“...มั่นใจว่าภายในกลางปีหน้าได้เห็นหน้าเห็นหลังแน่ และภายในสิ้นปีหน้าเศรษฐกิจประเทศจะฟื้น มั่นใจว่าถึงวันนั้นเมื่อได้เดินทางมาอุดรธานีอีกครั้งหนึ่ง ชาวบ้านและประชาชนจะยิ้มได้มากกว่านี้ และมั่นใจว่าถ้าเลือกตั้งในปี 2570 แล้วได้เดินทางมาที่อุดรธานีอีก เชื่อได้ว่าประชาชนทุกคนจะมีใบหน้าผ่องใสมากขึ้น เพราะกระเป๋าตังค์มีเงินใช้แล้ว แต่ตอนนี้ยิ้มไม่ค่อยหวาน ถ้าเลือกตั้งปี 2570 ขอให้ยิ้มกันหวานๆนะ…”
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 13 พฤศจิกายน 2567 ที่บริเวณหน้าวัดศรีนคราราม อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียงให้กับนายศราวุธ เพชรพนมพร ผู้สมัครนายก อบจ.อุดรธานีของพรรคเพื่อไทย
@ตั้งใจต้องได้กลับไทย
นายทักษิณกล่าวตอนหนึ่งว่า ไปอยู่เมืองนอกมา 17 ปี ที่อยู่มาได้ เพราะยึดคำสอนพระพุทธเจ้าคือ การปล่อยวาง ไม่ลุ่มหลง แต่เมื่อไปดูไปเห็นอะไรก็จะคิดถึงคนไทย ประเทศไทยตลอด 17 ปีที่อยู่ต่างประเทศไม่รู้เลยจะได้กลับเมื่อไหร่ แต่ในใจคิดอย่างเดียวว่า กูต้องได้กลับ จะกลับอย่างไร กลับเมื่อไหร่ไม่รู้หรอก แต่วันนี้ได้กลับมาแล้ว กลับมากราบพระบาทพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว กราบพระพุทธศาสนา ได้เจอพี่น้องคนไทย เป็นความสุขของชีวิตแล้ว
ต่อมา นายทักษิณกล่าวถึงนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีว่า ก็นินทาลูกสาวหน่อย นายกฯบอกว่า พ่อ วันนี้เป็นห่วงหนี้ครัวเรือน ชาวบ้านเป็นหนี้เยอะ จะโดนยึดบ้าน ยึดรถ บ้านเป็นความสุขของครอบครัว รถเป็นเครื่องมือทำมาหากิน ช่วยคิดหน่อยจะเอาอย่างไรดี วันนี้มีทางออกแล้ว นายกรัฐมนตรีบอกว่า ในเดือน ธ.ค. 2567 จะบอกกับชาวบ้านว่า จะมีมาตรการลดหนี้อย่างไร ลืมตาอ้าปากได้อย่างไร
ซึ่งเมื่อพูดถึงตรงนี้ มีชาวบ้านที่นั่งฟังปราศรัยตะโกนสวนขึ้นมาว่า ‘ท่านนายกฯช่วยด้วยครับ’ นายทักษิณตอบกลับไปว่า ‘ครับ ช่วยครับ’ ก่อนจะกล่าวต่อว่า ส่วนตัวไม่มีสิทธิ์ครอบงำลูก ตนรักลูกแบบเกรงใจมาก ต้องให้ลูกครอบงำแทน ลูกบางทีนั่งคุยกัน ปรึกษากันก็มีสั่งเหมือนกันว่า ให้ไปทำนั่นทำนี่ให้หน่อย
“สิ่งที่นายกฯเป็นห่วงก็คือเรื่องหนี้สินชาวบ้านและเรื่องของรายได้ วันนี้การให้เงินคนละหมื่นเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อเริ่มต้นให้ตั้งหลักได้ก่อน พร้อมกันนั้นก็มีการลดหนี้และมีการเพิ่มรายได้ให้พี่น้องประชาชนไม่ว่าจะเป็นรายได้ทางการเกษตร รายได้ที่มาจากโอกาสของประชาชน นายกฯอิ๊งยังบอกกับผมอีกว่า พ่อเป็นห่วงชาวบ้านเพราะโลกเปลี่ยนไปเยอะ ลูกชาวบ้านการศึกษาจะทำยังไงให้เขามีโอกาสทางการศึกษาที่ดีกว่านี้ ก็ได้พูดกับลูกไปว่า วันนี้เราต้องเปลี่ยนทัศนคติของคนไทยอย่าไปมุ่งเอาประกาศนียบัตร บางคนเรียนแล้วเรียนอีกก็ไม่ได้ทำให้ฉลาดขึ้น โลกมันเปลี่ยนไปแล้วการเรียนอย่างเดียวมันไม่พอมันต้องไปหาความรู้ความชำนาญ ท่านนายกก็บอกผมแล้วว่าหาตังค์ได้แล้วเดี๋ยวค่อยมาเล่าให้ประชาชนฟังว่าจะทำอย่างไรกับเรื่องนี้ในเดือน ธ.ค.นี้ เพื่อให้เด็กบ้านนอกได้มีการศึกษาที่ดี มีโอกาสไปเรียนเมืองนอกเมืองนา” นายทักษิณกล่าวตอนหนึ่ง
อดีตนายกรัฐมนตรีและบิดานายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน กล่าวต่อว่า วันนี้เงินในโลกเยอะมาก แต่เงินมันจะไปในที่ที่ทำเงินได้ เงินจะไม่ไปในที่ที่ไม่ทำเงิน วันนี้ประเทศไทยกำลังจูงใจนักธุรกิจใหญ่ๆให้มาลงทุนในประเทศไทย เมื่อเข้ามาแล้ว ก็สร้างงานมีรายได้มากขึ้น แต่ที่สำคัญคือการกระจายความเจริญสู่ต่างจังหวัด อย่างในจังหวัดอุดรธานีเห็นการทำระบบถนนที่ดีขึ้นมีร้านรวงดีขึ้น แต่การจับจ่ายใช้สอยของประชาชนอย่างเงียบอยู่เพราะคนไม่มีกำลังซื้อ ซึ่งรัฐบาลจะต้องออกมานโยบายที่เพิ่มกำลังซื้อให้กับประชาชน
@ส่งสารพ่อค้ายา ‘ทักษิณ’ กลับมาแล้ว
ขณะที่ปัญหายาเสพติด นายทักษิณกล่าวว่า วันนี้ปัญหายาเสพติดมีมากต่างกับสมัยที่ตนเป็นนายกรัฐมนตรี จำได้หรือไม่ว่าสมัยของตนนั้นยาเสพติดหายไปหมด พี่น้องประชาชนช่วยไปบอกพ่อค้าขายยาด้วยว่าวันนี้ทักษิณกลับมาแล้ว ทักษิณเกลียดพ่อค้าขายยา ไม่อยากเห็นหน้าสักคน บอกให้มันรู้ด้วย แล้วไปบอกตำรวจด้วย จริงๆก็เห็นใจตำรวจ การแต่งตั้งโยกย้ายต้องซื้อตำแหน่งหมด อันนี้คือสิ่งที่มันเลวร้ายของสังคมไทยในช่วงที่ไม่อยู่ไทย แต่ต่อไปนี้ นายกรัฐมนตรีบอกว่า จะคุยกับตำรวจใหญ่ทุกคนว่ายุคต่อไปนี้จะไม่มีการเอาเงินมาแต่งตั้งโยกย้าย เพราะฉะนั้นตำรวจใหญ่ต้องไม่ไปเอาเงินลูกน้องใช้การแต่งตั้งโยกย้าย
“เพราะฉะนั้นยาเสพติดก็จะหายไปไม่ยาก เมื่อก่อนผมจับทั้งนายอำเภอและตำรวจและผู้ว่าราชการจังหวัดจูงมือกันไปปราบยาให้หมด ถ้าปราบไม่หมดก็จูงมือกันออกนอกจังหวัดทั้งหมด วันนี้นายกฯบอกว่าจะจูงมือพี่หนู (อนุทิน ชาญวีรกูล) ซึ่งเป็นรัฐมนตรีมหาดไทยให้จัดการทั้งตำรวจและจังหวัดเอายาเสพติดให้อยู่ ผมจะไม่มีวันชินชากับสถานการณ์ยาบ้าวันนี้เด็ดขาด” นายทักษิณกล่าว
@แย้มลดหักเงินส่ง ธปท. มาใช้ปรับโครงสร้างหนี้ประชาชน
นายทักษิณกล่าวว่า วันนี้ขอโอกาสให้นางสาวแพทองธารได้ทำงานอีกสักระยะหนึ่ง แล้วคนไทยทุกคนจะเห็นความเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน อย่างเรื่องค่าแรงวันนี้เหลืออุปสรรคอีกนิดเดียวแต่เชื่อว่าแก้ได้ ถ้า GDP มันโตขึ้น ซึ่งรัฐบาลกำลังพยายามปั๊มให้มันโตให้ได้ แต่ด้านหนึ่งหนี้สินประเทศก็เยอะ วันนี้รัฐบาลกำลังแก้ไขปัญหาเรื่องเงินลงทุนทั้งหลาย เพื่อสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกความเจริญให้พี่น้องประชาชนได้ และขอย้ำอีกทีว่าเรื่องหนี้สินเป็นเรื่องที่อยู่ในหัวใจของนายกฯอยู่แล้ว มีการเรียกประชุมเป็นประจำเพื่อหาทางที่ธนาคารพาณิชย์ ซึ่งจะต้องส่งเงินที่ต้องจ่ายให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) โดยขอลดเงินที่ต้องส่งให้ ธปท.แล้วเอาเงินส่วนนี้มาปรับโครงสร้างหนี้ประชาชน เพื่อให้ 3 ปีต่อจากนี้ประชาชนไม่ต้องจ่ายดอกเบี้ย ให้จ่ายแต่เงินต้น แล้วหลังจากนั้นถ้าจ่ายครบแล้ว ก็จะมีกระบวนการลบชื่อท่านออกจากเครดิตบูโร ซึ่งจะทำให้ประชาชนสามารถกู้หนี้ยืมสินไปใช้ในการทำมาหากินได้
อดีตนายกฯกล่าวต่อว่า แต่อย่างไรก็ตามอยากให้ประชาชนทำรายรับรายจ่ายด้วย เหมือนสมัยที่ตนเป็นนายกฯก็ได้แนะนำให้พี่น้องประชาชนทำบัญชีครัวเรือน ตอนนี้ก็ควรจะทำอีก ซึ่งจะทำให้ค่าใช้จ่ายลดลงและรายได้เพิ่มขึ้น
@มั่นใจเศรษฐกิจฟื้น ปี 70 คนไทยยิ้มหวาน
ขณะที่ปัญหาการพนันออนไลน์ นายทักษิณกล่าวว่า ปัจจุบันคนไทยเล่นพนันออนไลน์วันหนึ่ง 2.5-4 ล้านคน คนเหล่านี้ก็จะเล่นพนันออนไลน์ผ่านระบบมือถือ เพราะฉะนั้นต่อไป จะมีระบบที่สามารถตรวจดูการเล่นพนันออนไลน์ได้ทั้งหมด วันนี้ต้องให้คนไทยแข็งแรง กลับมามุ่งมั่นทำมาหากิน รัฐบาลก็เปิดโอกาสให้การทำมาหากินดีขึ้นคล่องขึ้น และเศรษฐกิจเม็ดเงินก็ลงสู่ระบบ แค่นี้เศรษฐกิจก็ฟื้น มั่นใจว่าภายในกลางปีหน้าได้เห็นหน้าเห็นหลังแน่ และภายในสิ้นปีหน้าเศรษฐกิจประเทศจะฟื้น มั่นใจว่าถึงวันนั้นเมื่อได้เดินทางมาอุดรธานีอีกครั้งหนึ่ง ชาวบ้านและประชาชนจะยิ้มได้มากกว่านี้ และมั่นใจว่าถ้าเลือกตั้งในปี 2570 แล้วได้เดินทางมาที่อุดรธานีอีก เชื่อได้ว่าประชาชนทุกคนจะมีใบหน้าผ่องใสมากขึ้น เพราะกระเป๋าตังค์มีเงินใช้แล้ว แต่ตอนนี้ยิ้มไม่ค่อยหวาน ถ้าเลือกตั้งปี 2570 ขอให้ยิ้มกันหวานๆนะ
ที่มาภาพ: Facebook ศราวุธ เพชรพนมพร