ถ้าเป็นโควิดฯปฏิเสธเข้าเมืองทันที! รองโฆษก ตม.แถลงแจงปมเศรษฐีอินเดียหลั่งไหลเข้าไทย ยันขั้นตอนคัดกรองต้องผ่านการรับรองตรวจเชื้อมาก่อน-มีเอกสารยืนยันจากสถานทูต-ประกันวงเงินแสนดอลล่าร์สหรัฐฯ เผย 1-20 เม.ย. อินเดียมาไทยแล้วกว่า 602 ราย
.................................................
เมื่อวันที่ 26 เม.ย. 2564 ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พ.ต.อ.เชิงรณ ริมผดี รองผู้บังคับการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง 2 (ผบก.ตม.2) ในฐานะรองโฆษก ตม. แถลงชี้แจงกรณีเศรษฐีชาวอินเดียเดินทางเข้าประเทศไทยจำนวนมาก ท่ามกลางการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในขณะนี้ว่า ขั้นตอนการคัดกรองคนไทยและคนต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศเริ่มตั้งแต่ก่อนเดินทางโดยสถานทูตไทยจะเป็นผู้คัดกรองก่อน และจะตรวจสอบว่าคนต่างชาตินั้นได้ผ่านการรับรองการตรวจเชื้อโควิดมาก่อน โดยต้องมีเอกสารยืนยันกับสถานทูต เป็นผลตรวจโควิด-19 ที่มีอายุไม่เกิน 72 ชั่วโมงเพื่อยืนยันว่าปลอดจากเชื้อจริง และต้องมีประกันกรณีติดเชื้อโควิดภายหลัง มีทุนประกันวงเงิน 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ จากนั้นสถานทูตจึงจะออกใบรับรองให้เดินทางเข้าไทยหรือ COE ซึ่งจะมีข้อมูลสถานที่กักตัวในไทยระบุสำหรับแสดงเมื่อเดินทางเข้าประเทศไทย สำหรับคนต่างชาตินั้นต้องอยู่ในเงื่อนไขวีซ่าที่รัฐบาลอนุญาตด้วย เช่น วีซ่าประเภททูต, เจ้าหน้าที่รัฐ, ทำธุรกิจมีครอบครัวไทย และมีถิ่นที่อยู่ในไทย รวมถึงกรณีที่รัฐบาลไทยอนุญาตใต้ข้อตกลงพิเศษ เช่น กลุ่มนักลงทุน เป็นต้น
พ.ต.อ.เชิงรณ กล่าวอีกว่า สำหรับกรณีเจ็บป่วยด้วยโรคอื่นที่ไม่ใช่การติดเชื้อ โควิด 19 เช่นโรคเบาหวาน โรคหัวใจ สามารถขอวีซ่าเข้าไทยเพื่อรักษาพยาบาลได้ แต่ต้องมีหนังสือรับรองจากโรงพยาบาลประเทศต้นทาง ทั้งนี้ภารกิจของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง จะมีหน้าที่ช่วยเหลือด่านควบคุมโรคในการช่วยคัดกรองที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิก่อนเข้าประเทศ ด้วยการตรวจเอกสารที่สถานทูตออกให้โดยสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และจะดูเงื่อนไขวีซ่าตาม พ.ร.บ.ตรวจคนเข้าเมืองและตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เป็นหลัก หากผิดเงื่อนไขก็จะปฏิเสธการเข้าเมืองคนต่างชาติก็ต้องเดินทางกลับทันที
รองโฆษก ตม. กล่าวด้วยว่า ตั้งแต่วันที่ 1-20 เม.ย. 2564 ที่ผ่านมา สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองได้เก็บรวบรวมสัญชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทย พบว่า สัญชาติไทยเข้ามามากเป็นอันดับแรก คือ 7,176 ราย, จีน 2,148 ราย, ญี่ปุ่น 1,700 ราย สหรัฐอเมริกา 1,153 ราย, อังกฤษ 617 ราย, เยอรมนี 608 ราย และอินเดีย 602 ราย โดยในส่วนของอินเดียนั้น แบ่งออกมาเป็นเข้าทำงาน 426 ราย , เข้ามาภายใต้ข้อตกลงพิเศษ 110 ราย เป็นกลุ่มนักลงทุนนักธุรกิจ, มีคู่สมรสบิดามารดาหรือบุตรของคนไทย 30 ราย, นักเรียนนักศึกษาตลอดจนบิดามารดาของบุคคลดังกล่าว 16 ราย, มีถิ่นที่อยู่ในไทยตลอดจนคู่สมรสและบุตร 10 ราย, คณะทูตผู้แทนรัฐบาล 8 ราย, รักษาพยาบาลโรคที่ไม่ใช่โควิด-19 ในประเทศไทยพร้อมผู้ติดตาม 2 ราย
“สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเน้นย้ำว่าโรคโควิดฯ เป็นหนึ่งในโรคต้องห้ามเข้าประเทศตาม พ.ร.บ.ตรวจคนเข้าเมืองฯ ฉะนั้น ในกระบวนการที่จะอนุญาตให้เข้าเมือง หากแพทย์ยืนยันว่าคน ๆ นั้นเป็นโรคโควิดฯ สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองก็จะใช้อำนาจในการปฏิเสธการเข้าเมืองทันที” รองโฆษก ตม.กล่าว
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage