‘พิมพ์วิไล’ เผย โอนส่วยเว็บพนัน – ‘บิ๊กโจ๊ก’ เปิด เส้นเงินโยงนักการเมืองระดับชาติ-ท้องถิ่น

พิมพ์วิไล ปล้องอ่อน พยานคดีเว็บพนัน เผย โอนเงินส่วยเว็บพนันออนไลน์ให้ ‘รองกาโม่-พล.ต.ต. ก.’ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรองผบ.ตร. เปิดเส้นเงิน โยง อดีตผบ.ตร.-นักการเมืองระดับชาติ-ท้องถิ่น ด้าน พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ อดีตผู้บัญชาการสำนักงานกฎหมายและคดี ยืนยัน ไม่ใช่ลูกน้อง-ตำรวจPCT4

สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2568 ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) เป็นประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร พิจารณาศึกษาปัญหาและแนวทางการปฏิรูประบบราชการตำรวจด้านการบริหารงานบุคคล กรณีคณะกรรมการพิจารณาเรื่องร้องเรียนตำรวจ (ก.ร.ตร.) มีมติชี้มูลความผิดทางวินัยร้ายแรง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (อดีตผบ.ตร.) และเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกกว่า 200 นาย ในกรณีรับส่วยจากขบวนการเว็บพนันออนไลน์ ซึ่งกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ ซึ่งได้เชิญผู้ที่เกี่ยวข้อง อาทิ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร. และนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานช่วยเหลือเหยื่อนอาชญากรรม ในฐานะผู้ร้อง น.ส.พิมพ์วิไล ปล้องอ่อน พยานคดีเว็บพนัน สภ.คอหงส์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ผู้มาให้ข้อมูลการโอนเงินไปยังข้าราชการตำรวจ 30 กว่าคนและนักการเมืองท้องถิ่น โดยมี พล.ต.อ.กรไชย คล้ายคลึง รองผบ.ตร. ผู้แทนนายกรัฐมนตรีและผู้แทนผบ.ตร.เข้าร่วมชี้แจง และ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รองจเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะอดีตผู้บัญชาการสำนักงานกฎหมายและคดี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ผบช.กมค.) และหัวหน้าชุดปฏิบัติการ PCT4 ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.)

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ถามน.ส.พิมพ์วิไลในที่ประชุมว่า ในกรณีพบเส้นทางการเงิน รวมถึงบัญชีต่างๆ โอนเงินให้กับตำรวจและนักการเมืองท้องถิ่นนั้น ขอถามว่า มีการโอนเงินจากน.ส.พิมพ์วิไลให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจตามรายชื่อที่ปรากฎข้อมูลเส้นทางการเงิน โอนเป็นค่าอะไรและโอนอย่างไร

น.ส.พิมพ์วิไลกล่าวว่า หลังจากตนเองได้ถูกจับกุมได้มีการไปสอบถามคนที่ว่าจ้างให้โอนเงินว่า ทำไมถึงโดนจับกุม ซึ่งได้รับคำตอบว่า เงินที่โอนให้ตำรวจหรือโอนไปในที่ต่างๆ เป็นเงินผิดกฎหมาย เป็นเงินเกี่ยวกับการพนัน พูดตรงไปตรงไปตรงมาก็คือ ส่วย ที่ส่งให้ตำรวจทั้งหมด

“หลังจากที่หนูถูกจับกุม หนูเป็นแค่คนที่โอนเงิน และเป็นแค่คนที่ทำบัญชี หนูรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม หนูไม่ทราบมาก่อน มาทราบภายหลัง หนูก็เลยไปแจ้งความไว้กับ สน.เตาปูน และสภ.คอหงส์ด้วย ว่าทำไม หนูโอนเงินให้เจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วทำไมเขามาจับกุมหนู”น.ส.พิมพ์วิไลกล่าว

นายรังสิมันต์ถามต่อว่า รู้หรือไม่ว่า เป็นส่วยเกี่ยวกับอะไร

น.ส.พิมพ์วิไลกล่าวว่า บางรายการก็รู้ บางรายการก็ไม่ทราบ ที่รู้คือ เป็นเว็บไซต์การพนันออนไลน์

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ถามต่อว่า ในส่วนของชุดPCT4 ซึ่งมีพล.ต.ท.ไตรรงค์เป็นหัวหน้าชุดในขณะนั้น พบว่า มีการโอนเงินเข้าไปด้วย อยากทราบว่า โอนเงินเว็บพนันเข้าไปให้จริงหรือไม่และโอนผ่านใคร รายละเอียดเป็นอย่างไร

น.ส.พิมพ์วิไลกล่าวว่า “โอนผ่านจริง ก็คือ คนที่ว่าจ้างให้ติดต่อกับคนคนหนึง (รองกาโม่) ที่เขาจะมาเรียกเก็บหนูทุกวันที่ 5 จำนวน 65,000 บาท และวันที่ 10 จำนวน 120,000 บาท ของเดือนว่า ตำรวจชุดนี้ คือ ตำรวจPCT4”

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ซักต่อว่า วิธีการโอน โอนไปให้ใคร ผ่านบัญชีใคร อย่างไร ผ่านบัญชีใครบ้าง และโอนไปให้ตำรวจชื่ออะไร

น.ส.พิมพ์วิไลกล่าวว่า “จะโอนไปให้รองกาโม่”

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ถามว่า เป็นตำรวจที่อยู่ในPCT4ใช่หรือไม่

น.ส.พิมพ์วิไลตอบว่า “ใช่ค่ะ”

พล.ต.ท.ไตรรงค์ ซักถาม น.ส.พิมพ์วิไลว่า ได้รับการว่าจ้างมานานหรือยัง กี่เดือน กี่ปี ก่อนที่จะถูกจับกุม

น.ส.พิมพ์วิไลกล่าวว่า ประมาณปี 65-66 คนที่ชื่อขวัญเป็นผู้ว่าจ้าง ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง

พล.ต.ท.ไตรรงค์ซักว่า รองกาโม่ คือ คนที่คุณขวัญบอกใช่หรือไม่

น.ส.พิมพ์วิไลกล่าวว่า “ใช่ค่ะ”

พล.ต.ท.ไตรรงค์กล่าวว่า “รองกาโม่เป็นใครตนเองไม่รู้”

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าวเสริมว่า ตำรวจ 3 คนที่ถูกดำเนินคดีไม่ใช่ลูกน้องของพล.ต.ท.ไตรรงค์ถูกต้องแล้ว แต่เป็น PCT3 

“ส่วน PCT4 พิมพ์วิไลบอกว่า โอนเงินให้ อาซีซ๊ะ บัญชีม้า แล้วอาซีซ๊ะบอกพิมพ์วิไลว่า ส่งเงินต่อให้รองกาโม่ มันก็เลยไม่มีเส้นเงินวิ่งไปที่รองกาโม่ ซึ่ง พิมพ์วิไลบอกว่า รองกาโม่คือ พล.ต.ต.ชื่อย่อ ก. ”พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าว

พล.ต.ท.ไตรรงค์กล่าวยืนยันว่า จากการขยายผลเส้นทางการเงินมีการดำเนินคดีไปแล้ว โดยพนักงานสอบสวน สภ.คอหงส์ โดยเส้นเงินของน.ส.อาซีซ๊ะไปที่ กนกพร ซึ่งโอนต่อไปให้หลายคนและในที่สุดนำไปสู่การดำเนินคดีกับตำรวจ 3 นาย ยศดาบตำรวจ สังกัดสันติบาล 1 นาย พ.ต.ต. 1 นาย และ พ.ต.อ.1 นาย

“ทั้งหมดผมขอยืนยันว่า ไม่ใช่ลูกน้องในชุด PCT 4 ของผม ไม่ใช่ผู้ใต้บังคับบัญชาของผม ขณะเป็นผมเป็นหัวหน้า PCT 4เด็ดขาด”พล.ต.ท.ไตรรงค์กล่าว

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าวเสริมว่า เมื่อมีการขยายผลมายังนาย จ. ซึ่งเป็นบัญชีม้า นายจ.ก็เลยหนีไปประเทศเพื่อนบ้าน จึงไม่สามารถเอาข้อมูลจากนาย จ.ได้ ซึ่งจากชุดสืบสวนคาดว่า "น่าจะ" เป็นบัญชีม้าของ PCT4 แต่เมื่อหานาย จ.ไม่เจอ จึงไม่สามารถขยายผลต่อไปได้ ถูกตัดตอน ไม่รู้ว่าใครอุ้มนาย จ.ไปไหน ส่วนตัวไม่ได้เชื่อว่า นาย จ.เป็นบัญชีม้าให้กับ PCT4 

พล.ต.ท.ไตรรงค์กล่าวว่า จาก นาย จ. เส้นเงินไปที่ตำรวจ 3 คนที่ถูกดำเนินคดี ซึ่งไม่ใช่ PCT4 ไม่ใช่ถูกตัดตอน 

พล.ต.ท.ไตรรงค์ขอใช้สิทธิ์พาดพิงและซักน.ส.พิมพ์วิไลว่า สรุปว่า คุณขวัญ ซึ่งเป็นนายจ้างของน.ส.พิมพ์วิไล เป็นคนบอกว่าให้จ่ายส่วยให้รองกาโม่ หรือ น.ส.อาซีซ๊ะ (บัญชีม้า) เป็นนายจ้าง

น.ส.พิมพ์วิไลกล่าวว่า “คุณขวัญเป็นคนจ้าง และให้ติดต่อกับคุณอาซีซ๊ะ เพื่อส่งเงินต่อให้กับรองกาโม่

พล.ต.ท.ไตรรงค์ซักว่า ใครเป็นคนบอกว่า ส่งเงินให้รองกาโม่ และรองกาโม่เป็นตำรวจPCT4 ตามที่พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าวอ้าง

น.ส.พิมพ์วิไลกล่าวว่า “อาซีซ๊ะค่ะ”

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าวว่า นอกจากนี้ยังมีเส้นเงินสิ่งไปยัง พี่ชาย พี่สาว ภรรยา และนายเวรของอดีตผบ.ตร. แล้ว ในส่วนของนักการเมืองท้องถิ่น อาทิ มีการโอนเงินไปให้ สมาชิกสภาเทศบาลนครหาดใหญ่ 1 ครั้ง 1 แสนบาท เลขานุการนายกเทศมนตรีหาดใหญ่ 74 ครั้ง 8 ล้านบาท รองนายกเทศมนตรีคลองหงส์ 1 ครั้ง 1 แสนบาท ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำ 4 ครั้ง 1 ล้านบาท

“นักการเมือง ส. 2 ครั้ง 4 แสนบาท เส้นเงินที่ไม่ได้โอนไป โอนกลับมา คือ เส้นเงินของ สส.ชนนพัฒฐ์ มีการโอนกลับมา”พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าว