ตร.แถลงชี้แจงปมจับกุม 'โตโต้' แบ่ง 6 กลุ่มดำเนินคดีชุมนุม

ตำรวจนครบาลแถลงชี้แจงกรณีจับกุม 'โต้โต้' พร้อมจ่อดำเนินคดีผู้ชุมนุม 6 กลุ่ม ทั้งนี้พบทรัพย์สิน 'โต้โต้' ที่อ้างว่าสูญหายแล้ว

....................................

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 9 มี.ค. พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น.และ โฆษก บช.น. กล่าวถึงความคืบหน้าการจับุม นายปิยรัฐ จงเทพ หรือโต้โต้ พร้อมการ์ดกลุ่มวีโว่ ว่า พนักงานสอบสวนดำเนินคดีเป็น 6 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มที่ 1.กรณีนายปิยรัฐ พร้อมพวก 18 นาย ถูกจับกุมข้อหาสมคบกัน 5 คนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดอย่างหนึ่งอย่างใด ตามมาตรา 210 และมั่วสุมเพื่อเตรียมการก่อให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อยในบ้านเมือง ตามมาตรา 209 รวมถึงการกระทำผิดซึ่งหน้าซึ่งไม่จำเป็นต้องมีหมายจับ ความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และพ.ร.บ.ควบคุมโรค รวมทั้งหมด 4 ข้อหา

กลุ่มที่ 2 กลุ่มผู้ต้องหาถูกจับได้หลบหนีการควบคุมของเจ้าพนักงานสอบสวนสืบสวนคดีอาญามีความผิดตาม 4 ข้อหาเช่นเดียวกับ 18 คนแรก หลังปรากฏตัวที่สน.พหลโยธิน และเจ้าหน้าที่ได้ปล่อยตัวไปก่อน ก่อนจะพิสูจน์ทราบว่าบุคคลทั้ง 27 คน เป็นบุคคลที่หลบหนี จากนั้นจึงออกหมายเรียกให้รับทราบข้อกล่าวหา ส่วนผู้ต้องหาที่ไม่ได้มา จะออกหมายเรียกเช่นกัน

กลุ่มที่ 3 กลุ่มที่ปรากฏตามและและคลิปทุบทำลายรถควบคุมขังผู้ต้องหา มีความผิดตามข้อหาร่วมกันช่วยเหลือผู้ต้องหาให้หลุดพ้นไปจากการดูแลของเจ้าพนักงาน ตามมาตรา 191 ทั้งนี้จะมีการดำเนินคดีกับผู้ชุมนุมคนที่ทุบทำทรัพย์สินและทำร้ายตำรวจ ซึ่งมีความผิดมาตรา138 มาตรา140 และความผิดทำให้เสียทรัพย์

กลุ่มที่ 4 ตามที่ปรากฏภาพ มีกลุ่มบุคคลทุบทำลายแนวรั้วศาลอาญาและนำสิ่งต่างๆมาเผา รวมทั้งพระบรมฉายาลักษณ์ บุกรุกพสถานที่ราชการศาลอาญาและสำนักงานอัยการสูงสุด เป็นความผิดบุกรุกสถานที่ราชการในเวลากลางคืน และความผิดฐานละเมิดอำนาจศาล ซึ่งตำรวจกำตรวจสอบว่ามีความผิดใดผิดผิดตามมาตรา 112

กลุ่มที่ 5 คือกลุ่มผู้ชุมนุมอื่นๆ ที่มีการชักชวนผ่านสื่อโซเชียลมีเดียจัดให้มีการชุมนุมและสนับสนุนให้มีการชุมนุม ตลอดจนมาร่วมชุมนุมถือว่ากระทำผิดกฎหมาย ตามพ.ร.ก.ฉุกเฉินและพ.ร.บ.ควบคุมโรค

และกลุ่มที่ 6 คือกลุ่มบุคคลที่ใช้ลูกเหล็กหรืออาวุธปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำให้รถราชการเสียหาย มีรถกระบะ 1 คัน รถหกล้อ 2 คัน และรถบัส 3 คัน ของบช.ตชด. ขณะกลับจากการดูความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ศาลอาญา จากการตรวจสอบเชื่อว่าถูกยิงจากอาวุธปืน ถือว่าเป็นความผิดฐานพยายามฆ่า

พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวอีกว่า ส่วนการชุมนุมช่วงเย็นวันที่ 9 มี.ค. 2564 พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. สั่งการตำรวจในพื้นที่รับผิดชอบจัดกำลังควบคุมฝูงชนไม่ให้กระทบประชาชนทั่วไป จัดกองร้อยควบคุมฝูงชนไว้ดูแลที่ศาลอาญา เรือนจำพิเศษธนบุรี และเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เตรียมรับมือการชุมนุม ยืนยันว่ามีกำลังดูแลพื้นที่เพียงพอ

"การประกาศชักชวนชุมนุมที่ศาลอาญาและสถานีรถไฟฟ้าต่างๆ ขอแจ้งเตือนว่าเป็นพื้นที่กทม.ห้ามชุมนุมฝ่าฝืนจะมีความผิดตามพ.ร.ก.ฉุกเฉิน พ.ร.บ.ควบคุมโรคไม่ว่านั่งกินหมูกระทะ หรือมีคนจำนวนหนึ่ง แล้วปิดการจราจร ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนเป็นการทำผิดกฎหมาย" พล.ต.ต.ปิยะ กล่าว

ส่วนทรัพย์สินที่นายปิยรัฐแจ้งว่าหายไปในเหตุชิงตัวผู้ต้องหานั้นตำรวจเจอทรัพย์สินนายปิยรัฐแล้ว พบว่าซ่อนไว้ใต้เบาะนั่งรถ คาดน่าจะครบถ้วนและอายัดเป็นของกลางในคดี หากสูญหายตำรวจจะรับผิดชอบ ทั้งนี้มีตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บแจ้งว่าสร้อยคอทองคำพร้อมพระเลี่ยมทอง และโทรศัพท์มือถือถูกปล้นทรัพย์ไป เบื้องต้นสอบปากคำแล้วที่โรงพยาบาลตำรวจ เมื่อผู้เสียหายดีขึ้นออกจากโรงพยาบาลจะแจ้งความดำเนินคดีต่อไป

#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่https://www.facebook.com/isranewsfanpage