แพทองธาร ชินวัตร ถก ‘ครม.นัดพิเศษ’ เคาะ ร่างแถลงนโยบายรัฐบาล ไฟเขียว หมอมิ้ง-นพ.พรมินทร์ เลิศสุริย์เดช นั่ง เลขาธิการนายกฯ
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นำคณะรัฐมนตรี (ครม.) รวม 36 คน ถ่ายภาพหมู่ร่วมกัน บริเวณสนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า ก่อนเข้าร่วมประชุม ‘ครม.นัดพิเศษ’ โดยที่ประชุมครม.นัดพิเศษ มีมติเห็นชอบแต่งตั้ง นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ให้ดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมือง ในตำแหน่งเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ 7 กันยายน 2567 เป็นต้นไป
นอกจากนี้ที่ประชุมครม.นัดพิเศษยังอนุมัติร่างคำแถลงนโยบายของรัฐบาล โดยนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎรและประธานสภาให้สัมภาษณ์ว่า เบื้องต้นจะมีการประชุมร่วมกันของรัฐสภา (สส.และสว.) ในการแถลงนโยบายของรัฐบาลระหว่างวันที่ 12-13 กันยายน 2567 รวม 2 วัน
ทั้งนี้ รัฐธรรมนูญมาตรา 162 กำหนดครม.ที่จะเข้าบริหารราชการแผ่นดินต้องแถลงนโยบายต่อรัฐสภาโดยไม่มีการลงมติความไว้วางใจ ภายใน 15 วัน นับแต่วันเข้ารับหน้าที่หลังจากเข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณต่อพระมหากษัตริย์ โดยสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) จะส่งร่างแถลงนโยบายให้รัฐสภาในวันนี้
น.ส.แพทองธารแถลงภายหลังการประชุมครม.นัดพิเศษว่า ได้แจ้งรัฐมนตรีทุกคนเตรียมพร้อมในการชี้แจงตอบคำถามการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา รวมถึงช่วยกันสื่อสารนโยบายที่รัฐมนตรีแต่ละคนรับผิดชอบ รวมถึงทำความเข้าใจกับข้าราชการและประชาชนชัดเจนมากขึ้น
น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ส่วนใหญ่นโยบายที่รัฐบาลจะแถลงเป็นนโยบายที่ต่อเนื่องมาจากเมื่อครั้งนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี อย่างไรก็ตามได้มีการรับฟังความคิดเห็นของพรรคการเมืองทุกพรรคและมีการปรับแก้เพื่อให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบัน ตามรัฐธรรมนูญและแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี
น.ส.แพทองธารกล่าวว่า โดยจะมีนโยบายทั้งระยะสั้น ระยะกลางและระยะยาว ดังนี้ นโยบายเร่งด่วน เช่น การปรับโครงสร้างหนี้ การช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอี กระตุ้นเศรษฐกิจและช่วยเหลือคนเปราะบาง
น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ส่วนระยะกลางและระยะยาว เป็นการต่อยอดอุตสาหกรรมเดิม การเสริมสร้างเศรษฐกิจสร้างสรรค์ และซอฟต์พาวดเวอร์ โครงสร้างพื้นฐานด้านสังคม คมนาคม ศูนย์กลางการบิน ระบบสาธารณูปโภคและการพัฒนาคน
"ขอให้รัฐมนตรีทุกคนดำเนินการต่อเนื่องในงานของท่านนายกฯเศรษฐา โดยเฉพาะการกระตุ้นเศรษฐกิจ และส่งเสริมเรื่องการท่องเที่ยว การดูแลสินค้าเกษตร การแก้ปัญหาน้ำท่วมมากยิ่งขึ้น"น.ส.แพทองธารกล่าว