
“...ความเป็นได้ของพรรคเพื่อไทยที่จะได้นายชัยเกษมเป็นนายกรัฐมนตรี นายทักษิณต้องอยู่ แต่ถ้านายทักษิณไม่อยู่ในประเทศ ไม่ไปฟังคำพิพากษา หรืออยู่ในเรือนจำ ความเป็นไปได้ที่นายอนุทินจะเป็นนายกรัฐมนตรีก็เยอะกว่า แต่ถ้านายทักษิณยังอยู่ในประเทศ ไปฟังคำพิพากษา ยังคอยบัญชาการอยู่ ความเป็นไปได้ของนายชัยเกษมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีก็จะเยอะขึ้น ส่วนความเป็นได้ของพลเอกประยุทธ์ ไม่สามารถคาดการณ์ได้...”
หมายเหตุ : สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) นายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) วิเคราะห์ฉากทัศน์การเมืองหลังสูญญากาศ ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้นางสาว แพทองธาร ชินวัตร หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีจนกว่าจะมีคำวินิจฉัย กรณีปรากฏคลิปเสียงสนทนากับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เรื่องข้อพิพาทบริเวณชายแดนไทยกับกัมพูชา

อ่านประกอบ : ศาลรธน.มติ 7: 2 สั่ง 'แพทองธาร' หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกฯ-เอกฉันท์รับคำร้องกรณีคลิปฮุนเซน
@ จะมีการเลือกตั้งเมื่อไหร่
อยู่ที่นางสาวแพทองธารว่าจะพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเมื่อไหร่ และจะเกิดการยุบสภาหรือไม่ หรือ เลือกนายกฯใหม่ ซึ่งคาดว่าคดีของนางสาวแพทองธารศาลรัฐธรรมนูญจะตัดสินในเดือนสิงหาคม ดูจากกรณีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญกรณีนายเศรษฐา
การยุบสภาไม่น่าจะเกิดขึ้น เพราะไม่มีนายกรัฐมนตรี ส่วนนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ในฐานะนายกรัฐมนตรีรักษาการ จะเสนอไปมีความเสี่ยงสูง เพราะการยุบสภาเป็นพระราชอำนาจ โดยประเพณีปฏิบัติต้องเป็นนายกรัฐมนตรีนำความกราบบังคมทูล เมื่อยุบสภาไม่ได้ก็ต้องเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ซึ่งมีอยู่ 2 ทาง หรือ 3 ทาง
-
ทางที่หนึ่ง นายกรัฐมนตรีมาจากพรรคเพื่อไทย คือ นายชัยเกษม นิติศิริ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เพื่อไทย
-
ทางที่สอง นายกรัฐมนตรีมาจากพรรคภูมิใจไทย คือ นายอนุทิน ชาญวีรกูล แคนดินเดตนายกรัฐมนตรี ภูมิใจไทย
-
ทางที่สาม นายกรัฐมนตรีมาจากพรรครวมไทยสร้างชาติ คือ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี รวมไทยสร้างชาติ
@ ทางไหนมีความเป็นไปได้มากที่สุด
ต้องดูว่าระหว่างที่นางสาวแพทองธารจะพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี มีเรื่องของนายทักษิณ เรื่องคดีชั้น 14 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองนัดไต่สวนพยานนัดสุดท้าย วันที่ 30 ก.ค.68 หลังจากนั้นศาลก็จะนัดฟังคำพิพากษาคาดว่าจะภายในเดือนสิงหาคม กับคดีมาตรา 112 ศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาวันที่ 22 ส.ค.68 นายทักษิณจะไปฟังหรือไม่ ดังนั้น จึงอยู่ที่สถานะของนายทักษิณด้วย
“ความเป็นได้ของพรรคเพื่อไทยที่จะได้นายชัยเกษมเป็นนายกรัฐมนตรี นายทักษิณต้องอยู่ แต่ถ้านายทักษิณไม่อยู่ในประเทศ ไม่ไปฟังคำพิพากษา หรืออยู่ในเรือนจำ ความเป็นไปได้ที่นายอนุทินจะเป็นนายกรัฐมนตรีก็เยอะกว่า แต่ถ้านายทักษิณยังอยู่ในประเทศ ไปฟังคำพิพากษา ยังคอยบัญชาการอยู่ ความเป็นไปได้ของนายชัยเกษมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีก็จะเยอะขึ้น ส่วนความเป็นได้ของพลเอกประยุทธ์ ไม่สามารถคาดการณ์ได้”
ฝ่ายที่เชื่อว่า นายทักษิณจะไม่อยู่ ก็จะเชื่อว่านายอนุทินได้เป็นนายกรัฐมนตรี ฝ่ายที่ยังหวังว่านายทักษิณยังมีบารมี ยังผลักดันอะไรได้ ก็จะเชื่อว่า นายชัยเกษมจะได้เป็นนายกรัฐมนตรี
“ในช่วงที่นายทักษิณจะอยู่หรือไม่อยู่ และนางสาวแพทองธารพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี สถานการณ์ของพรรคเพื่อไทยจะเหมือนแพแตก”
@ นางสาวแพทองธารจะมีโอกาสรอดหรือไม่
ไม่มี เข้าข้อไม่ซื่อสัตย์สุจริต เสื่อมเสียเกียรติศักดิ์ของนายกรัฐมนตรี
ถึงตอนนั้นก็ต้องดูคดีในคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่่เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.68 รับคำร้องกล่าวหานางสาวแพทองธาร นายเศรษฐา ทวีสิน ขณะดำรงตำแหน่งนายกฯ สส. สว. กรณีการร่วมกันเสนอขอเพิ่มและเปลี่ยนแปลงร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 โดยปรับลดรายจ่ายงบประมาณสำหรับใช้หนี้รัฐวิสาหกิจ 5 แห่ง 3.5 หมื่นล้านบาท แล้วนำไปเพิ่มเป็นงบประมาณรายจ่ายตาม พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 รายจ่ายงบกลาง เกี่ยวกับค่าใช้จ่ายเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจ (Digital Wallet) หรือ แจกเงินหมื่น ซึ่งอาจเป็นการฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ มาตรา 144 วรรคหนึ่งและวรรคสอง ด้วยว่าจะชี้มูลความผิดหรือไม่ และจะใช้เวลาเท่าไหร่ก่อนจะส่งไปศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 15 วัน
“ความเห็นทางกฎหมายส่วนตัวคิดว่า สส.และสว.ที่ลงมติเห็นด้วยไม่ผิด เพราะมีเอกสิทธิ์คุ้มครองตามรัฐธรรมนูญมาตรา 124 วรรคหนึ่ง ถ้า ป.ป.ช.ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า ผิด ครม.ทั้งคณะต้องพ้นจากตำแหน่ง เป็นเรื่องใหญ่”

@ ไพบูลย์ นิติตะวัน @

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา