"...จากการไต่สวน นายศักดิ์ดาให้ข้อมูลว่านายอนุรักษ์ได้เรียกรับเงินทางโทรศัพท์ โดยมีนางนันทนา เป็นผู้โทรศัพท์ประสานงาน ทั้งนี้ จากการไต่สวนและการเช็คข้อมูลจากโทรศัพท์ ช่วงระยะเวลาที่มีการโทร จึงเชื่อได้ว่านายอนุรักษ์ ได้มีการเรียกรับเงินจากนายศักดิ์ดาจริง ขณะที่ นายอนุรักษ์ ตั้งปณิธานนท์ ออกมาร้องเรียนว่า ป.ป.ช.ไม่เรียกสอบพยานที่เกี่ยวข้อง พร้อมยืนยันว่า มี ส.ส. อื่นนำโทรศัพท์ไปใช้ ที่เรียกรับเงินไม่ใช่เสียงตนเอง ..."
............................
นายอนุรักษ์ ตั้งปณิธานนท์ ส.ส.มุกดาหาร พรรคเพื่อไทย
ปรากฏข่าวถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลผิดกรณีเรียกรับเงินจำนวน 5 ล้านบาท จาก นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาลแลกกับการผ่านงบประมาณ ซึ่งมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 ประกอบ พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต มาตรา 123/5 รวมถึงกระทำการอันเป็นการฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง โดย ป.ป.ช. จะส่งคำร้องไปยังอัยการสูงสุด เพื่อพิจารณาฟ้องดำเนินคดีอาญา ส่วนความผิดทางวินัยและกระทำการฝ่าฝืน มาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรงนั้น ป.ป.ช. จะยื่นฟ้องโดยตรงต่อศาลฏีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
โดยนายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แถลงเป็นทางการว่า ป.ป.ช. ได้มีการสั่งตั้งอนุกรรมการไต่สวน นายอนุรักษ์ ตั้งปณิธานนท์ ส.ส.มุกดาหาร พรรคเพื่อไทย และ นางนันทนา สงฆ์ประชา ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาภิวัฒน์
จากการไต่สวน นายศักดิ์ดาให้ข้อมูลว่านายอนุรักษ์ได้เรียกรับเงินทางโทรศัพท์ โดยมีนางนันทนา เป็นผู้โทรศัพท์ประสานงาน ทั้งนี้ จากการไต่สวนและการเช็คข้อมูลจากโทรศัพท์ ช่วงระยะเวลาที่มีการโทร จึงเชื่อได้ว่านายอนุรักษ์ ได้มีการเรียกรับเงินจากนายศักดิ์ดาจริง
ขณะที่ นายอนุรักษ์ ตั้งปณิธานนท์ ออกมาร้องเรียนว่า ป.ป.ช.ไม่เรียกสอบพยานที่เกี่ยวข้อง พร้อมยืนยันว่า มี ส.ส. อื่นนำโทรศัพท์ไปใช้ ที่เรียกรับเงินไม่ใช่เสียงตนเอง
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) สืบค้นข้อมูล นายอนุรักษ์ ตั้งปณิธานนท์ พบว่า ได้รับการเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรครั้งแรกในปี พ.ศ. 2554 สังกัดพรรคเพื่อไทยและเป็นประธานสโมสรทีมฟุตบอลมุกดาหาร เอฟซี
ในเว็บไซต์ข่าวมุกดาหารนิวส์ http://www.mukdahannews.com/ เคยลงประวัติ นายอนุรักษ์ ไว้ว่า เกิดเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน พ.ศ.2500 สมรสกับนางสุวรรณี ตั้งปณิธานนท์ การศึกษาปริญญาตรี น.บ.นิติศาสตร์บัณฑิต มหาวิทยาลัยรามคำแหง ปริญญาโท น.ม.นิติศาสตร์มหาบัณฑิต สาขากฎหมายมหาชน ศ.ศ.ม.ศิลปศาสตร์มหาบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขารัฐประศาสนศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง เริ่มเข้าสู่วงการเมืองเมื่อปี 2537 โดยลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาเทศบาลเป็นผู้ก่อตั้งกลุ่มเรารักมุกดาหาร เคยดำรงตำแหน่งอดีตนายกเทศมนตรีเมืองมุกดาหาร มีฉายา “ มือทอง สมองเพชร"
นายอนุรักษ์ เติบโตมาในครอบครัวพ่อค้าซึ่งมีเถ้าแก่ กิจยง ตั้งปณิธานนท์ คุณพ่อของเขาเป็นพ่อค้า ขายเฟอร์นิเจอร์ บริหารงานโรงแรม และบริษัทรถทัวร์ มุกดาหาร – กรุงเทพฯ ตั้งแต่ปี 2526 – 2544 ทำธุรกิจกับทางราชการรับเงินมาแล้วไม่ต่ำกว่า 700 – 800 ล้าน ช่วงหลังมาก็ปีละ 100 – 200 กว่าล้าน ชื่อว่า ห้างหุ้นส่วนจำกัด ยงศิลป์มุกดาหาร แต่ถอนตัวออกมานานแล้ว
นอกจากงานกิจการรับเหมาก่อสร้าง อนุรักษ์ยังขยายธุรกิจทำร้านถ่ายรูปเป็นงานเสริม ได้แนวความคิดมาจากร้านถ่ายภาพด่วนที่กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นร้านโฟโต้ฟาสต์ จึงมีการติดต่อทำธุรกิจกันประกอบกับในอดีตครอบครัวของเขาเคยทำร้านถ่ายรูปมาก่อนนายอนุรักษ์จึงปัดฝุ่นอาชีพเก่าของพ่อ พร้อมทั้งการลงทุนสร้างโรงแรมเฟิร์สการ์เด้น
"ถามว่าทรัพย์สินที่แจ้งต่อ ป.ป.ช.ไว้มีเท่าไร ก็ประมาณ 200 กว่าล้านบาท และชีวิตพ่อค้านี่เองที่ทำให้เขาตั้งใจที่จะเข้ามาเล่นการเมืองท้องถิ่นหลังถูกรังแกจากผู้บริหารท้องถิ่นในสมัยนั้น ตอนที่สร้างหมู่บ้านจัดสรรชื่อโครงการ มุกดาแลนด์ ผมลงทุนกับพี่ชายที่อยู่กรุงเทพฯ สร้างหมู่บ้านมุกดาแลนด์ ขึ้นมาในเขตเทศบาล"
"ตอนแรกเราก็ยื่นแบบขออนุญาตสร้างทั้งโครงการเจ้าหน้าก็มาเรียกเงินเรียกง่าย ๆ ว่าขอเงินใต้โต๊ะหลังละ 5,000 บาท เราทำเรื่องขอไป 100 หลัง เปิดเสร็จต้องจ่ายเป็นเงินล้านกว่าบาทจึงจะมีสิทธิ์สร้างได้ เขาคิดว่าทำอย่างนี้ไม่ถูกต้อง ถ้าเราจ่ายให้และมีใบเสร็จเราก็ยอม แต่เขาบอกไม่มี เจ้าหน้าที่ฝ่ายช่างโยธาฯ เป็นคนบอก จำได้ว่าชื่อ นายวันดี แต่ตอนนี้ไม่ทราบยังอยู่หรือเปล่า ด้วยความที่ไม่พอใจจึงได้ไปร้องเรียนกับนายกเทศมนตรี ซึ่งเขาก็รู้จักมักคุ้นกันมาบ้าง เพราะเป็นคนบ้านเดียวกัน แต่ได้รับคำตอบที่ไม่น่าพอใจเป็นอย่างมาก"
เว็บไซต์ข่าวมุกดาหารนิวส์ ระบุด้วยว่า "ทั้งนี้การปฎิเสธที่จะแสดงความรับผิดขอบต่อพฤติกรรมของผู้ใต้บังคับบัญชาของนายกเทศมนตรี ส่งผลให้นายอนุรักษ์ เกิดแรงบันดาลใจ ให้ก้าวมาทำงานในเทศบาล จนได้รับการกล่าวขานว่า “ มือทอง สมองเพชร “ ทำงานแบบกล้าได้ กล้าเสีย ซึ่งนำมาซึ่งความเจริญก้าวหน้าในทุกด้านของจังหวัดมุกดาหาร"
@ อนุรักษ์ ตั้งปณิธานนท์
สำนักข่าวอิศรา สืบค้นข้อมูลทางธุรกิจของ นายอนุรักษ์ ตั้งปณิธานนท์ ที่ถูกระบุถึง พบว่า ห้างหุ้นส่วนจำกัด ยงศิลป์มุกดาหาร จดทะเบียนจัดตั้ง 26 สิงหาคม 2526 มีทุน 20,000,000 บาท ตั้งอยู่เลขที่ 80 ถนนพิทักษ์พนมเขต ตำบลมุกดาหาร อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร แจ้งประกอบธุรกิจการก่อสร้างอาคารที่ไม่ใช่ที่พักอาศัย รับเหมาก่อสร้าง
ปรากฏชื่อ นาง เทียนสว่าง ภาโนชิต เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการผู้มีอำนาจ นาง อุบล ตั้งปณิธานนท์ นาง เทียนสว่าง ภาโนชิต ถือหุ้นใหญ่เท่ากัน คนละ 50%
สถานะปัจจุบัน ศาลล้มละลายกลางได้มีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด ตามพระราชบัญญัติ ล้มละลาย พุทธศักราช 2483 ในคดีหมายเลขแดงที่ ล.624/2559 ตั้งแต่วันที่ 8 มีนาคม 2559
สำหรับธุรกิจครอบครัวในปัจจุบัน ลูกชายและลูกสาว เป็นกรรมการและผู้ถือหุ้น บริษัทเอกชนหลายแห่งในจังหวัดมุกดาหาร ได้แก่ บริษัท ที แอสเซท ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (อสังหาริมทรัพย์) ทุน 20,100,000 บาท บริษัท ที โซล่า 2015 จำกัด (อสังหาริมทรัพย์) ทุน 5,000,000 บาท บริษัท พีพี ออแกไนซ์ 2015 จำกัด (อสังหาริมทรัพย์) ทุน 5,000,000 บาท บริษัท พีพี ออแกไนซ์ 2018 จำกัด (การจัดการแสดงทางธุรกิจและการแสดงสินค้า) ทุน 300,000 บาท บริษัท มิราเคิล เทรดดิ้ง 2020 จำกัด (นายหน้าจัดหาสินค้าอุปโภคบริโภค) ทุน 5,000,000 บาท บริษัท สยาม ซาติวา จำกัด (ผลิตภัณฑ์) 5,000,000 บาท
ขณะที่ นาย เพชรภูมิ ตั้งปณิธานนท์ ลูกชาย ปรากฎชื่อเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ ห้างหุ้นส่วนจำกัด มุกดาหาร เอฟซี 2018 ทำธุรกิจกิจกรรมด้านสโมสรกีฬา จดทะเบียน 1 กุมภาพันธ์ 2560 ทุน 2 ล้านบาท ตั้งอยู่เลขที่ 80 ถนนพิทักษ์พนมเขต ตำบลมุกดาหาร อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร นำส่งงบการเงินล่าสุดรอบสิ้นสุด ณ 31 ธ.ค.63 แจ้งว่า ไม่มีรายได้ มีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน 2,000 บาท ขาดทุนสุทธิ 2,000 บาท
ทั้งหมดนี่ เป็นข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับ นายอนุรักษ์ ตั้งปณิธานนท์ และธุรกิจครอบครัวที่พอจะสืบค้นได้ในขณะนี้
อย่างไรก็ดี การชี้มูลความผิดคดีเรียกรับเงินจำนวน 5 ล้านบาท จากอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาลดังกล่าว เป็นกระบวนการในชั้นสอบสวนของ ป.ป.ช. เท่านั้น นายอนุรักษ์ ตั้งปณิธานนท์ ยังมีสิทธิ์ต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนได้ในชั้นศาลได้อีก
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage