'อนุทิน' เผย พร้อม 100% โครงการรับยาใกล้บ้าน ดีเดย์ 1 ต.ค. 2562 เริ่มผู้ป่วยโรคเบาหวาน ความดัน จิตเวชและหอบหืด เลือกรับยาที่โรงพยาบาลหรือร้านยาก็ได้ ตั้งเป้ามีร้านยาเข้าร่วม 500 แห่ง ผู้ป่วยไปรับยาที่ร้าน 2 ล้านคน
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า หลังจากที่คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ มีมติเห็นชอบโครงการรับยาใกล้บ้านสำหรับผู้ป่วยสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติหรือสิทธิบัตรทอง 30 บาทไปเมื่อวันที่ 2 ก.ย. 2562 ที่ผ่านมา การดำเนินโครงการนี้จะเริ่มอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 ต.ค. 2562 ที่จะถึงนี้ โดยผู้ป่วย 4 กลุ่มโรค คือ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง จิตเวช และหอบหืด จะมีทางเลือกได้ว่าจะรับยาที่โรงพยาบาลหรือร้านยาใกล้บ้าน
นายอนุทิน กล่าวต่อว่า เป้าหมายเบื้องต้นที่ตั้งไว้คือมีโรงพยาบาลเข้าร่วมอย่างเป็นทางการ 50 แห่ง ร้านยา 500 ร้าน และสามารถทำให้บริการผู้ป่วย 4 โรคนี้ไปรับยาที่ร้านยาใกล้บ้านในรอบปีนี้ 2 ล้านคน โดยปัจจุบันมีโรงพยาบาลที่สมัครเข้าร่วมอย่างเป็นทางการแล้ว 48 แห่ง และร้านยาประมาณ 410 แห่ง
"โครงการมีวัตถุประสงค์หลักอยู่ 2 ประเด็น 1.ลดความแออัดของโรงพยาบาลซึ่งมีผู้ป่วยมารับยาจำนวนมาก 2.การสร้างทางเลือกให้กับประชาชนในการที่จะสามารถเลือกได้ว่ารับยาที่โรงพยาบาลหรือที่ร้านยา ส่วนเรื่องการเตรียมความพร้อมในวันที่ 1 ต.ค. 2562 เรามั่นใจ 100% แต่ถึงเวลาปฏิบัติก็ต้องมาดูว่ามีประเด็นไหนที่ต้องปรับปรุง เนื่องจากเป็นการเริ่มต้นระบบใหม่ ดังนั้นในช่วงแรกเราจึงเลือกเฉพาะผู้ป่วยสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติหรือสิทธิบัตรทอง 30 บาทในกลุ่ม 4 โรคเรื้อรังในการรับยาร้านยาตามโครงการฯ นี้ก่อน เพื่อเรียนรู้พฤติกรรมการรับยาของประชาชน และมีการศึกษาวิจัยประเมินผลควบคู่ไปในตัวเพื่อดูว่าจะต้องไปปรับปรุงในเรื่องใด ระบบบริหารจัดการเป็นอย่างไร ระบบบริการอย่างไร" นายอนุทิน กล่าว
นายอนุทิน กล่าวอีกว่า สำหรับการปฏิบัติตัวของประชาชนตามโครงการ ให้เหมือนการรับบริการตามปกติทั่วไป เพียงแต่เมื่อไปรักษาโรงพยาบาล แพทย์ก็จะมีทางเลือกให้ว่าถ้าประสงค์ที่จะรับยาที่โรงพยาบาลหรือจะไปรับยาที่ร้านยา หากเลือกรับที่ร้านยาก็จะมีระบบการจัดการส่งยาไปที่ร้านยานั้นๆ ผู้ป่วยสามารถไปรับได้เลย แต่ถ้าเป็นคนไข้ใหม่ ครั้งแรกอาจต้องรับยาที่โรงพยาบาล จนแพทย์มั่นใจว่ามีการใช้ยาอย่างสม่ำเสมอ สามารถควบคุมความดันได้ ควบคุมน้ำตาลในเลือดได้ หรือถ้าเป็นโรคจิตเวชก็มีการทานยาอย่างสม่ำเสมอ มีอารมณ์ปกติ ก็จะมีทางเลือกให้ว่ายินดีรับยาใกล้บ้านหรือไม่ ถ้าจะรับที่โรงพยาบาลเหมือนเดิมก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าดูแล้วคิดว่าร้านยาอยู่ในชุมชน เคยไปใช้บริการปรึกษาหารือก็เลือกไปรับยาที่ร้านได้
"การบริการผู้ป่วยยังคงเป็นไปตามระบบปกติ ไม่ได้มีอะไรพิเศษ เพียงแต่ให้ประชาชนมีโอกาสเลือกไปรับยาที่ร้านยาเท่านั้นเอง ร้านยาที่เข้าร่วมโครงการก็มีการขึ้นทะเบียน มีเภสัชกรประจำ ดังนั้นมาตรฐานเหมือนกันกับการรับยาที่โรงพยาบาล ยาก็เป็นยาจากโรงพยาบาลเอาไปวางไว้ที่ร้านยาและยังจะมีการขยายบริการอื่นๆ เพิ่มเติม เช่น การวัดความดัน ฯลฯ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ป่วยมากขึ้น" นายอนุทิน กล่าว
ทั้งนี้ ประชาชนที่สนใจรับยาใกล้บ้านสามารถตรวจสอบรายชื่อร้านยาที่เข้าร่วมโครงการได้ที่เว็บไซต์สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ www.nhso.go.th หรือตามลิงก์ https://www.nhso.go.th/FrontEnd/page-contentdetail.aspx?CatID=MTI4OA==