ธปท.แพร่ประกาศหลักเกณฑ์-เงื่อนไข การปล่อย ‘สินเชื่อออนไลน์’ รายละไม่เกิน 2 หมื่นบาท ผ่อนชำระได้ไม่เกิน 6 เดือน พร้อมผ่อนปรนเงื่อนไขไม่ต้องพิจารณา ‘รายได้-กระแสเงินสดในบัญชี’
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 15 ก.ย.ที่ผ่านมา นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ลงนามประกาศหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลดิจิทัล (สินเชื่อออนไลน์) พร้อมทั้งเปิดให้ผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้กำกับที่สนใจ สามารถแจ้งความประสงค์ประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลดิจิทัลมายังธปท.ได้
อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบธุรกิจต้องปฏิบัติตามคู่มือที่ธปท.กำหนด และต้องสามารถสาธิตผลิตภัณฑ์และต้นแบบ (Minimum Viable Product : MVP) ที่สะท้อนรูปแบบการให้บริการตามรายละเอียดที่ธปท.กำหนด
ทั้งนี้ หลักเกณฑ์ในการประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลดิจิทัล ธปท.กำหนดให้ผู้ประกอบธุรกิจถือปฏิบัติ เช่น ผู้ประกอบธุรกิจต้องใช้ข้อมูลทางเลือกในการประเมินความสามารถหรือความเต็มใจในการชำระหนี้ (ability or willingness to repay) สำหรับการให้สินเชื่อส่วนบุคคลดิจิทัลเพื่อประเมินความเสี่ยงที่เหมาะสม (customized risk profile) และเป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภคแต่ละรายในด้านต่างๆ อาทิ วงเงินสินเชื่อ อัตราดอกเบี้ย หรือเงื่อนไขอื่นใด
ผู้ประกอบธุรกิจต้องจัดทำและใช้ช่องทางในการเบิกจ่ายและรับชำระคืนสินเชื่อผ่านช่องทางดิจิทัลเป็นหลัก อาทิ การเบิกจ่ายและการชำระคืนสินเชื่อผ่านการโอนเงิน หรือการตัดบัญชีอัตโนมัติโดยใช้บัญชีสถาบันการเงิน หรือผ่านเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e- Money) เพื่อเป็นการส่งเสริมการสร้างข้อมูลรอยเท้าดิจิทัล (digital footprint) ในระบบการเงินให้กับผู้บริโภค ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการใช้บริการทางการเงินอื่นๆ ในอนาคต
และผู้ประกอบธุรกิจต้องเปิดเผยข้อมูลอัตราดอกเบี้ย เบี้ยปรับ ค่าปรับ ค่าบริการ ค่าธรรมเนียม และค่าใช้จ่ายใด ๆ ที่เกี่ยวกับสินเชื่อส่วนบุคคลดิจิทัล ตลอดจนการจัดทำตารางแสดงภาระหนี้ตามที่กำหนดในประกาศธนาคารแห่งประเทศไทยว่าด้วยการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับผ่านช่องทางดิจิทัลโดยมีระบบให้ผู้บริโภคสามารถเรียกดูข้อมูลดังกล่าวได้โดยสะดวก รวดเร็ว เป็นต้น
ส่วนการกำหนดวงเงินและระยะเวลาการชำระคืนสินเชื่อส่วนบุคคลดิจิทัลนั้น ผู้ประกอบธุรกิจสามารถให้สินเชื่อส่วนบุคคลดิจิทัลแก่ผู้บริโภคแต่ละรายรวมไม่เกิน 20,000 บาท และให้มีกำหนดระยะเวลาการชำระคืนสินเชื่อส่วนบุคคลดิจิทัลแต่ละสัญญาไม่เกิน 6 เดือน และห้ามมิให้ผู้ประกอบธุรกิจเรียกเก็บดอกเบี้ย เบี้ยปรับ ค่าปรับ ค่าบริการ หรือค่าธรรมนียมใดๆ เพิ่มเติม กรณีผู้บริโภคไถ่ถอนสินเชื่อส่วนบุคคลดิจิทัลก่อนกำหนดทั้งจำนวนหรือบางส่วน
พร้อมกันนั้น ธปท.มีการกำหนดสัดส่วนการให้สินเชื่อส่วนบุคคลดิจิทัลแก่ผู้บริโภครายใหม่และผู้บริโภครายเดิม โดยเมื่อผู้ประกอบธุรกิจให้บริการสินเชื่อส่วนบุคคลดิจิทัลครบ 1 ปี ผู้ประกอบธุรกิจต้องมีสัดส่วนการให้สินเชื่อส่วนบุคคลดิจิทัลแก่ผู้บริโภคสินเชื่อส่วนบุคคลดิจิทัลรายใหม่ไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของผู้บริโภคสินเชื่อส่วนบุคคลดิจิทัลทั้งหมดของผู้ประกอบธุรกิจ
ทั้งนี้ ผู้บริโภคสินเชื่อส่วนบุคคลดิจิทัลรายใหม่ ให้หมายถึง ผู้บริโภคสินเชื่อส่วนบุคคลดิจิทัลที่ไม่เคยเป็นผู้บริโภคสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับของผู้ประกอบธุรกิจ หรือผู้บริโภคสินเชื่อส่วนบุคคลดิจิทัลที่เคยเป็นผู้บริโภคสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับของผู้ประกอบธุรกิจ แต่ไม่มียอดคงค้างภายในระยะเวลา 1 ปีก่อนวันที่ยื่นขอสินเชื่อส่วนบุคคลดิจิทัล
อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่ผู้ประกอบธุรกิจไม่สามารถปฏิบัติตามหลักเกณฑ์การกำหนดสัดส่วนการให้สินเชื่อส่วนบุคคลดิจิทัลแก่ผู้บริโภครายใหม่และผู้บริโภครายเดิมได้ ให้ผู้ประกอบธุรกิจแจ้งเหตุผลความจำเป็นหรือพฤติการณ์พิเศษต่อธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นหนังสือ ก่อนครบกำหนดล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 15 วัน ทั้งนี้ ธนคารแห่งประเทศไทยอาจพิจารณายกเลิกการผ่อนผันหลักเกณฑ์หรือเงื่อนไขการประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับตามที่กำหนดในหนังสือเวียนฉบับนี้เป็นรายกรณีหรือมีคำสั่งเป็นอย่างอื่นได้
นอกจากนี้ ผู้ประกอบธุรกิจต้องจัดให้มีการรักษาความมั่นคงปลอดภัยด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ และครอบคลุมการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลตลอดวงจรชีวิตของข้อมูล ตั้งแต่การสร้างหรือการได้มาซึ่งข้อมูล การประมวลผล การจัดเก็บ การใช้งาน และการทำลายข้อมูล เพื่อสามารถให้บริการแก่ผู้บริโภคได้อย่างปลอดภัยต่อเนื่อง และดูแลให้สอดคล้องตามหลักเกณฑ์และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง รวมถึงจัดให้มีการทบทวนและปรับปรุงการรักษาความมั่นคงปลอดภัยด้านเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างสม่ำเสมอให้สอดรับกับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป เป็นต้น
ภายใต้ประกาศดังกล่าว ธปท.กำหนดให้มีการผ่อนผันหลักเกณฑ์หรือเงื่อนไขการประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ สำหรับการประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลดิจิทัลในกรณี ดังต่อไปนี้
1.ผู้ประกอบธุรกิจไม่จำเป็นต้องพิจารณาฐานะทางการเงินจากรายได้หรือกระแสเงินสดหมุนเวียนในบัญชีเงินฝากของผู้บริโภคสำหรับการพิจารณาให้สินเชื่อ
2.ผู้ประกอบธุรกิจไม่จำเป็นต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการกำหนดวงเงินสินเชื่อตามสัดส่วนรายได้ หรือกระแสเงินสดหมุนเวียนในบัญชีเงินฝากของผู้บริโภค
3.ผู้ประกอบธุรกิจไม่จำเป็นต้องนำจำนวนวงเงินสินเชื่อส่วนบุคคลดิจิทัล นับรวมกับจำนวนวงเงินสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับที่มิใช่สินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นประกัน หรือสินเชื่อระหว่างบุคคลกับบุคคล ที่ผู้บริโภครายดังกล่าวได้รับจากผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลดิจิทัลอื่น ผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับที่มิใช่สินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นประกันอื่น ผู้ประกอบธุรกิจระบบหรือเครือข่ายอิเล็กทรอนิกส์สำหรับธุรกรรมสินเชื่อระหว่างบุคคลกับบุคคลอื่น หรือสถาบันการเงินอื่น
4.ผู้ประกอบธุรกิจไม่จำเป็นต้องใช้ข้อมูลจากแหล่งข้อมูลกลาง หรือจัดตั้งศูนย์ข้อมูลเพื่อใช้ข้อมูลร่วมกันในการสอบนข้อมูลของผู้บริโภค เช่น วงเงินสินเชื่อที่ได้รับทั้งสิ้น และภาระหนี้สิ้น ทั้งนี้ ผู้ประกอบธุรกิจยังคงต้องให้ความสำคัญกับความน่าเชื่อถือของข้อมูลที่นำมาใช้
ทั้งนี้ ผู้ประกอบธุรกิจต้องจัดและจัดส่งรายงานที่เกี่ยวข้องกับสินเชื่อส่วนบุคคลดิจิทัล เพิ่มเติมจากการจัดทำรายงานสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด ในรูปแบบ Excel file ที่เผยแพร่ผ่านทางเว็บไซต์ของธนาคารแห่งประเทศไทย และให้จัดส่งแบบรายงานดังกล่าวผ่านช่องทางการรับส่งข้อมูลของระบบ DMS Data Acquisition ทางอินเทอร์เน็ต เว้นแต่มีเหตุจำเป็นและได้รับการผ่อนผันจกรนาคารแห่งประเทศไทย เป็นต้น
กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage