ท่าอากาศยานภูเก็ตห้ามสายการบินเวียตเจ็ท VZ309 ขึ้นบิน เหตุคนเกินจำนวนที่นั่ง ด้านผู้โดยสารร้อง 'อิศรา' ถูกทำให้เสียเวลาและต้องการให้ผู้มีอำนาจแก้ไข
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. 2565 ได้รับแจ้งข้อมูลจาก นายธนิต ผู้โดยสารสายการบินไทยเวียตเจ็ท ร้องเรียนกับสำนักข่าวอิศราว่า สายการบินไทยเวียตเจ็ทขึ้นบินล่าช้า เพราะถูกท่าอากศยานภูเก็ตสั่งไม่ให้ขึ้นบิน ทำให้ผู้โดยสารหลายคนเดือดร้อน ตนซื้อตั๋วเดินทางจากภูเก็ตเข้ากรุงเทพฯ ในเวลากลางคืนของวันที่ 1 ธ.ค. 2565 แต่เมื่อถึงเวลาเดินทางสายการบินกลับดีเลย์หลายครั้งนานกว่า 3 ชั่วโมง จากนั้นเครื่องบินไม่ได้รับอนุญาตให้ขึ้นบิน เพราะมีผู้โดยสารเกินกว่าจำนวนที่นั่งที่มีอยู่ 1 คน ทางท่าอากาศยานภูเก็ตอ้างว่าไม่ปลอดภัย ทำให้ผู้โดยสารต้องนอนที่สนามบินภูเก็ตทั้งคืนจนถึงเช้าวันที่ 2 ธ.ค. ผู้โดยสารทุกคนได้รับความเดือดร้อน ตนต้องการร้องเรียนสังคมและให้ผู้มีอำนาจแก้ไขต่อไป เพราะมีนักท่องเที่ยวมากขึ้นทุกวัน การที่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ส่งผลกระทบต่อประเทศไทยและสังคม
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา ได้ติดต่อสอบถามนายธนิตเพิ่มเติมเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้รับคำตอบว่า ตนจองเที่ยวบิน VZ309 กับสายการบินไทยเวียตเจ็ท เดินทางวันที่ 1 ธ.ค. 2565 เวลา 21.20 น. เมื่อเดินทางถึงสนามบินภูเก็ตได้รับการแจ้งเตือนจากสายการบินว่าจะมีการดีเลย์หรือล่าช้าประมาณ 1 ชั่วโมง หรือเปลี่ยนเป็นเวลา 22.20 น. คิดว่าเป็นเรื่องปกติของสายการบินนี้เพราะใช้บริการบ่อยครั้งเจอการดีเลย์เป็นประจำ พอถึงช่วงเวลาประมาณ 22.30 น. มีประกาศจากสายการบินว่าเลื่อนการเดินทางเป็นเวลา 23.10 น. และจากนั้นก็ประกาศเลื่อนเวลาเดินทางเป็น 23.50 น. จนกระทั่งเวลาประมาณ 00.15 น. จึงได้ขึ้นเครื่องบิน
ภาพจากนายธนิตผู้ร้องเรียน
จากนั้นเครื่องบินขับไปที่รันเวย์แต่ค่อนข้างล่าช้า ขณะนั้นมีการตรวจนับผู้โดยสารทั้งหมด 3 ครั้ง เนื่องจากมีผู้โดยสารหนาแน่น จากนั้นกัปตันก็ได้รับการแจ้งจากการท่าฯ ว่าไม่ให้ขึ้นบินเนื่องจากเลยเวลา อยากให้การท่าฯ รับผิดชอบในส่วนนี้ เพราะเห็นว่าทางสายการบินขอเลื่อนเวลาหลายรอบและการท่าก็อนุญาตทุกครั้ง จนกระทั่งสุดท้ายเป็นเวลา 23.15 น. การท่าบอกว่าต้องออกเลย ห้ามกลับเข้ามาอีก ซึ่งเป็นข้อกฎหมายของทางการการบิน
ต่อมานายธนิตกล่าวถึงปัญหาที่มีผู้โดยสารเกินว่า มีผู้โดยสารเกินกว่าจำนวนที่นั่งที่มีอยู่ จำนวน 1 คน การที่มีคนเกินมาเป็นเรื่องที่อันตรายมาก ไม่มีใครรับผิดชอบได้ จากนั้นการท่าเรียกกลับ
“จริง ๆ เขายึดว่าเป็นบรรทัดฐานของการท่า แต่จริงแล้วมันไม่ใช่ แต่มาจากไฟล์ทบิน” นายธนิตกล่าวถึงกรณีที่มีผู้โดยสารเกิน
จากนั้นนายธนิตเล่าต่อว่า เจ้าหน้าที่ของไทยเวียตเจ็ทอธิบายว่ามีบุคคลหนึ่งที่ชื่อและนามสกุลเหมือนกันเป็นสาเหตุของผู้โดยสารที่เกินกว่าจำนวนที่กำหนด แต่ตนไม่เชื่อ เพราะเห็นว่าไทยเวียตเจ็ทได้นำผู้โดยสารจากไฟล์ทบินอื่น (ของสายการบินไทยเวียตเจ็ท) มารวมกันเป็นไฟล์ทบินเดียว ไทยเวียตเจ็ทใช้วิธีการแบบนี้เป็นประจำ บางไฟล์ทบินที่นั่งไม่เต็มเขาก็จะพยายามทำให้เต็มด้วยวิธีการข้างต้น
คิดว่าปัญหาที่เกิดขึ้นทุคนล้วนไม่อยากให้เกิดขึ้น แต่ไทยเวียตเจ็ทกลับมีวิธีการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้แย่ โดยวิธีแก้ปัญหาของไทยเวียตเจ็ทมีมาตรการช่วยเหลือเพียงมาตรการเดียว คือ จัดหาที่พักให้ผู้โดยสารอยู่ห่างจากสนามบิน 15-20 นาที นอน 2 คนต่อ 1 ห้อง แต่ไม่มีมาตรการใด ๆ อีก อีกทั้งหัวหน้าของสายการบินไม่ออกมาแสดงความรับผิดชอบปล่อยให้พนักงานบางส่วนออกหน้าแทน โดยที่พนักงานเหล่านั้นไม่สามรถตัดสินใจอะไรได้ทั้งสิ้น จนกระทั่งมีผู้โดยสารเสนอทางออกว่าให้คืนเงินค่าโดยสารประมาณ 1200 บาท ภายในเวลา 45 วัน ตนเห็นว่าวิธีการจัดการของไทยเวียตเจ็ทแย่เป็นอย่างมาก
นายธนิตยกตัวอย่างผู้โดยสารชาวต่างชาติที่ไม่ได้รับการช่วยเหลือดูแลจากสายการบิน ผู้โดยสารคนหนึ่งที่ต้องผ่าตัดสมองในช่วงเช้าวันที่ 2 ธ.ค. 2565 ที่ต้องทิ้งตั๋วของสายการบินนี้ แล้วต้องซื้อตั๋วเดินทางใหม่โดยที่สายการบินไทยเวียตเจ็ทไม่รับผิดชอบแต่อย่างใด การดูแลผู้โดยสารที่เลือกเข้าพักในสถานที่ที่สายการบินจัดหาให้แต่ไม่ได้รับการดูแลอย่างที่สมควรได้รับ อีกทั้งยังกล่าวว่าตนไม่เคยเจอการแก้ปัญหาของสายการบินใดที่แย่แบบนี้มาก่อน
จากนั้นผู้สื่อข่าวติดต่อไปยังท่าอากาศยานภูเก็ต เจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการเขตการบิน กล่าวว่า สนามบินปิดเวลา 23.30 น. ทุกวัน ทางสายการบินไทยเวียตเจ็ทเป็นฝ่ายดีเลย์เอง ในส่วนเรื่องที่มีผู้โดยสารเกินมา 1 คนแล้วทางการท่าฯ ไม่ให้ขึ้นบิน ตามกระบวนการให้เครื่องบินขึ้นบินได้นั้น ที่นั่งบนเครื่องบินจะถูกกำหนดไว้ทั้งหมดแล้วว่าจะมีผู้โดยสารกี่คน การที่มีผู้โดยสารเกินมานั้นเป็นความรับผิดชอบของสายการบิน เพราะทางสายการบินจะต้องทราบจำนวนผู้โดยสารผ่านการจองที่นั่ง
ผู้สื่อข่าวถามเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการเขตการบินว่า ทางการท่าฯ จะรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เครื่องบินขึ้นบินเกินเวลาปิดของสนามบินอย่างไรบ้าง เจ้าหน้าที่ตอบว่าโดยปกติสายการบินอื่น ๆ จะจัดการได้ และให้ทางผู้สื่อข่าวติดต่อไปที่เบอร์โทรศัพท์ 1520 แทน ซึ่งจะเป็นเบอร์โทรศัพท์ฝ่ายแถลงข่าว สามารถให้คำตอบได้ชัดเจนที่สุด แต่เมื่อผู้สื่อข่าวโทรศัพท์ไปยังเบอร์ข้างต้นกลับได้ยินเสียงสัญญาณว่า คุณไม่สามารถติดต่อหมายเลขนี้ได้
ล่าสุด ฝ่ายอำนวยการท่าอากาศยานภูเก็ต แถลง กรณีเหตุการณ์ผู้โดยสารจำนวนกว่า 300 คน ตกค้าง ณ ท่าอากาศยานภูเก็ต
จากกรณีสื่อสังคมออนไลน์ (Social Media) เผยแพร่เหตุการณ์ผู้โดยสารจำนวนกว่า 300 คนตกค้าง เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. 2565 ณ ท่าอากาศยานภูเก็ต ขอชี้แจงเพื่อทราบ ดังนี้
จากเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดจากสายการบินไทยเวียตเจ็ท เที่ยวบินที่ VZ309 เส้นทางการบิน ภูเก็ต-สุวรรณภูมิ ได้ทำการแจ้งหอบังคับการบินภูเก็ต เพื่อขอกลับเข้าหลุมจอดหลังจากที่ได้นำอากาศยาน เข้าทางวิ่ง (09) เมื่อเวลา 00.05 น. เนื่องจากมีปัญหาผู้โดยสารมีจำนวนเกินขีดความสามารถของอากาศยาน
สาเหตุจากเที่ยวบินขาเข้า เที่ยวบินที่ VZ2304 ต้นทางท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ - ภูเก็ต ไม่สามารถทำการบินมาลง ณ อากาศยานภูเก็ตได้ ส่งผลให้สายการบินต้องบริหารจัดการนำผู้โดยสารขาออกส่วนหนึ่งของเที่ยวบิน VZ2305 ไปยังเที่ยวบินที่ VZ309 ทำให้เกิดความล่าช้าไม่สามารถนำอากาศยานทำการบินได้ก่อนเวลาปิดทางวิ่ง (ตามประกาศทำการบินห้วงเวลา 23.30 - 07.30 น.) แจ้งการปิดใช้งานทางวิ่ง
เพื่อการบำรุงรักษา ทางวิ่ง-ทางชับ ประจำปีงบประมาณ 2566 ภายหลังเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางสายการบินดังกล่าวจึงได้ทำการตัดสินใจนำผู้โดยสารบางส่วนไปยังที่พัก โดยอากาศยานสามารถทำการบินได้อีกครั้งในวันที่ 2 ธ.ค. 2565 เวลา 10.34 น.
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวได้พยายามติดต่อสายการบินไทยเวียตเจ็ทเพื่อสบถามเหตุการณ์ที่ผู้โดยสารร้องเรียน ได้รับคำตอบว่าให้ติดต่อไปทางอีเมล ซึ่งจะต้องใช้เวลา 3 วันทำการ จึงจะได้รับคำตอบ