ร้อง 'สนามยิงปืนย่านปทุมฯ' ตั้งติด รร.-ชุมชน รัวกระสุนดังสนั่น หวั่นอันตราย

ร้อง 'อิศรา' แจ้งหน่วยงานแก้ปัญหาสนามยิงปืนหนองเสือ จ.ปทุมธานี อยู่ติดชุมชน ผ่านไป 6 เดือนไม่คืบหน้า ด้านนายกเทศบาลหนองเสือแจง 20 มิ.ย. นัดผู้ร้อง-เจ้าของสนามยิงปืน ประชุมหาทางออก

สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ ได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนในอ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี เกี่ยวกับปัญหาจากสนามยิงปืนหนองเสือ ระบุว่าตนเองสร้างบ้านและอยู่อาศัยที่ หมู่ที่ 5 ซอยเมตตา ต.บึงบา อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี ตั้งแต่ปี 2558 ต่อมาเดือน ต.ค. 2566 ที่ดินด้านข้างที่มีรั้วติดกัน เริ่มก่อสร้างกำแพงสูง 8 เมตร โดยไม่มีใครแจ้งว่ากำลังสร้างอะไร หลังจากนั้นประมาณวันที่ 3 ม.ค. 2567 ก็มีเสียงปืนดังมาจากหลังกำแพงและมีเสียงดังต่อเนื่อง

วันที่ 4-8 ม.ค. 2567 มีการยิงปืนตั้งแต่ 10.00-17.00 น. โดยคนในชุมชนในเขตเทศบาบตำบลหนองเสือ รวมถึงพระสงฆ์ในวัดบึงบาประภาสะวัต และเด็กนักเรียนในโรงเรียนหนองเสือวิทยาคมได้ยินเสียงปืนเช่นกัน พิจารณาจากเสียงกระสุนประมาณได้ว่ามีจำนวนกระสุนปืนที่ใช้หลายร้อยนัดในแต่ละวัน

วันที่ 5 ม.ค. 2567 ประชาชนรายนี้ทำหนังสือร้องเรียนไปยังเทศบาบตำบลหนองเสือ ต่อมา 22 ม.ค. 2567 ได้รับหนังสือชี้แจงจากเทศบาลตำบลหนองเสือ ใจความว่า จากการตรวจสอบไม่พบการกระทำผิดที่เข้าข่ายเหตุรำคาญ จึงได้แนะนำเจ้าของสนามยิงปืน เพื่อหาแนวทางป้องกันเหตุรำคาญไม่ให้เกิดขึ้นในอนาคต

วันที่ 10 ก.พ. 2567 ร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรม ขอให้ศูนย์ดำรงธรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบว่าสนามยิงปืนแห่งนี้ขอใบอนุญาตถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ ดำเนินการกับเจ้าหน้าที่รัฐที่ปล่อยปละละเลยให้มีการก่อสร้างและเปิดใช้บริการสนามยิงปืน และยุติการให้บริการสนามยิงปืนแห่งนี้เป็นการถาวร

นอกจากนี้ประชาชนรายนี้ยังแจ้งความไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.หนองเสือ อีกด้วย

อย่างไรก็ตามตั้งแต่ช่วงเดือน ม.ค. 2567 จนกระทั่งปัจจุบันเดือน มิ.ย. 2567 ก็ยังแก้ปัญหาไม่ได้

จากการสืบค้นข้อมูลผ่าน Google Maps สำนักข่าวอิศราพบว่าสนามยิงปืนดังกล่าวอยู่ใกล้วัดบึงบาประภาสะวัต เป็นระยะ 200 เมตร และห่างจากโรงเรียนชุมชนบึงบาหนองเสือ 550 เมตร (ดูภาพประกอบ) 

นอกจากนี้ในบริเวณเดียวกีบสนามยิงปืนหนองเสือมีสถาบันฝึกอบรมบอดี้การ์ดแห่งประเทศไทย ตั้งอยู่ด้วย จากข้อมูลพบว่าสถาบันดังกล่าวมีคลิปวิดีโอชาวต่างชาติกล่าวแนะนำสถาบันเป็นภาษาจีน และมีภาพผู้เข้าฝึกส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ (ดูภาพประกอบ)

ผู้สื่อข่าวติดต่อไปยังนายวริศ เจริญกัลป์ นายกเทศมนตรีตำบลหนองเสือ เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงเกี่ยวกับประเด็นข้างต้น

นายวริศ กล่าวว่า เทศบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ ปฏิบัติตามขั้นตอนตลอด โดยในวันที่ 20 มิ.ย. 2567 จะนัดผู้ร้องเรียนกับผู้ถูกร้องเรียนมาพูดคุยกัน โดยในขั้นต้นให้สนามยิงปืนหยุดยิงไปก่อน ก่อนหน้านี้ได้มีการเชิญประชาชนที่อยู่บริเวณใกล้เคียงสนามยิงปืน ยกเว้นผู้ร้องเรียนมาปรึกษาหารือแนวทางว่ามีกระทบอย่างไรบ้าง แต่อย่างไรก็ดีประชาชนที่เชิญมาไม่ใช่ผู้เสียหายโดยตรง ดังนั้นในวันที่ 20 มิ.ย. จะดำเนินการอย่างที่ระบุไปตอนต้น

เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามถึงสถาบันฝึกอบรมบอดี้การ์ด แห่งประเทศไทย ที่พบว่าผู้ใช้บริการส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ

นายวริศ ตอบว่า สถาบันดังกล่าวขอดำเนินการและจัดตั้งถูกต้องตามกฎหมาย 

เมื่อถามต่อว่าสมาคมฝึกฝนดังกล่าว นำอุปกรณ์ที่ใช้การยิงปืนมาจากสนามยิงปืนใช่หรือไม่ 

นายวริศ ตอบว่า นำอุปกรณ์จากสนามยิงปืนมาใช้ ส่วนใหญ่เป็นคนจีนมาฝีกฝนการเป็นบอดี้การ์ด เพื่ออารักขาคนจีนที่ทำธุรกิจในไทยหรือคนจีนที่ทำธุรกิจในจีน เพราะในเมืองค่าจีนค่าฝึกบอดี้การ์ดแพง จึงมาเปิดในเมืองไทย โดยขั้นตอนการมาประเทศไทยก็มาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย แต่แค่มีผกระทบต่อคนที่อยู่ข้าง ๆ ที่ฝึก

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าเจ้าของสนามยิงปืนเป็นคนไทยหรือเป็นคนจีน

นายวริศ ตอบว่า เป็นคนไทยเชื้อสายจีน เกิดแถวแม่สลอง