ จำกัด ขอคืนภาษี 7 เดือน (มิ.ย.-ธ.ค. 2555) รวม 117,685,332 บาท
2.บริษัท เอ็นอีเอ โลหะการค้า จำกัด ขอคืนภาษี 7 เดือน (มิ.ย.-ธ.ค. 2555) รวม 116,333,255 บาท
3.บริษัท เอส เอส พี เมทัล จำกัด ขอคืนภาษี 8 เดือน (พ.ค.-ธ.ค. 2555) รวม 136,592,084 บาท
4.บริษัท ดี เอส พี เอ็กปอร์ต จำกัด ขอคืนภาษี 8 เดือน (พ.ค.-ธ.ค. 2555) รวม 139,969,912 บาท
5.บริษัท บีบี กรุ๊ปวัน จำกัด ขอคืนภาษี 21 เดือน (มี.ค. 2554-ธ.ค. 2555) รวม 231,382,931 บาท
6.บริษัท บีบี บิ๊ก จำกัด ขอคืนภาษี 21 เดือน (มี.ค. 2554-ธ.ค. 2555) รวม 238,530,834 บาท
7.บริษัท บีบี รีไซเคิล จำกัด ขอคืนภาษี 21 เดือน (มี.ค. 2554-ธ.ค. 2555) รวม 160,284,570 บาท
ข้อมูลล่าสุดสำหรับบริษัทเหล่านี้ ส่วนใหญ่ถูกศาลล้มละลายมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดไปเกือบทั้งหมดแล้ว
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/