
การทางพิเศษฯ เตรียมเสนอที่ประชุมคจร. 3 ธ.ค.นี้ พิจารณาปรับแบบโปรเจ็กต์ทางด่วนสายเหนือช่วง N1 ศรีรัช-ถนนประเสริฐมนูกิจ ส่วนช่วง N2 ฉลองรัช-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันออก รอเข้าครม.
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 1 ธันวาคม 2568 นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีโครงการในมือที่จะลงทุนแน่นอน แต่ต้องประเมินให้ดี เพราะก็ต้องยอมรับว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีปัญหาเพดานหนี้สาธารณะสูงมาก ดังนั้น การลงทุนเองจะยากขึ้น ซึ่งแนวโน้มการลงทุนจะไปในโครงสร้างพื้นฐาน จะไปในแนวทางการร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนในกิจการของรัฐ (PPP: Public Private Partnership) หรือไม่ก็ใช้กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย (Thailand Future Fund หรือ TFFIF)
อย่างไรก็ตาม ผู้ว่ากทพ.กล่าวว่า โครงการที่ กทพ.มีแนวโน้มจะลงทุนเอง ตอนนี้จะเน้นไปที๋โครงการที่อยู่ในขั้นตอนการขออนุมัติโครงการแล้ว ประกอบด้วย โครงการทางพิเศษจังหวัดภูเก็ตระยะที่ 1 ช่วงกะทู้-ป่าตอง ระยะทาง 3.98 กม. วงเงินลงทุน 16,757 ล้านบาท, โครงการทางพิเศษจังหวัดภูเก็ต ระยะที่ 2 ช่วงเมืองใหม่-เกาะแก้ว-กะทู้ ระยะทาง 30.62 กม. วงเงินลงทุน 46,752 ล้านบาท และโครงการทางพิเศษสายฉลองรัช-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันออกหรือ N2 เดิม ระยะทาง 6.67 กม. งบประมาณดำเนินโครงการ 13,666 ล้านบาท ส่วนโครงการที่ค้างอยู่น่าจะไปทาง PPP และใช้กองทุนหมด
ส่วนความคืบหน้าการดำเนินโครงการทางพิเศษสายฉลองรัช-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันออกหรือ N2 เดิม นายสุรเชษฐ์กล่าวว่า สถานะปัจจุบันรอเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบ ส่วนโครงการช่วงศรีรัช-ถนนประเสริฐมนูกิจ ระยะทาง 12.6 กม. (ทดแทน N1 เดิม) ที่ผ่านหน้าม.เกษตรศาสตร์ ขอหารือกระทรวงคมนาคมและกรมทางหลวง (ทล.) ก่อนว่าจะออกแบบอย่างไร ซึ่งโครงการนี้เดิมทีมีความตั้งใจจะให้เกิดการเชื่อมต่อตะวันออกกับตะวันตกถ้าหากการก่อสร้างสามารถทำได้ตั้งแต่ช่วงถนนเกษตร-นวมินทร์ ยาวไปจนถึงสี่แยกแครายได้ ก็ถือเป็นเรื่องที่ดี แต่เมื่อมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ไม่ยอมให้สร้าง ก็อาจจะทำแบบอื่นต่อไป ซึ่ง กทพ.ยืนยันว่าจะไม่ทำอุโมงค์ลอดใต้อีกแล้ว
สำหรับภาระต้นทุนงานก่อสร้าง ผู้ว่าฯกทพ.กล่าวว่า ไม่ได้ถูกลง แม้จะตัดช่วงผ่านมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ออก เพราะว่าโครงสร้างร่วมที่จะทำร่วมกับรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาลช่วงแคราย - ลำสาลี ของการรถไฟฟ้งขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ต้องยกสูงขึ้นไปมากกว่ารถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล
ทั้งนี้ การจะปรับแบบดังกล่าว ต้องเสนอให้ที่ประชุมคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) ที่มีนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เห็นชอบก่อน หลังจากนั้น จึงจะทบทวนผลการศึกษาใหม่ต่อไป
สุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.)
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 3 ธ.ค.นี้ จะมีการประชุม คจร. โดยมีวาระพิจารณาแนวทางเชื่อมต่อโครงข่ายถนนในแนวฝั่งตะวันออก-ตะวันตก (ถ.งามวงศ์วาน-ถ.ประเสริฐมนูกิจ) รวมอยู่ด้วย
สำหรับรายละเอียดโครงการระบบทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือ เป็นโครงการที่มีไว้เพื่อแก้ปัญหาการจราจรติดขัดบนโครงข่ายถนนหลักในพื้นที่กรุงเทพมหานครตามแนวตะวันออก-ตะวันตก ได้แก่ ถนนงามวงศ์วาน ถนนประเสริฐมนูกิจ และโครงข่ายถนนโดยรอบ เนื่องจากมีปริมาณจราจรเต็มความจุของถนนที่สามารถรองรับได้
โดยแบ่งการดำเนินโครงการเป็น 2 ระยะ ระยะที่ 1 ระบบทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือ สายฉลองรัช-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันออกหรือ N2 เดิม ระยะทาง 6.67 กม. งบประมาณดำเนินโครงการ 13,666 ล้านบาท และระยะที่ 2 โครงการทางพิเศษเชื่อมต่อทิศตะวันออกกับทิศตะวันตกของกรุงเทพฯช่วงศรีรัช-ถนนประเสริฐมนูกิจ หรือ N1 เดิม ระยะทาง 12.60 กม. งบประมาณ 10,550 ล้านบาท


Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา