"...น่าสังเกตว่า นายบุญทรง มีรายได้เพิ่มขึ้นมาโดยตลอด เห็นได้จากช่วงรับตำแหน่ง รมว.พาณิชย์ มีรายได้ 1,451,960 บาท ช่วงพ้นตำแหน่ง 1 ปี รมช.คลัง 2,114,123 บาท พ้นตำแหน่ง รมว.พาณิชย์ 2,433,530 บาท จนกระทั่งล่าสุดช่วงพ้นตำแหน่ง รมว.พาณิชย์ 1 ปี จึงมีรายได้ลดลงเหลือ 1,603,926 บาท ..อย่างไรก็ดีกลับมีรายได้จากค่าจ้าง เมื่อเดือน ม.ค. 2557 – มิ.ย. 2557 ถึง 6 แสนบาท โดยไม่ได้ระบุไว้ว่า เป็นค่าจ้างในส่วนใด..."
ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา
ชื่อของ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในยุครัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กลับมาอยู่ในความสนใจของสาธารณชนอีกครั้ง
เมื่อปรากฏข่าวว่า ถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตั้งไต่สวน และชี้มูลความผิดคดีอาญา เพิ่มอีก 2 คดี คือ 1. คดีร่ำรวยผิดปกติ (ตั้งไต่สวน) 2. คดีการระบายมันสำปะหลัง ในสต็อกรัฐบาล (ถูกชี้มูลคดีอาญา)
นอกจากนี้ ในคดีระบายข้าวจีทูจี ภาค 2 ยังจะถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช.พิจารณาทบทวนเรื่องการกันตัวไว้เป็นพยานด้วย เนื่องจากคำให้การกล่าวพาดพิงถึง นายทักษิณ ชินวัตร น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ 3 ผู้ถูกกล่าวหาคนสำคัญในคดีนี้ (ทั้ง 3 ราย ถูกป.ป.ช.ตีตกข้อกล่าวหาไปแล้ว) ไม่ได้เป็นประโยชน์ ไม่มีน้ำหนัก เพราะไม่ได้พาดพิงว่าใครทำผิดอะไร และเป็นพยานที่เคยถูกลงโทษแต่มากลับคำให้การภายหลัง
ขณะที่การกันตัวนายบุญทรงไว้เป็นพยานในคดีระบายข้าวจีทูจี ภาค 2 อาจจะเป็นขัดระเบียบด้วย ป.ป.ช.จึงอาจจะต้องมีการทบทวน และพิจารณาว่าจะมีการไต่สวนและแจ้งข้อกล่าวหานายบุญทรงใหม่หรือไม่ด้วย
- 'บุญทรง' โดนคดีใหม่! ป.ป.ช.ตั้งไต่สวนรวยผิดปกติให้คนใกล้ชิดถือทรัพย์แทนอย่างน้อย 4 คน
- ป.ป.ช.ชี้มูลคดีมันฯ แล้ว! 'พรทิวา' รอดหมด 2 สำนวน 'บุญทรง -วีระวุฒิ' เอกฉันท์ฟันอาญา
- ชินวัตรรอด! ป.ป.ช.ตีตกคดีข้าวจีทูจีภาค2 'ทักษิณ-ปู-เยาวภา' จ่อทบทวนกัน 'บุญทรง' พยาน
หากนับภาพรวมคดีความที่ นายบุญทรง ต้องเผชิญหน้าอยู่ ณ ปัจจุบัน มีจำนวนกว่า 5 คดีแล้ว คือ
1. คดีระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือจีทูจี (ภาค 1) ปัจจุบันรับโทษจำคุกอยู่ในเรือนจำ ตามคำพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เมื่อเดือนสิงหาคม 2560 ที่ผ่านมา ที่ตัดสินลงโทษจำคุกเป็นเวลา 42 ปี
2. คดีแพ่ง ศาลปกครองกลาง มีคำพิพากษาให้นายบุญทรง กับพวก ชดใช้ค่าเสียหายคดีระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ รวมเกือบ 15,000 ล้านบาท เฉพาะค่าเสียหายที่นายบุญทรง ต้องชดใช้อยู่ที่ตัวเลข 1,768 ล้านบาท
3. คดีระบายข้าวจีทูจี ภาค 2 (อยู่ระหว่างพิจารณาเรื่องการกันตัวไว้เป็นพยาน)
4. คดีร่ำรวยผิดปกติ (ถูก ป.ป.ช.ลงมติตั้งไต่สวนข้อกล่าวหา)
2. คดีการระบายมันสำปะหลัง ในสต็อกรัฐบาล (ถูก ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดทางอาญา)
@ บุญทรง เตริยาภิรมย์
อย่างไรก็ดี หากโฟกัส คดีร่ำรวยผิดปกติ ที่ นายบุญทรง เพิ่งถูก ป.ป.ช. ตั้งไต่สวนข้อกล่าวหาไป จะพบว่ามีความน่าสนใจอยู่ไม่น้อย ตรงที่
หนึ่ง.
ข้อมูลการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่า มีทรัพย์สินร่ำรวยผิดปกติอยู่ในชื่อคนใกล้ชิดถือแทน ซึ่งเป็นเครือญาติอย่างน้อย 4 ราย
สอง.
คดีนี้ถูกมองว่าอาจจะมีปัญหาเรื่องกรอบระยะเวลาทางคดี เพราะนับตั้งแต่นายบุญทรง พ้นตำแหน่ง รมว.พาณิชย์ และยื่นบัญชีทรัพย์สินต่อ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ช่วงพ้นตำแหน่ง รมว.พาณิชย์ เมื่อวันที่ 9 ธ.ค.2557 จนถึงปัจจุบันระยะเวลาผ่านมาเกือบ 10 ปี แล้ว
สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับทรัพย์สินและหนี้สินของ นายบุญทรง ช่วงเข้า- พ้นตำแหน่งรัฐมนตรี ที่ยื่นต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. นั้น
สำนักข่าวอิศรา เคยจัดทำรายงานพิเศษรวบรวมและตั้งข้อสังเกตสำคัญไว้แล้วก่อนหน้านี้ ตั้งแต่ช่วงเข้ารับตำแหน่ง รมว.พาณิชย์ เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2555 จนกระทั่งพ้นตำแหน่งครบ 1 ปี เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2557
มีรายละเอียดสำคัญ ดังนี้
1.กรณีเข้ารับตำแหน่ง รมว.พาณิชย์ เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2555
แจ้งว่า มีรายได้ทั้งหมด 1,451,960 บาท
แบ่งเป็นของนายบุญทรง 1,251,860 บาท (เงินเดือน/ค่าตอบแทน/เงินประจำตำแหน่ง) ของนางสุมาลี เตริยาภิรมย์ คู่สมรส 2 แสนบาท (ค่าเช่าที่ดิน)
มีรายจ่ายทั้งหมด 900,000 บาท เป็นค่าใช้จ่ายอุปโภค/บริโภคของนายบุญทรง
มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 15,264,295 บาท
แบ่งเป็นของนายบุญทรง 2,724,923 บาท (เงินฝาก 134,923 บาท, ยานพาหนะ 1,840,000 บาท, ทรัพย์สินอื่น (ราคาตั้งแต่สองแสนบาทขึ้นไป) 7.5 แสนบาท) ของนางสุมาลี 12,317,563 บาท (เงินสด 6.5 แสนบาท, เงินฝาก 625,713 บาท, ที่ดิน (ได้รับมาจากมารดา) 10,844,150 บาท, ยานพาหนะ 47,700 บาท, ทรัพย์สินอื่นฯ 5 แสนบาท) ของบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ 221,808 บาท (เงินฝาก)
มีหนี้สินทั้งสิ้น 83,694 บาท เป็นเงินเบิกเกินบัญชีของนายบุญทรง
2.กรณีพ้นจากตำแหน่ง รมช.คลัง ครบ 1 ปี เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2556
แจ้งว่า มีรายได้ทั้งหมด 2,114,123 บาท
แบ่งเป็นของนายบุญทรง 1,914,123 บาท (เงินเดือน/เงินประจำตำแหน่ง) 1,387,832 บาท, เงินค่าตอบแทนตำแหน่งประธานคณะกรรมการกำกับการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า (ปธ.กก.กสล.) 286,290 บาท, ค่าเบี้ยประชุม/เบี้ยเลี้ยง 2.4 แสนบาท) ของนางสุมาลี 2 แสนบาท (ค่าเช่าที่ดิน)
มีรายจ่ายทั้งหมด 900,000 บาท เป็นค่าใช้จ่ายอุปโภค/บริโภคของนายบุญทรง
มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 17,553,042 บาท
แบ่งเป็นของนายบุญทรง 3,031,928 บาท (เงินสด 3 แสนบาท, เงินฝาก 141,928 บาท, ยานพาหนะ 1,840,000 บาท, ทรัพย์สินอื่นฯ 7.5 แสนบาท) ของนางสุมาลี 14,521,114 บาท (เงินสด 7 แสนบาท, เงินฝาก 1,059,264 บาท, ที่ดิน 12,214,150 บาท, ยานพาหนะ 47,700 บาท, ทรัพย์สินอื่นฯ 5 แสนบาท)
มีหนี้สินทั้งสิ้น 270,552 บาท เป็นเงินเบิกเกินบัญชีของนายบุญทรง
3.กรณีพ้นจากตำแหน่ง รมว.พาณิชย์ เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2556
แจ้งว่า มีรายได้ทั้งหมด 2,433,530 บาท
แบ่งเป็นของนายบุญทรง 2,233,530 บาท (เงินเดือน/เงินประจำตำแหน่ง 1,711,969 บาท, เงินตอบแทนตำแหน่ง ปธ.กก.กสล. 392,661 บาท, ค่าเบี้ยประชุม/เบี้ยเลี้ยง 128,900 บาท) ของนางสุมาลี 2 แสนบาท (ค่าเช่าที่ดิน)
มีรายจ่ายทั้งหมด 900,000 บาท เป็นค่าใช้จ่ายอุปโภค/บริโภคของนายบุญทรง
มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 18,065,861 บาท
แบ่งเป็นของนายบุญทรง 3,381,157 บาท (เงินสด 5 แสนบาท, เงินฝาก 291,157 บาท, ยานพาหนะ 1,840,000 บาท, ทรัพย์สินอื่นฯ 7.5 แสนบาท) ของนางสุมาลี 14,684,704 บาท (เงินสด 4 แสนบาท, เงินฝาก 1,522,854 บาท, ที่ดิน 12,214,150 บาท, ยานพาหนะ 47,700 บาท, ทรัพย์สินอื่นฯ 5 แสนบาท)
มีหนี้สินทั้งสิ้น 95,548 บาท เป็นเงินเบิกเกินบัญชีของนายบุญทรง
4.กรณีพ้นจากตำแหน่ง รมว.พาณิชย์ ครบ 1 ปี เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2557
แจ้งว่า มีรายได้ทั้งหมด 1,603,926 บาท
แบ่งเป็นของนายบุญทรง 1,393,926 บาท (เงินเดือน/เงินประจำตำแหน่ง 600,891 บาท, เงินบำนาญ ส.ส. 191,172 บาท, ค่าจ้าง ม.ค. 57-มิ.ย. 57 6 แสนบาท, คืนภาษีเงินได้ 1,863 บาท) ของนางสุมาลี 2.1 แสนบาท (ค่าเช่าที่ดิน 2 แสนบาท, คืนภาษีเงินได้ 1 หมื่นบาท)
มีรายจ่ายทั้งหมด 1 ล้านบาท เป็นค่าใช้จ่ายอุปโภค/บริโภคของนายบุญทรง
มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 16,818,981 บาท
แบ่งเป็นของนายบุญทรง 3,128,479 บาท (เงินสด 4 แสนบาท, เงินฝาก 138,479 บาท, ยานพาหนะ 1,840,000 บาท, ทรัพย์สินอื่นฯ 7.5 แสนบาท) ของนางสุมาลี 13,690,501 บาท (เงินสด 3 แสนบาท, เงินฝาก 628,651 บาท, ที่ดิน 12,214,150 บาท, ยานพาหนะ 47,700 บาท, ทรัพย์สินอื่น 5 แสนบาท)
มีหนี้สินทั้งสิ้น 192,623 บาท เป็นเงินเบิกเกินบัญชีของนายบุญทรง
ข้อสังเกตสำคัญ ที่สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบพบมีดังนี้
1. น่าสังเกตว่า นายบุญทรง มีรายได้เพิ่มขึ้นมาโดยตลอด เห็นได้จากช่วงรับตำแหน่ง รมว.พาณิชย์ มีรายได้ 1,451,960 บาท ช่วงพ้นตำแหน่ง 1 ปี รมช.คลัง 2,114,123 บาท พ้นตำแหน่ง รมว.พาณิชย์ 2,433,530 บาท จนกระทั่งล่าสุดช่วงพ้นตำแหน่ง รมว.พาณิชย์ 1 ปี จึงมีรายได้ลดลงเหลือ 1,603,926 บาท
2. อย่างไรก็ดีกลับมีรายได้จากค่าจ้าง เมื่อเดือน ม.ค. 2557 – มิ.ย. 2557 ถึง 6 แสนบาท โดยไม่ได้ระบุไว้ว่า เป็นค่าจ้างในส่วนใด
3. นอกจากนี้หลังรับตำแหน่ง รมว.พาณิชย์ นายบุญทรง ก็มีรายได้จากการเป็นประธานคณะกรรมการกำกับการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า (ปธ.กก.กสล.) มาโดยตลอดจนกระทั่งพ้นตำแหน่ง เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2556 และมีเงินสดติดตัวหลังจากก่อนหน้านี้ไม่มีเงินสดแต่อย่างใด
รวมไปถึงนางสุมาลี คู่สมรส ก็มียอดเงินฝากเพิ่มขึ้นมาโดยตลอด จนกระทั่งเพิ่งลดลงในช่วงพ้นจากตำแหน่ง รมว.พาณิชย์ ครบ 1 ปี (ดูข้อมูลในตารางประกอบ)
ทั้งหมดนี้ คือ ข้อมูลเกี่ยวกับทรัพย์สินและหนี้สินของ นายบุญทรง ช่วงเข้า- พ้นตำแหน่งรัฐมนตรี ที่ยื่นต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช.และข้อสังเกตสำคัญ ที่สำนักข่าวอิศรา เคยรวบรวมเอาไว้
อย่างไรก็ดี ปัจจุบัน ป.ป.ช. ยังไม่ได้มีการเปิดแถลงข่าว ชี้แจงมติตั้งไต่สวนความผิด คดีร่ำรวยผิดปกติ ของ นายบุญทรง เป็นทางการ
จึงยังไม่ทราบว่า รายละเอียดข้อกล่าวหาคดีนี้เป็นอย่างไร?
คนใกล้ชิดซึ่งเป็นเครือญาติอย่างน้อย 4 ราย ที่ถูกระบุว่าถือครองทรัพย์สินแทนเป็นใครบ้าง?
มีชื่อของคนใกล้ชิด ที่อยู่แวดวงการเมืองปัจจุบันด้วยหรือไม่?
ท้ายที่สุด ผลการไต่สวนคดีนี้จะออกมาเป็นอย่างไร นอกจากคดีนี้แล้ว นายบุญทรง ยังจะต้องเผชิญหน้าวิบากกรรม คดีอื่นๆ อีกหรือไม่
คงต้องติดตามดูกันต่อไป แบบห้ามกระพริบตาโดยเด็ดขาด
** อนึ่ง การไต่สวนคดีของ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังไม่สิ้นสุด ผู้ถูกกล่าวหา และผู้เกี่ยวข้อง ยังถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาถึงที่สุด
อ่านเรื่องเกี่ยวข้อง