ป.ป.ช. เผยแพร่ความคืบหน้าคดีกล่าวหา 'ปณิตา หรือ พัชรีรัตน์ ชวิศาศุภสิน' อดีตปลัดเทศบาลตำบลหนองบัววง นครราชสีมา ปลอมบัญชีผู้สอบบรรจุพนักงาน-เรียกรับเงินช่วยให้ได้รับการแต่งตั้ง ล่าสุด ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนจำคุก 97 ปี แต่ลงโทษสูงสุดได้ 50 ปี ไม่รอลงอาญา
สืบเนื่องจากสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานข่าวว่า เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าคดีกล่าวหา นางปณิตา หรือ พัชรีรัตน์ ชวิศาศุภสิน เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งปลัดเทศบาลตำบลหนองบัววง อำเภอลำทะเมนชัย จังหวัดนครราชสีมา กรณีปลอมบัญชีผู้สอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งเป็นพนักงานเทศบาลและเรียกรับเงินเพื่อช่วยเหลือให้ได้รับการบรรจุแต่งตั้ง ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมติชี้มูลความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149, 157, 158, 161, 264, 265 และ 268 ประกอบมาตรา 90, 91 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 103 ประกอบมาตรา 122 และประกอบ พ.ร.บ.ป.ป.ช. พ.ศ.2561 มาตรา 192 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2561
โดย เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2563 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 3 พิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามมาตรา 149 , 161 ประกอบมาตรา 83 การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามมาตรา 91 ให้ลงโทษตามมาตรา 149 ซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุด ตามมาตรา 90 จำคุกกระทงละ 5 ปี รวม 19 กระทง เป็นจำคุก 95 ปี จำเลยยังมีความผิดตามมาตรา 157 ,161 ประกอบมาตรา 83 เป็นกรรมเดียว เป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตามมาตรา 157 ประกอบมาตรา 83 ซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุด ตามมาตรา 90 อีก 1 กระทง จำคุก 2 ปี
รวมเป็นจำคุก 97 ปี เมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้วให้ลงโทษจำคุก 50 ปี ตามมาตรา 91 (3)
ล่าสุด สำนักงาน ป.ป.ช. ได้เผยแพร่ความคืบหน้าคดีนี้เพิ่มเติม ระบุว่า เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2564 ศาลอุทธรณ์ ได้มีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ให้ตัดสินโทษจำคุกจำเลย รวมเป็นจำคุก 97 ปี เมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้วให้ลงโทษจำคุก 50 ปี ตามมาตรา 91 (3)
เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการประชุมลงมติ เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2564 เห็นชอบในการที่อัยการสูงสุด (อสส.) จะไม่ฎีกาคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
สำหรับกฎหมายอาญา มาตรา 149 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งรัฐ สมาชิกสภาจังหวัด หรือสมาชิกสภาเทศบาล เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท หรือประหารชีวิต
มาตรา 157 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
อ่านข่าวในหมวดเดียวกัน
- คุก 2 ปี 6 ด.ไม่รอลงอาญา! อดีตนายกเทศมนตรีลำพญา นครปฐม มีส่วนได้เสียจัดซื้อธงชาติ
- ศาลอุทธรณ์ ยืนโทษคุก 2 ปี รอลงอาญา อดีตนายก อบจ.พะเยา ซื้อท่อระบายน้ำมิชอบ
- ศาลอุทธรณ์ ยืนโทษ คุกคนละ 2 ปี 'ศิรวี วาเล๊าะ' อดีตท่องเที่ยวกีฬาปัตตานี-พวก
กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage