"...มีการจับตาว่าอาจเป็นการมาหารือทางการเมืองหรือไม่ เนื่องจากก่อนหน้านี้เคยมีกระแสข่าวว่า ‘ยศชนัน วงศ์สวัสดิ์’ บุตรชาย อาจได้รับการแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีใน ครม.แพทองธาร 1/2 ทว่าก็มิได้เกิดขึ้น โดยมีการปล่อยข่าวเพิ่มเติมว่า เก็บตัว ‘ยศชนัน’ เอาไว้เป็น ‘แม่ทัพชินวัตรรุ่น 4’ น่าจะเหมาะสมกว่าให้มาเป็นเสนาบดีในช่วงเวลานี้ ที่รัฐบาลกำลังบอบช้ำ และเพลี้ยงพล้ำเสียคะแนนนิยมอย่างหนัก..."
โปรดเกล้าฯ ครม.แพทองธาร ชินวัตร 1/2 แล้วตั้งแต่ช่วงเช้าวันนี้ (1 กรกฏาคม 2568) โดยส่วนใหญ่เป็นไปตามโผที่คาดหมายไว้ นั่นคือ ‘แพทองธาร ชินวัตร’ นายกรัฐมนตรี ควบเก้าอี้ รมว.วัฒนธรรม ‘ภูมิธรรม เวชยชัย’ นั่งรองนายกฯ ควบ มท.1
ส่วน รมว.กลาโหม ยังไม่มีบุคคลใดไปดำรงตำแหน่ง เพราะคาดการณ์กันว่าจะให้ ‘บิ๊กเล็ก’ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม รักษาการแทนไปพลางก่อน ในช่วงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ยังคงตึงเครียด ว่ากันว่าเพื่อรอให้ “บิ๊กแก้ว” พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ อดีต สว.และอดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด พ้นกำหนดกรอบเงื่อนเวลาตามรัฐธรรมนูญ กรณีต้องพ้น สว.ครบ 2 ปีถึงดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้ ในวันที่ 30 ก.ย.นี้ มานั่งเก้าอี้ รมว.กลาโหม
โดย ณัฐฎ์จารี อนันตศิลป์ เลขาธิการคณะรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้มีการประกาศโปรดเกล้าคณะรัฐมนตรีชุดใหม่เรียบร้อยแล้ว และประกาศในราชกิจจานุเบกษา เรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนหลังจากนี้ จะมีการนำ ครม.ชุดใหม่ เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณ วันที่ 3 ก.ค. 2568
ท่ามกลางสถานการณ์ทางการเมืองกำลังร้อนแรง โดยเฉพาะในเดือน ก.ค.ที่ว่ากันว่าถึง ‘จุดไคลแม็กซ์’ ทางการเมือง เพราะ ‘2 พ่อลูกชินวัตร’ ต่างทยอยถูกศาลพิจารณากันทั้งคู่ เริ่มจาก ‘นายกฯอิ๊งค์’ วันนี้ ศาลรัฐธรรมนูญ จะพิจารณากรณีประธานวุฒิสภา ส่งเรื่องจาก สว.ร้องเรียนถอดถอนนายกฯ พร้อมกับสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่เป็นการชั่วคราว จนกว่าจะมีคำวินิจฉัย กล่าวหาปมคลิปเสียง ‘ฮุน เซน’ และในวันเดียวกัน ‘อดีตนายกฯทักษิณ’ เดินทางไปศาลอาญา เพื่อไต่สวนพยานฝ่ายโจทก์นัดแรก คดีถูกกล่าวหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 โดยจะเป็นการพิจารณาแบบลับ มิได้อนุญาตให้สื่อ เครือญาติ หรือประชาชนเข้าฟัง
ประเด็นที่น่าสนใจ ในวันสืบพยานคดี ‘ทักษิณ’ ปรากฏภาพ ‘สมชาย วงศ์สวัสดิ์’ อดีตนายกฯ ในฐานะ ‘น้องเขย’ และสามี ‘เยาวภา วงศ์สวัสดิ์’ น้องสาวทักษิณ เดินทางมาด้วย โดยเขาให้สัมภาษณ์สั้น ๆ ว่า มาให้กำลังใจอดีตนายกฯทักษิณ
มีการจับตาว่าอาจเป็นการมาหารือทางการเมืองหรือไม่ เนื่องจากก่อนหน้านี้เคยมีกระแสข่าวว่า ‘ยศชนัน วงศ์สวัสดิ์’ บุตรชาย อาจได้รับการแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีใน ครม.แพทองธาร 1/2 ทว่าก็มิได้เกิดขึ้น โดยมีการปล่อยข่าวเพิ่มเติมว่า เก็บตัว ‘ยศชนัน’ เอาไว้เป็น ‘แม่ทัพชินวัตรรุ่น 4’ น่าจะเหมาะสมกว่าให้มาเป็นเสนาบดีในช่วงเวลานี้ ที่รัฐบาลกำลังบอบช้ำ และเพลี้ยงพล้ำเสียคะแนนนิยมอย่างหนัก
กลับมาที่ ครม.แพทองธาร 1/2 ใครเป็นใครกันบ้าง สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) สรุปให้ทราบ ดังนี้
1.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯควบ รมว.วัฒนธรรม แม้ว่าเธอจะให้สัมภาษณ์ตั้งแต่วานนี้ช่วงเย็นว่า สาเหตุที่มานั่งควบเก้าอี้ รมว.วัฒนธรรมนั้น เพราะต้องการผลักดันนโยบาย ‘ซอฟต์พาวเวอร์’ ที่ยังค้างเติ่ง และยังไม่มีอะไรเป็นรูปธรรมก็ตาม แต่คอการเมืองรู้กันดีว่า เป็นการวางแผนของบรรดา ‘นักรบห้องแอร์’ เผื่อเหลือเผื่อขาด หากเก้าอี้นายกฯต้องสะดุดลง จากผลของศาลรัฐธรรมนูญ อย่างน้อยยังเหลือหัวโขน รมว.วัฒนธรรม เข้าไปนั่งใน ครม.เพื่อสั่งการได้
2.ภูมิธรรม เวชยชัย เป็นรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ไม่พลิกโผเมื่อ ‘กลุ่มนักรบห้องแอร์’ ยังคงกุมอำนาจแบบเบ็ดเสร็จ ทำให้การผลักดันเก้าอี้ ‘กระทรวงเกรดเอ’ เป็นไปอย่างราบรื่น ปาดหน้านั่งเก้าอี้ มท.1 แทน ‘ประเสริฐ จันทรรวงทอง’ แม่ทัพใหญ่โคราชค่ายแดงไปได้ แม้ว่าจำนวน สส.ที่ต่อรองจะมีน้อยกว่าก็ตาม
3.สุชาติ ตันเจริญ เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี คัมแบ็กกลับมานั่งเก้าอี้รัฐมนตรีอีกครั้ง สำหรับแกนนำ ‘กลุ่มบ้านริมน้ำ’ ที่ห่างหายจากวงโคจรทางการเมืองไปพักใหญ่ โดยในช่วงต้นรัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน มีข่าวว่าเขาอาจถูกเสนอชื่อนั่งประธานสภาฯ แต่สุดท้ายเพื่อลดแรงกดดันทางการเมือง จึงปล่อยเก้าอี้ให้ ‘วันมูหะมัดนอร์ มะทา’ แทน ส่วนกลุ่มบ้านริมน้ำก็รอวัน ว. เวลา น. เพื่อคัมแบ็กกลับมาอีกครั้ง
@ สุชาติ ตันเจริญ
4.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ลูกสาว ‘เสี่ยแป้งมัน’ วีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล อีกหนึ่งแม่ทัพแห่งโคราช ถูกโยกจาก รมว.วัฒนธรรม ที่ต้องยกให้ ‘แพทองธาร’ มานั่งเก้าอี้ รมว.อว.แทน ซึ่งเป็นกระทรวงเกรด C อีกแห่ง นัยว่าเป็นการตอบแทนทางการเมืองเพียงเท่านั้น
5.อรรถกร ศิริลัทธยากร เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร และสหกรณ์ เป็นหนึ่งในคนสนิทของ ‘ผู้กองธรรมนัส’ ถูกดันมานั่งเก้าอี้ ‘รัฐมนตรีว่าการ’ แบบเต็มตัว และกระทรวงเกษตรฯ ก็ยังถือว่าเป็นกระทรวงที่ ‘พรรคกล้าธรรม’ คุมแบบเบ็ดเสร็จ มี ‘อิทธฺ ศิริลัทธยากร’ ผู้เป็นบิดา ‘อรรถกร’ นั่ง รมช.เกษตรฯ อีกคนคือ ‘อัครา พรหมเผ่า’ น้องชาย ‘ผู้กองธรรมนัส’ นั่ง รมช.เกษตรฯ
6.จตุพร บุรุษพัฒน์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นอีกหนึ่ง ‘โควตาพิเศษ’ โดยว่ากันว่ามาจาก ‘สปอนเซอร์รายใหญ่’ ของ ‘กลุ่ม 18’ แห่งค่ายรวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ที่กำลังเชิด ‘เสี่ยเฮ้ง’ สุชาติ ชมกลิ่น รบกับ ‘กลุ่มหัวหน้าพี-เลขาฯขิง’ โดยชื่อของ ‘จตุพร’ ก่อนหน้านี้มีกระแสว่าเขาจะถูกวางตัวให้เป็นหัวหน้าพรรคโอกาสใหม่ ที่สปอนเซอร์รายใหญ่จัดตั้งไว้ แต่เรื่องนี้ก็ยังไม่เกิดขึ้น เพราะ ‘กลุ่ม 18’ ยังไม่แยกตัวออกจาก รทสช.
@ จตุพร บุรุษพัฒน์
7.ฉันทวิชญ์ ตัณฑสิทธิ์ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ลูกชาย ‘ฐากร ตัณฑสิทธิ์’ อดีตแกนนำพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) ที่ว่ากันว่าหอบหิ้วเก้าอี้ สส.มาได้ 5 ที่นั่ง เพื่อมาซบรัฐบาล ทำให้ได้โควตาตอบแทนเป็น 1 รมช. ทำให้ ‘ฐากร’ ส่งลูกชายเข้าไปนั่งเก้าอี้รัฐมนตรี
@ ฉันทวิชญ์ ตัณฑสิทธิ์
8.เดชอิศม์ ขาวทอง เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย อีกหนึ่งแม่ทัพภาคใต้ค่ายสีฟ้า เดิมนั่ง รมช.สาธารณสุข แต่เมื่อได้โควตาเพิ่มมา ทำให้ขยับเข้ามานั่งเก้าอี้ มท.3 แทน
9.พงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นอีกหนึ่ง ‘ตัวจริงเสียงจริง’ แห่งตระกูล ‘จึงรุ่งเรืองกิจ’ สาย ‘สุริยะ’ ซึ่งถูกมองว่าเป็นคู่แข่งคนสำคัญทั้งในการทำธุรกิจ และด้านการเมืองกับ ‘ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ’ ผู้นำจิตวิญญาณค่ายส้ม โดยบทบาทสำคัญของ ‘โฟม พงศ์กวิน’ คือการรวบรวมเสียง ประสานงาน สส.ต่าง ๆ คล้ายกับ ‘แม่บ้านพรรค’ ทำให้มี สส.ภายใต้อาณัติของ ‘จึงรุ่งเรืองกิจ’ เป็นจำนวนไม่น้อย
@ พงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ
10.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ อีกหนึ่งสายตรง ‘ผู้กองธรรมนัส’ ถูกขยับจาก รมว.เกษตรฯ มานั่ง รมว.ศึกษาธิการ เพื่อเปิดทาง ‘อรรถกร’ ไปนั่งเก้าอี้ รมว.เกษตรฯแทน
11.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ อดีตรองโฆษกพรรคเพื่อไทย เป็นอีกหนึ่ง ‘นางแบก’ ของพรรค ที่คอยตอบโต้บุคคลที่วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลมาตั้งแต่ช่วงตั้งรัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน และได้คลุกวงในบรรดา ‘แก๊งนักการเมืองหญิง’ ข้างกาย ‘นายกฯ’ จนสุดท้ายได้รับผลตอบแทนนั่งเก้าอี้เสนาบดี
12.เทวัญ ลิปตพัลลภ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ โควตา ‘ชาติพัฒนา’ ที่แม้มี สส.แค่ 4 คน ในจำนวนนี้ย้ายมาจาก ‘พรรคส้ม’ 1 คน แต่ก็ยังได้โควตาเก้าอี้รัฐมนตรี เพราะด้วยสายสัมพันธ์แนบแน่นกับตระกูลชินวัตร โดย ‘เทวัญ’ คือน้องชาย ‘สุวัจน์ ลิปตพัลลภ’ ถูกส่งมานั่งเก้าอี้รัฐมนตรีอีกครั้ง หลังก่อนหน้านี้เคยชิมลางนั่งรัฐมนตรีมาแล้วยุครัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
13.อนุชา สะสมทรัพย์ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข บ้านใหญ่นครปฐม ที่คุมฐานเสียงเบ็ดเสร็จตั้งแต่ท้องถิ่น ยันระดับชาติ ทำให้ได้รับปูนบำเหน็จนั่งเก้าอี้เสนาบดี
@ อนุชา สะสมทรัพย์
14.ชัยชนะ เดชเดโช เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข อีกหนึ่งมือไม้คนสนิทของ ‘เสี่ยต่อ’ เฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เมื่อ ‘ก๊กน้ำเงิน’ ลาออกจากรัฐบาล ทำให้โควตาเพิ่มขึ้น จึงส่ง ‘แทน ชัยชนะ’ นั่งเก้าอี้รัฐมนตรีทันที แม้ว่าตัวเขาจะมีชนักปักหลัง เป็นคดีถูกกล่าวหาว่าทำร้ายร่างกายก็ตาม
สำหรับบุคคลที่หลุดจากเก้าอี้ในช่วงการปรับ ครม.ครั้งนี้ หรือคนที่ไม่สมหวังตามที่ตั้งใจ คนแรกที่หลุดอย่างแน่นอน นั่นคือ ‘พิชัย นริพทะพันธุ์’ พ้น รมว.พาณิชย์ แบบบัวช้ำ-น้ำขุ่น เพราะหลายวีรกรรมของเขาทั้งในการตอบโต้ในสภาฯ และการให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อ ทำให้คะแนนนิยมของรัฐบาลลดลง จนสุดท้าย สส.ในพรรคทนไม่ไหว ถึงกับบ่นออกมากลางที่ประชุม ทำให้อนาคตทางการเมืองของ ‘พิชัย’ ต้องมอดดับลง และพ้นตำแหน่งแห่งที่ไปในที่สุด
อีกคน ‘สุชาติ ชมกลิ่น’ เดิมมีชื่อคัมแบ็กกลับ รมว.แรงงาน ตามโควตาของ ‘กลุ่ม 18’ ทว่าสุดท้ายถูก ‘สัญญาณพิเศษ’ จาก ‘กลุ่มหัวหน้าพี-เลขาฯขิง’ ปรามไว้ จนต้องนั่งเก้าอี้เดิมคือ รมช.พาณิชย์
และไม่พูดถึงคงไม่ได้นั่นคือ ‘ประเสริฐ จันทรรวงทอง’ แม่ทัพโคราชผู้มากคอนเนกชั่นแห่งค่ายเพื่อไทย เดิมถูกวางตัวให้นั่งเก้าอี้ มท.1 ตั้งแต่ไก่โห่ แต่สุดท้ายถูก ‘กลุ่มนักรบห้องแอร์’ ปาดหน้าดัน ‘ภูมิธรรม’ เข้าวิน ส่วน ‘ประเสริฐ’ นั่ง รมว.ดีอีเอส เช่นเดิม จนสร้างความไม่พอใจแก่บรรดา สส.อีสาน จำนวนไม่น้อย และออกแรงต่อรองถ้าไม่ได้เก้าอี้รัฐมนตรี ก็ต้องได้เก้าอี้รองประธานสภาฯคนที่ 2 ซึ่งว่างอยู่แทน
ส่วนคนอื่น ๆ เช่น ประภัตร โพธสุธน แกนนำสุพรรณบุรี เลขาธิการพรรคชาติไทยพัฒนา ที่ในรัฐบาลชุดนี้ไม่มีตำแหน่งแห่งหนใด ๆ แม้ว่าเมื่อ ‘ภูมิใจไทย’ ลาออกจากรัฐบาล จะเพิ่มโควตามาให้ ชทพ.อีก 1 เก้าอี้ก็ตาม แต่สุดท้ายหวยไปออกที่ ‘อนุชา สะสมทรัพย์’ แม่ทัพใหญ่แห่งนครปฐม นั่ง รมช.สาธารณสุข แทน
ด้าน ‘ผู้การป๊อป’ อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ก็เป็นอีกคนที่ ‘แห้ว’ ในการคัมแบ็กกลับ ครม. แม้ว่าเขาจะลาออกจากพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) ของ ‘คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์’ ซบ ‘พรรคกล้าธรรม’ ของ ‘ผู้กองธรรมนัส พรหมเผ่า’ ไปแล้ว แต่ด้วยภาพลักษณ์อดีตคนสนิท ‘คุณหญิงหน่อย’ ทำให้การเบียดเสียดเข้าไปแย่งโควตา ครม.ชุดนี้ เป็นไปอย่างยากลำบาก จนสุดท้ายก็หลุดวงโคจร
ส่วนหน้าตาการปรับ ครม.ครั้งนี้ จะถูกอกถูกใจใคร หรือช่วยแก้ปัญหาประเทศที่กำลังระส่ำระส่ายอย่างหนัก ทั้งภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชายังตึงเครียด หลายนโยบายของรัฐบาลไม่ดำเนินการตามที่หาเสียงไว้ ได้หรือไม่
ต้องรอวัดฝีมือ!
Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา 