รมว.กระทรวงแรงงาน เผยผลลงทะเบียนแรงงานข้ามชาติตั้งแต่ 15 ม.ค.2564 - 13 ก.พ.2564 พบยื่นบัญชีรายชื่อกว่า 6 แสนราย เป็นคนเมียนมา-ลาว-กัมพูชา ย้ำเจ้าหน้าที่เตรียมลุยตรวจสอบแรงงานเถื่อน-ผลักดันกลับประเทศต้นทาง
……………………………………
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 14 ก.พ.2564 นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวถึงผลการขึ้นทะเบียนแรงงานข้ามชาติผ่านระบบออนไลน์ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 29 ธ.ค.2563 เพื่อป้องกัน ควบคุม และแก้ไขปัญหาการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายจากการระบาดของโควิดระลอกสอง พบว่า ตั้งแต่เปิดระบบลงทะเบียนออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ http://e-workpermit.doe.go.th เมื่อวันที่ 15 ม.ค.2564 - 13 ก.พ.2564 เวลา 23.59 น. มีแรงงานข้ามชาติยื่นบัญชีรายชื่อทั้งหมด 654,864 ราย เป็นแรงงานข้ามชาติ 3 สัญชาติ แบ่งเป็น 2 กลุ่ม โดยกลุ่มแรก เป็นกลุ่มที่มีนายจ้าง 596,502 คน แยกเป็นกัมพูชา 180,476 ราย ลาว 63,482 ราย และเมียนมา 352,544 ราย และกลุ่มที่สอง เป็นกลุ่มที่ไม่มีนายจ้าง 58,362 ราย แยกเป็น กัมพูชา 23,203 ราย ลาว 3,626 ราย และเมียนมา 31,533 ราย
นายสุชาติ กล่าวว่า จังหวัดที่อนุมัติบัญชีรายชื่อแรงงานข้ามชาติ 5 อันดับแรก ได้แก่ กทม. 120,163 ราย ชลบุรี 47,326 ราย ปทุมธานี 38,994 ราย สมุทรปราการ 37,621 ราย และสมุทรสาคร 28,953 ราย ส่วนประเภทกิจการที่อนุมัติบัญชีรายชื่อคนต่างด้าว 5 อันดับแรก ได้แก่ กิจการก่อสร้าง 148,332 ราย เกษตรและปศุสัตว์ 117,430 ราย จำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม 49,702 ราย การให้บริการต่างๆ 45,118 ราย และกิจการต่อเนื่องการเกษตร 39,025 ราย
ส่วนขั้นตอนการดำเนินงานหลังจากนี้ สำหรับกลุ่มแรงงานข้ามชาติที่มีนายจ้าง จะต้องเข้าตรวจคัดกรองหาเชื้อโควิดและจัดเก็บอัตลักษณ์บุคคล ภายในวันที่ 16 เม.ย.2564 และจะต้องตรวจโรคต้องห้าม 6 โรค ภายในวันที่ 18 ต.ค.2564 ซึ่งกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) จะส่งผลการตรวจโรค และตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) จะส่งข้อมูลการจัดเก็บอัตลักษณ์บุคคล ให้กรมจัดหางาน (กกจ.) ออกใบอนุญาตทำงานต่อไป ทั้งนี้นายจ้างจะต้องชำระเงินผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิส 7 -11 หรือธนาคารกรุงไทย รวมทั้งยื่นคำขออนุญาตทำงานแทนแรงงานข้ามชาติผ่านระบบออนไลน์เว็บไซต์ http://e-workpermit.doe.go.th โดยให้แนบใบรับรองแพทย์และหลักฐานการชำระเงิน พร้อมทั้งให้พิมพ์ใบรับคำขออนุญาตทำงาน เพื่อไปจัดทำทะเบียนประวัติ ภายในวันที่ 16 มิ.ย.2564 โดยนายจ้างจะพาแรงงานข้ามชาติไปทำทะเบียนประวัติ (ทร.38/1) และรับบัตรสีชมพูได้ที่สถานที่กรมการปกครอง/กทม. ภายในวันที่ 30 ธ.ค.2564
สำหรับกลุ่มแรงงานข้ามชาติที่ยังไม่มีนายจ้าง จะต้องเข้าตรวจคัดกรองหาเชื้อโควิดและจัดเก็บอัตลักษณ์บุคคล ภายในวันที่ 16 เม.ย.2564 และจะต้องตรวจโรคต้องห้าม 6 โรค ภายในวันที่ 18 ต.ค.2564 ทั้งนี้แรงงานข้ามชาติที่ผ่านการตรวจโรค สามารถทำทะเบียนประวัติ (ทร. 38/1) ได้ที่กรมการปกครอง/กทม. ภายในวันที่ 16 มิ.ย. 2564 โดยนายจ้างที่ประสงค์จ้างแรงงานข้ามชาติที่ทำทะเบียนประวัติ (ทร.38/1) เข้าทำงาน ให้ยื่นบัญชีรายชื่อแทนแรงงานข้ามชาติ ผ่านระบบออนไลน์เว็บไซต์ e-workpermit.doe.go.th ชำระค่าคำขอใบอนุญาตฯ ผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิส 7-11 หรือธนาคารกรุงไทย และยื่นคำขอรับใบอนุญาตฯ ผ่านเว็บไซต์ดังกล่าว โดยให้แนบใบรับรองแพทย์ หลักฐานการชำระเงิน และพิมพ์ใบรับคำขออนุญาตทำงาน เพื่อไปจัดทำทะเบียนประวัติ ภายใน 13 ก.ย.2564 ทั้งนี้นายจ้างจะต้องพาแรงงานข้ามชาติไปปรับปรุงทะเบียนประวัติ และรับบัตรประจำตัวคนที่ไม่มีสัญชาติไทย ณ สถานที่กรมการปกครอง/กทม. กำหนดภายใน 28 ก.พ.2565 อย่างไรก็ตามหากแรงงงานข้ามชาติทำงานประมงทะเล ให้ไปทำหนังสือคนประจำเรือตามที่กรมประมงกำหนด
นายสุชาติ กล่าวย้ำว่า ภายหลังจากวันนี้ พนักงานเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบและดำเนินการตามกฎหมายอย่างจริงจังกับแรงงานข้ามชาติที่ลักลอบเข้าเมือง และลักลอบทำงานผิดกฎหมาย โดยจะผลักดันส่งกลับประเทศต้นทาง รวมถึงดำเนินคดีกับนายจ้าง หรือสถานประกอบการที่จ้างแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายต่อไป
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage
Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา 