แอมเนสตี้ส่งจดหมายเปิดผนึกถึง รมว.ต่างประเทศ สหรัฐฯ ในวาระเยือนไทย

แอมเนสตี้ส่งจดหมายเปิดผนึกถึง รมว.ต่างประเทศ สหรัฐฯ ในวาระเยือนไทย แจ้งให้ทางการไทยทราบถึงข้อกังวลของต่อการละเมิดสิทธิมนุษยชนร้ายแรงที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในประเทศ 

แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล สหรัฐอเมริกาส่งจดหมายเปิดผนึกถึง ไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีว่าการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา ในวาระเยือนไทยเพื่อร่วมประชุมอาเซียนระหว่างวันที่ 1-3 ส.ค. 2562 นี้ โดยเรียกร้อง รมว. ต่างประเทศ สหรัฐฯ แจ้งให้ทางการไทยทราบถึงข้อกังวลของต่อการละเมิดสิทธิมนุษยชนร้ายแรงที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในประเทศ และเน้นย้ำว่าทางการไทยต้องดำเนินการเพื่อคุ้มครองสิทธิมนุษยชนให้มากขึ้น หากรัฐบาลสหรัฐฯ ให้การยอมรับรัฐบาลไทยโดยไม่กล่าวถึงการปฏิบัติมิชอบเหล่านี้ ย่อมเท่ากับเป็นการส่งเสริมให้มีปฏิบัติการที่กดขี่เช่นนี้โดยปริยายต่อไป ซึ่งถือเป็นการคุกคามอนาคตด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศและภูมิภาคด้วย

ฟรานซิสโก เบนคอสมี ผู้อำนวยการฝ่ายรณรงค์และนโยบายเอเชียแปซิฟิก แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล สหรัฐอเมริกา ส่งจดหมายเปิดผนึก ถึง ไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีว่าการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา แสดงความกังวลต่อสิทธิมนุษยชนในประเทศไทย โดยเฉพาะเรื่องการจำกัดเสรีภาพในการแสดงออก การสมาคม การชุมนุมอย่างสงบ และความเป็นส่วนตัว แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลยังมีข้อกังวลมาตลอดเกี่ยวกับการที่ไทยไม่สามารถป้องกันหรือสอบสวนการละเมิดอย่างร้ายแรง รวมทั้งการทรมาน การบังคับบุคคลให้สูญหาย และการสังหารนอกกระบวนการกฎหมาย รวมทั้งการปฏิบัติต่อผู้ลี้ภัยและผู้โยกย้ายถิ่นฐาน

ฟรานซิสโก เผยว่า การเดินทางมาเยือนประเทศไทยของ รมว.ต่างประเทศ สหรัฐฯ เป็นโอกาสดีที่จะแจ้งให้ทางการไทยทราบถึงข้อกังวลของต่อการละเมิดสิทธิมนุษยชนร้ายแรงที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในประเทศ เนื่องจากการเลือกตั้งที่ผ่านมามีการควบคุมจำกัดสิทธิมนุษยชนอย่างมาก รวมทั้งการจำกัดเสรีภาพในการแสดงออกและการชุมนุมอย่างต่อเนื่อง มีการฟ้องคดีต่อผู้วิจารณ์อย่างสงบ มีการใช้อำนาจอย่างต่อเนื่องเพื่อกักขังบุคคลโดยพลการ และมีการใช้ความรุนแรงต่อนักกิจกรรมโดยไม่มีการสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

“สหรัฐอเมริกาจึงควรกดดันรัฐบาลไทยให้ดำเนินการที่จำเป็นเพื่อส่งเสริมการเคารพสิทธิมนุษยชนต่อไป เป็นเรื่องสำคัญมากที่เจ้าหน้าที่จากสหรัฐ ฯ ต้องแสดงท่าทีอย่างชัดเจนว่า ตราบใดที่ยังมีการคุกคามด้วยกระบวนการกฎหมาย และการควบคุมตัวโดยพลการต่อผู้เห็นต่างอย่างสงบ สหรัฐ ฯ ไม่ควรเปลี่ยนนโยบายที่มีต่อประเทศไทย” ผอ.แอมเนสตี้ สหรัฐฯ กล่าว