‘อนุทิน’ ขานรับนโยบาย ‘เศรษฐา’ ปิดผับตีสี่ส่งเสริมการท่องเที่ยว แต่ขอฟังความเห็นทั้งหน่วยงานและประชาชน ชี้มีมาตรการคุมมาเฟีย - ยาเสพติดไว้แล้ว ยังอุบชื่อจังหวัดนำร่อง ด้าน กทม.ขอสำรวจสถานประกอบการต่างๆก่อน
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 31 ตุลาคม 2566 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงนโยบายของรัฐบาลในการขยายเวลาเปิดสถานบันเทิงระบุว่า กระทรวงมหาดไทยกำลังร่างประกาศกระทรวง โดยได้รับนโยบายจากทางรัฐบาลมาแล้ว เรื่องการขยายเวลาเปิดสถานบันเทิง ก็ต้องดูโซนนิ่งและเลือกจังหวัดที่จะไปกระตุ้นการท่องเที่ยว
@หวังทำให้ทัน 15 ธ.ค.66
ผู้สื่อข่าวถามว่านายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีต้องการให้แล้วเสร็จในวันที่ 15 ธันวาคม แล้ว กระทรวงมหาดไทย จะทำได้ทันหรือไม่ นายอนุทิน ตอบว่า จะพยายาม เพราะเป็นข้อสั่งการจากท่านนายกรัฐมนตรี แต่ตามระเบียบ รัฐมนตรีลงนามเองไม่ได้ มีขั้นตอนพอสมควร ถ้าลงนามได้เอง ก็ทำไปแล้ว
ส่วนการแก้ไขก็ต้องฟังความเห็นของประชาชน ทางกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ได้ดำเนินการแล้ว และต้องฟังความเห็นของส่วนราชการอื่นๆก่อนเข้า ครม.ในส่วนของกระทรวงมหาดไทยจะพยายามทำให้ทัน
เมื่อถามถึงรายชื่อจังหวัดนำร่อง นายอนุทินตอบว่า อย่าเรียกว่าจังหวัดนำร่องเลย เรียกว่าจังหวัดที่มีความพร้อมดีกว่าอันนี้เป็นนโยบายเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว สิ่งที่ตามมาคือต้องมีการควบคุมอาวุธ ยาเสพติด ความเป็นระเบียบเรียบร้อยในสถานบันเทิ งตรงนี้ทุกฝ่ายต้องร่วมด้วยช่วยกัน
เมื่อถามถึงเรื่องของกลุ่มอิทธิพลที่อาจจะตามมาหลังมีการขยายเวลาเปิดสถานบันเทิง นายอนุทิน ตอบว่า ก็ต้องเข้มงวดไม่ให้มันเกิดขึ้น อาวุธปืน ปัจจุบันห้ามพกพายกเว้นเจ้าหน้าที่บ้านเมือง มีการควบคุมเยอะมากแล้ว แต่การสร้างความเป็นระเบียบเรียบร้อยกระทรวงมหาดไทยหน่วยงานเดียวคงไม่พอ ต้องอาศัยทุกฝ่าย ร่วมหมายร่วมมือช่วยกัน
ต่อคำถามของผู้สื่อข่าวเรื่องความกังวล ต่อกรณี เมาแล้วขับ ที่อาจจะเกิดมากขึ้นหากมีการขยายเวลาเปิดสถานบันเทิง นายอนุทินตอบว่า ดื่มแล้วต้องไม่ขับก็ต้องมีการตั้งด่านเข้มงวดกวดขันกัน การขยายเวลาเปิดสถานบันเทิงนั้นไม่ใช่เป็นของขวัญปีใหม่ แต่ว่าเป็นมาตรการในการกระตุ้นการท่องเที่ยว สร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างเม็ดเงิน ให้กลับเข้ามาหมุนเวียนในระบบ
อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
@กทม.ขอสำรวจสถานบันเทิงก่อน
ด้านนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวว่า กรณีที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มีแนวทางเตรียมขยายเวลาให้สถานบันเทิงสามารถเปิดให้บริการถึงเวลา 04.00 น. ในส่วนของกทม.ได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.อดิศร์ งามจิตสุขศรี ที่ปรึกษาผู้ว่าของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ไปสำรวจสถานประกอบการ โดยทำคู่ขนานไปในเชิงรุก
โดยดูว่าความเห็นในส่วนของกรุงเทพฯ มีตรงจุดไหนที่ควรเปิดและมาตรการการเปิดควรเป็นอย่างไร เพราะว่าเมื่อดูโซนนิ่งเดิม เช่น RCA หรือสีลม อาจไม่ทันสมัยแล้ว ปัจจุบันสถานบันเทิงกระจายตัวไปอยู่หลายที่ ซึ่งในแง่หนึ่งเป็นข้อดีทำให้ไม่แออัดในจุดใดจุดหนึ่ง และอาจทำให้เกิดการกระจายตัวของเศรษฐกิจไปในหลายพื้นที่ แต่ในข้อเสียคือการกระจายตัวของสถานบันเทิงออกไปอาจมีบางจุดไปอยู่ในบริเวณบ้านที่เป็นพื้นที่อยู่อาศัยที่ไม่ได้เป็นโซนเฉพาะสำหรับสถานบันเทิง ทำให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญให้ชุมชน
“ในมุมมองของเราซึ่งยังไม่ได้หารือกับกระทรวงมหาดไทยให้ดูว่าจุดไหนบ้างเหมาะสมที่จะขยายเวลาบริการสถานบันเทิงถึงเวลา 04.00 น. จากนั้นดูมาตรการต่าง ๆ เช่น การควบคุมเรื่องเสียง ความปลอดภัย เรื่องเด็ก/เยาวชน ยาเสพติด ดูว่าจะกำกับดูแลอย่างไรให้เกิดความมั่นใจว่าการเปิดถึงเวลา 04.00 น. จะไม่มีผลกระทบต่อเยาวชนหรือสิ่งเสพติดและสิ่งผิดกฎหมายต่าง ๆ ส่วนตัวคิดว่าเป็นเรื่องที่ดีที่ทำให้ถูกกฎหมาย ที่ผ่านมาจะเห็นว่ามีสถานบันเทิงที่เปิดผิดกฎหมาย หากทำถูกกฎหมายอาจมีการกำกับดูแลได้ดีกว่าที่ให้ไปแอบเปิดกัน ซึ่งก็ได้มีการเตรียมข้อมูลและความพร้อมไว้ หากกระทรวงมหาดไทยมีการประกาศเป็นทางการก็พร้อมดำเนินการ” ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวในตอนท้าย