สสส.ชวนรณรงค์ 'ลดเร็ว ลดเสี่ยง' ช่วยลดอุบัติเหตุช่วงเทศกาลปีใหม่ ผู้เชี่ยวชาญเผยรถจักรยานยนต์ขับเร็ว 80 กม./ชม.โอกาสเสียชีวิตสูงถึง 42% ขณะที่ตำรวจเผยสถิติปีก่อน มีผู้เสียชีวิต 142 ราย มีผู้ใช้รถใช้ถนนถูกดำเนินคดีกว่า 4 หมื่นราย
--------------------------------------------------
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. 2563 สำนักงานครือข่ายลดอุบัติเหตุ (สคอ.) และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แถลงข่าว 'ลดเร็ว ลดเสี่ยง กลับบ้านปลอดภัย ปีใหม่ 2564' เพื่อสร้างความร่วมมือ รณรงค์ปลุกจิตสำนึกขับขี่ปลอดภัย และการเตรียมความพร้อมก่อนเดินทาง ลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงวันหยุดยาวเทศกาลปีใหม่ประจำปี
น.ส.รุ่งอรุณ ลิ้มฬหะภัณ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการควบคุมปัจจัยเสี่ยงทางสังคม สสส. กล่าวว่า ภาคีเครือข่ายด้านความปลอดภัยทางถนน เล็งเห็นถึงความสำคัญของปัญหาการเจ็บตายจากอุบัติเหตุทางถนน จึงร่วมสร้างความปลอดภัยทางถนนของประทศไทยมากว่า 18 ปี โดยช่วงเทศกาลปีใหม่ประจำปี 2564 ที่กำลังจะมาถึงนี้ สสส. ร่วมกับ ภาคีเครือข่ายฯ ร่วมกันรณรงค์เรื่อง 'ลดเร็ว ลดเสี่ยง' เพื่อฉายภาพให้เห็นถึงความรุนแรงของการขับรถเร็ว ยกตัวอย่าง การขับขี่รถที่ความเร็ว 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ต้องเผื่อระยะเบรกไว้ 38 เมตร จึงจะปลอดภัย และเมื่อรวมกับระยะสายตาที่จะมองเห็นและสมองสั่งการให้มือกำเบรกอีก 23 วินาที คิดเป็นระยะเบรกเพิ่มมาอีก 15 เมตร ซึ่งหมายความว่า การขับขี่ด้วยความเร็ว 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หากจะมีระยะเบรกที่ปลอดภัย จะต้องมีระยะทางมากกว่า 53 เมตร ซึ่งไม่มีทางเบรกทันแน่นอน จึงทำให้ยังมีโอกาสเสี่ยงที่จะเสียชีวิตได้
ด้าน พ.ต.อ.ชาคริต มงคลศรี รองผู้บังคับการตำรวจทางหลวง กองบังคับการตำรวจทางหลวง กล่าวว่า สถิติอุบัติเหตุช่วงเทศกาลปีใหม่ 2563 ที่ผ่านมา อุบัติเหตุจากการขับรถเร็วเกิดขึ้น 1,043 ครั้ง เสียชีวิต 124 คน บาดเจ็บ 1,196 คน ทั้งนี้การบังคับใช้กฎหมาย 10 ข้อหาหลักมีผู้ถูกดำเนินคดีรวม รวม 43,492 ราย แบ่งเป็น ขับเร็วเกินกำหนด 35,711 ราย ฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจร 1,752 ราย ไม่สวมหมวกนิรภัย 1,073 ราย ขับรถย้อนศร 913 ราย ไม่มีใบอนุญาตขับขี่ 1,177 ราย ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย 961 ราย แซงในที่คับขัน 499 ราย เมาสุรา 469 ราย รถจักรยานยนต์ไม่ปลอดภัย 586 ราย และใช้โทรศัพท์ในขณะขับรถ 351 ราย
“อยากเตือนว่า การขับขี่ควรใช้ความเร็วให้ช้าลงเพื่อให้มีความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ต้องเตรียมความพร้อมก่อนออกเดินทาง ตรวจเช็คสภาพรถ พักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 8 ชั่วโมง ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือยาที่มีผลทำให้ง่วงก่อนขับขี่ ศึกษาเส้นทางพักเป็นระยะ ลดความเมื่อยล้า อุบัติเหตุคือเหตุที่ไม่มีใครรู้ล่วงหน้า แต่ทุกคนสามารถป้องกันและลดความเสี่ยงลงได้” พ.ต.อ.ชาคริต กล่าว
รองผู้บังคับการตำรวจทางหลวง กล่าวย้ำว่า ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้กำชับให้หน่วยงานในสังกัดทุกหน่วยดูแลความปลอดภัยกับประชาชนในการเดินทางช่วงเทศกาลปีใหม่ 2564 โดยมีเรื่องหลัก 4 เรื่อง คือ ให้บริการประชาชนในการเดินทาง , ให้การช่วยเหลือเมื่อมีอุบัติเหตุหรือมีเหตุเกิดขึ้นบนทางหลวงหรือถนนทุกสาย , การบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด และการรวบรวมข้อมูลต่างๆ ที่ได้รับแจ้งจากสื่อมวลชน เพื่อดำเนินการต่อไปหลังจบเทศกาลปีใหม่ พร้อมทิ้งท้ายว่าจะประกาศใช้กฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยของประชาชนทุกคน
รศ.ดร.กัณวีร์ กนิษฐ์พงศ์ ผู้จัดการศูนย์วิจัยอุบัติเหตุแห่งประเทศไทย สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (AIT) กล่าวว่า จากการการเก็บข้อมูลอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับรถจักรยานยนต์ในประทศไทย โดยใช้เทคนิคการสืบสวนหาสาเหตุในเชิงลึกของอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ทั้งหมด 1,00 กรณี พบว่า สาเหตุหลักที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุ คือ ผู้ใช้รถขาดทักษะในการคาดการณ์ การควบคุมรถและไม่สามารถตัดสินใจได้อย่างถูกต้องเมื่อตกอยู่ในสถานการณ์ฉุกเฉิน ทั้งนี้พบว่าการใช้ความเร็วของผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ยังเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดความรุนแรงของอุบัติเหตุ โดยรถจักรยานยนต์ใช้ความเร็วสูงกว่า 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีโอกาสเสียชีวิตสูงถึงร้อยละ 42 และเมื่อขับด้วยความเร็วสูงกว่า 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โอกาสเสียชีวิตสูงถึงร้อยละ 80 ดังนั้นยิ่งขับรถด้วยความเร็วสูงมากขึ้นเท่าไรโอกาสเกิดอุบัติเหตุ และโอกาสเสียชีวิตจะสูงมากขึ้นเท่านั้น
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage