ศาลอาญาสั่งจำคุก 1 เดือน ‘เพนกวิน’ ละเมิดอำนาจศาล หลังปฏิบัติตัวไม่เรียบร้อย-โต้ตอบผู้พิพากษาในขณะหน้าที่ ยืนอ่านแถลงการณ์บนเก้าอี้ปมไม่ได้ประกันตัวเมื่อ 15 มี.ค.
................................................
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 22 มี.ค. 2564 ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ออกนั่งบัลลังก์ไต่สวนคดีละเมิดอำนาจศาล ที่ผ อ.สำนักอำนวยการประจำศาลอาญา กล่าวหา นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ (เพนกวิน) จำเลย ถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดตามประมวลกฎหมายนอาญา มาตรา 112 และความผิดฐานชุมนุมโดยฝ่าฝืนกฎหมาย เป็นผู้ถูกกล่าวหาคดีละเมิดอำนาจศาล กรณีเมื่อวันที่ 15 มี.ค. เวลา 10.00 น. ที่ศาลอาญาได้นัดตรวจพยานหลักฐานคดีชุมนุมที่ท้องสนามหลวงวันที่ 19-20 ก.ย. 2563 และอัยการขอให้รวมสำนวนคดี ปรากฏว่า มีรายงานว่านายพริษฐ์ ปฏิบัติตัวไม่เรียบร้อยโต้ตอบผู้พิพากษาในขณะปฏิบัติหน้าที่ ขออ่านแถลงการณ์ แม้ถูกคัดค้านก็ไม่ยอมฟัง ยังยืนยันอ่านแถลงการณ์โดยลุกขึ้นยืนบนเก้าอี้ จนเกิดเหตุการณ์วุ่นวายมีคนเขวี้ยงขวดน้ำลงพื้น
ต่อมาเวลา 16.30 น. ศาลได้อ่านคำสั่ง โดยพิเคราะห์พยานหลักฐานประกอบสำนวนการไต่สวนแล้วเห็นว่า นายพริษฐ์ ผู้ถูกกล่าวหาได้พูดตอบโต้กับผู้พิพากษาในระหว่างพิจารณาและขออ่านคำแถลงการณ์ที่เตรียมมาผู้พิพากษาจึงได้อธิบายสิทธิของจำเลยและการประพฤติตนในห้องพิจารณาคดีให้ผู้ถูกกล่าวหาทราบ แต่ผู้ถูกกล่าวหายังคงยืนยันที่จะอ่านคำแถลงการณ์ที่เตรียมมา ผู้พิพากษาจึงไม่อนุญาต และออกข้อกำหนดเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย ในห้องพิจารณาและสั่งให้ตำรวจศาลนำตัวผู้ถูกกล่าวหาออกไปจากห้องพิจารณา แต่มีเหตุการณ์ไม่เรียบร้อยเกิดขึ้น ผู้พิพากษาจึงพักการพิจารณาชั่วคราว
ระหว่างนั้นผู้ถูกกล่าวหาได้ยืนขึ้นอ่านคำแถลงการณ์ และเกิดเหตุการณ์วุ่นวายในห้องพิจารณาตามคำกล่าวหา การกระทำของผู้ถูกกล่าวหาจึงเป็นการขัดขืน ไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดของศาลและประพฤติตนไม่เรียบร้อย ในบริเวณศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 31(1) ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15 และ มาตรา 180 จึงมีคำสั่งให้ลงโทษ จำคุกผู้ถูกกล่าวหามีกำหนด 1 เดือน
ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา นับเป็นเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษกึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 15 วัน เมื่อพิจารณาถึงอายุ การศึกษาอบรม สภาพความผิด และความรู้สำนึกในการกระทำความผิดของผู้ถูกกล่าวหาแล้ว ประกอบกับโทษจำคุกที่จะลงแก่ผู้ถูกกล่าวหามีกำหนดไม่เกิน 3 เดือน และไม่ปรากฏว่าผู้ถูกกล่าวหาเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน จึงเห็นสมควรให้ลงโทษกักขังแทนโทษจำคุกมีกำหนด 15 วัน นับแต่วันนี้ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 23 จากนั้นเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้ควบคุมตัวนายพริษฐ์ กับเข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ตามเดิม
ก่อนหน้านี้ ในช่วงเช้า นายพริษฐ์ เดินทางมาศาลด้วยการนั่งรถเข็นวีลแชร์ โดยมีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ 3-4 เป็นผู้พามาศาล โดยมีทีมพยาบาลจาก รพ.ราชทัณฑ์ 2 คน มาคอยดูแลอาการจากการที่ประท้วงอดข้าวอดอาหารมาหลายวันแล้ว โดยนายพริษฐ์ มีสีหน้าท่าทางอ่อนเพลีย ต้องคอยดมยาดมเป็นระยะ โดยมีพ่อแม่มาคอยให้กำลังใจในการไต่สวน
โดยศาลได้อ่านข้อกล่าวหาของ ผอ.ศาล ให้นายพริษฐ์ ฟังจนเป็นที่เข้าใจประกอบกับมีหลักฐานเป็นภาพจากกล้องวงจรปิดบันทึกเหตุการณ์วันเกิด เหตุในห้องพิจารณาคดี และได้สอบถามพริษฐ์ จะให้การว่าอย่างไร นายพริษฐ์ได้ขอเวลาระบายความอึดอัดใจไปพร้อมกับการแถลง โดยศาลอนุญาตให้นายพริษฐ์แถลงได้ภายในเวลา 5 นาที
เมื่อนายพริษฐ์ ลุกขึ้นยืนแถลงศาลเกี่ยวกับความอึดอัดที่ไม่ได้รับการประกันตัวใน 2 คดีที่ถูกฟ้อง เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ต้องคอยช่วยประคอง พร้อมแถลงด้วยวาจาว่า ตัวเองได้ถูกพรากอิสรภาพไปแล้ว เมื่อ 2,000 ปี ก่อนหน้านี้ โซเครติส ถูกประหารชีวิตด้วยยาพิษ เพราะศาลเมืองเอเธนส์ บอกว่า โซเครติส มอมเมาคนรุ่นใหม่เป็นอาชญากรร้าย แรงทางความคิด ต่อมา กาลิเลโอ ก็ถูกกักขังจนตาย จากการเสนอทฤษฎีว่าโลกไม่ได้เป็นศูนย์กลางของจักรวาล จึงไม่อยากให้มีการทำผิดพลาด ซ้ำรอยประวัติศาสตร์โลก
อย่างไรก็ตามศาลได้ปรามนายพริษฐ์ ขอให้แถลงให้ตรงประเด็นการไต่สวนวันนี้ซึ่งเป็นคดีละเมิดอำนาจศาล ถ้าแถลงไม่ตรงประเด็นศาลจะสั่งงดไต่สวน แต่นายพริษฐ์ อ้างว่าเกี่ยวข้องกับคดีนี้ และแถลงด้วยวาจาต่อ
นายพริษฐ์ แถลงว่า ตนเองถูกปฏิเสธสิทธิในการประกันตัว ทั้งที่ยังไม่ถูกตัดสินคดีใดๆ โดยศาลให้เหตุผลว่ากลัวกลับไปกระทำผิดซ้ำ ทั้งที่ยังไม่มีการตัดสินว่าการกระทำของตนเองเป็นความผิดแต่อย่างใด ทั้งยังบอกว่าตนเองไม่ควรได้สิทธิประกันตัว เพราะไปเหยียบย่ำหัวใจคนไทย เท่ากับว่าศาลได้ตัดสินให้มีความผิดแล้ว จึงเป็นการขัด รธน.ผู้ที่ยังไม่ถูกพิพากษาถือเป็นผู้บริสุทธิ์ ต้องไม่ถูกปฏิบัติแบบนักโทษ ไม่คำนึงถึงการ ใช้ชีวิตของตนเอง ที่ยังเป็นนักศึกษา ไม่สามารถไปเล่าเรียนได้ตามปกติ ต้องเข้าห้องสมุดหาหนังสือวรรณกรรมชั้นเลิศอ่าน
ทั้งนี้ขอให้ศาลพิจารณาพิพากษาคดี ถ้าหากตนเองจะถูกลงโทษก็ไม่เสียใจ เพราะยังไงตอนนี้ก็ถูกคุมขังในเรือนจำอยู่แล้ว จากนั้นศาลได้สอบถามนายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความว่าอยู่ในห้องพิจารณาวันเกิดเหตุด้วยหรือไม่ โดยนายกฤษฎางค์ ตอบว่า วันนั้นมีจำเลยที่ได้รับความเดือดร้อนหลายคนแย่งกันพูดหลายรอบหลายหน ในส่วนของนายเพนกวิน ไม่ได้เกลียดชังศาล แต่ต้องการอธิบายเหตุผล และความอึดอัดใจที่ไม่ได้รับประกันตัว
จากนั้นศาลได้เปิดภาพจากกล้องวงจรปิดบันทึกภาพในห้องพิจารณาคดีขณะเกิดเหตุ แต่นายเพนกวิน ก้มหน้าเขียนจดหมาย โดยขอกระดาษจากผู้สื่อข่าวในห้อง แต่ถูกเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ตรวจสอบก่อนว่าเป็นกระดาษเปล่า จึงอนุญาตให้เพนกวินนำไปเขียน ก่อนยื่นให้กับทนายความจำนวน 3 แผ่น อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้ขอตรวจสอบเนื้อหาในจดหมาย แต่ทนายความไม่อนุญาต เมื่อเปิดภาพกล้องวงจรปิดได้ราวๆ 5 นาที ทนายความได้ไปปรึกษาคดีกับเพนกวิน จากนั้นทนายความได้แถลงต่อศาลบอกว่า นายเพนกวินยอมรับว่ามีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นจริง แต่เกิดจากสิ่งอัดอั้นที่อยู่ในใจเรื่องไม่ได้รับการประกันตัว ภายหลังศาลไต่สวนเสร็จสิ้นแล้วโดยใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ศาลจึงทำการปรึกษากันภายในองค์คณะ
เมื่อออกนอกห้องพิจารณาคดีผู้สื่อข่าวได้สอบถาม นายกฤษฎางค์ ทนายความบอกว่า จดหมายทั้ง 3 แผ่น นายเพนกวิน เขียนไว้ใช้เป็นหลักฐานในการยื่นอุทธรณ์คดีนี้ หากศาลมีคำสั่งลงโทษจำคุก จะต้องยื่นอุทธรณ์คำสั่งภายใน 15 วัน จึงถือว่าเป็นหลักฐานในคดี ไม่สามารถให้เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ตรวจสอบได้
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/