
75 นักวิชาการ-นักสิ่งแวดล้อมเคลื่อนไหว จี้สนข.ทบทวนรายงาน EHIA โครงการท่าเรือน้ำลึกระนอง-ชุมพร หนึ่งในโปรเจ็กต์ ‘แลนด์บริดจ์’หลังพบข้อพิรุธ 11 ประเด็น พร้อมขอให้ยกลเิกการจัดรับฟังความเห็นประชาชนรอบ 3 ของการก่อสร้างท่าเรือทั้งสองแห่งด้วย
สำนักข่าวอิศรา (www.isranew.org) รายงานว่า วันที่ 5 สิงหาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) จะจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นประชาชน ครั้งที่ 3 โครงการพัฒนาท่าเรือน้ำลึกแหลมอ่าวอ่าง จังหวัดระนอง และโครงการพัฒนาท่าเรือน้ำลึกแหลมริ่ว จังหวัดชุมพร ซึ่งมีการจัดทำร่างรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (Environmental Health Impact Assessment: EHIA) ของโครงการทั้งสอง มาใช้ประกอบการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นประชาชนซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 5-6 สิงหาคม 2568 นี้นั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีกลุ่มนักวิชาการและนักสิ่งแวดล้อมจำนวน 74 ราย ที่พบว่ามีข้อบกพร่องหลายประการที่ไม่ใช่เพียงแค่คำผิด หรือการ Copy/Paste โดยไม่แก้ไขเอกสารให้ถูกต้องเท่านั้น แต่สิ่งสำคัญในประเด็น ขอบเขตการศึกษาไม่ถูกต้อง เนื้อหาในส่วนสำคัญของการศึกษามีความผิดพลาดคลาดเคลื่อน สาระสำคัญของการศึกษาไม่ครบถ้วน โดยมีประเด็นในสาระสำคัญของการศึกษาร่างรายงาน EHIA ทั้ง 2 เล่ม ดังนี้
1. การกำหนดขอบเขต (scoping) EHIA กำหนดรัศมีการศึกษาที่ 5 กิโลเมตรไม่ครอบคลุม ทำให้ผลกระทบนอกรัศมีไม่ได้รับการศึกษา รวมถึงเกาะพยามที่จะได้ผลกระทบมากที่สุดก็ถูกศึกษาเพียงเสี้ยวเดียวเท่านั้น
2. ไม่มีข้อมูลผลกระทบต่อการเสนอเป็นมรดกโลก เนื่องจากป่าชายเลนและพื้นที่ชายฝั่งทะเลของจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต ได้เข้าสู่ขั้นตอนการขอรับรองเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติแห่งที่ 4 แล้ว ซึ่งกลับไม่มีผลการศึกษาและความเสียหายในส่วนนี้แต่อย่างใด
3. ความเหมาะสมของสถานที่ตั้งท่าเรือและแบบท่าเรือมีการใช้ค่าคะแนนที่ไม่เหมาะสม ให้สัดส่วนคะแนนด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมน้อยกว่าด้านมูลค่าการลงทุนและวิศวกรรมอย่างอธิบายไม่ได้
4. ไม่มีผลการศึกษาเรื่องการกัดเซาะชายหาดจากถมทะเลกว่า 6,900 ไร่ใกล้พื้นที่ชายฝั่ง ซึ่งย่อมส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงสมุทรศาสตร์และการกัดเซาะชายฝั่ง แต่กลับไม่ได้มีการศึกษาในประเด็นดังกล่าว ทำให้ไม่สามารถที่จะกำหนดมาตรการป้องกันผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมและสุขภาพได้อย่างเป็นรูปธรรม
5. ไม่มีการประเมินผลกระทบต่อกลุ่มชาติพันธุ์ ชาวเลมอแกน ทั้งในพื้นที่เกาะพยายาม เกาะช้าง เกาะเหลา จำนวนกว่า 400 คน ซึ่งเป็นกลุ่มผู้มีส่วนได้เสียจากโครงการโดย แต่กลับไม่ถูกศึกษาว่า การพัฒนาท่าเรือน้ำลึกจะส่งผลกระทบต่อชีวิต วิถีชีวิต และความเป็นอยู่ของพวกเขาอย่างไร
6. ความไม่คุ้มค่าของโครงการ การทุ่มงบประมาณก่อสร้างท่าเรือน้ำลึกเฟส 1 ขนาด 20 ล้าน TEUs ไม่สามารถประกันความคุ้มค่าในทางเศรษฐกิจ ด้วยทางจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้เคยศึกษาและสรุปแล้วว่าไม่คุ้มค่า แต่การศึกษาครั้งนี้กลับไม่ได้ทบทวน
7. การขาดข้อมูลการศึกษาผลกระทบด้านท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ซึ่งเป็นเศรษฐกิจหลักที่ยั่งยืนในจังหวัดระนอง และชุมพร ที่สามารถกระจายรายได้ให้แก่ชุมชนและผู้คนจำนวนมาก กลับไม่มีข้อมูลความเสียหายที่จะกระทบในส่วนนี้แต่อย่างใด
8. การขาดผลการศึกษาเรื่องปัจจัยผลกระทบด้านภัยพิบัติ ที่อาจเกิดขึ้นในพื้นที่โครงการ เช่น การเปลี่ยนแปลงสมุทรศาสตร์ สึนามิ พายุ และแผ่นดินไหว รวมถึงอุบัติเหตุจากการดำเนินการของโครงการ เช่น การระเบิดหรือไฟไหม้ตู้คอนเทนเนอร์ เป็นต้น
9. กระบวนการมีส่วนร่วมในการศึกษามีข้อสงสัยหลายประการ เช่น เวที ค.1 การมีส่วนร่วมที่เชิญเพียงกลุ่มเฉพาะ ไม่ได้เปิดกว้างให้กลุ่มผู้มีส่วนได้เสียเข้าร่วม เวที ค.2 ขาดการผลศึกษาจากกลุ่มอาชีพหรือกลุ่มผู้รับผลกระทบโดยตรงจำนวนมาก รวมถึงการเปิดรับฟังความคิดเห็นเพียงแค่ 45 นาทีต่อครั้ง
10. การปรากฎข้อมูลที่คลาดเคลื่อน เช่น บุคลากรทางการแพทย์มีมากกว่าจำนวนจริง จำนวนสัตว์หน้าดินที่มีน้อยผิดปกติ ข้อมูลที่ใช้ในการเขียนรายงานเกือบทั้งหมดเป็นข้อมูลทุติยภูมิ ไม่ได้ระบุผลกระทบต่อประเด็นต่างๆ รวมถึงการเก็บข้อมูลส่วนใหญ่ที่เป็นข้อมูลทุติยภูมิมากกว่าการใช้เป็นข้อมูลปฐมภูมิ (primary data)
11. การขาดผลการศึกษาของภาพรวมโครงการ รายงานฉบับนี้เน้นแยกส่วนการศึกษาเป็นรายกิจการในโครงการแลนด์บริดจ์ ควรจะมีการศึกษาทั้งโครงการท่าเรือน้ำลึกจำนวน 2 ท่า โครงการรถไฟรางคู่ และโครงการมอเตอร์เวย์ แต่กลับแยกเป็นรายโครงการ ทำให้ไม่เห็นภาพรวมความเชื่อมโยงของผลกระทบจากการดำเนินโครงการทั้งที่เป็นโครงการเดียวกัน
จากข้อบกพร่องที่สำคัญอย่างน้อย 11 ประการ ที่กล่าวมาข้างต้น ทำให้การที่ สนข. จะนำเอกสารร่างรายงาน EHIA ท่าเรือน้ำลึกชุมพร-ระนอง ในโครงการแลนด์บริดจ์ซึ่งบกพร่องนี้ นำไปรับฟังความคิดเห็นประชาชน จึงไม่มีความชอบธรรม และไม่ถูกต้องตามหลักวิชาการ นักวิชาการและนักสิ่งแวดล้อม จึงเสนอให้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ในฐานะเจ้าของโครงการ สั่งให้มีการทบทวนและศึกษา EHIA ใหม่ทั้งหมด และยุติการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นประชาชนครั้งที่ 3 ที่จะเกิดขึ้นไว้ก่อน
สำหรับรายชื่อนักวิชาการและนักสิ่งแวดล้อม จำนวน 74 คน ประกอบด้วย
1. อาจารย์ศักดิ์อนันต์ ปลาทอง คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
2. ดร.อาภา หวังเกียรติ มหาวิทยาลัยรังสิต
3. ดร.เพชร มโนปวิตร นายกสมาคมอนุรักษ์นกและธรรมชาติแห่งประเทศไทย
4. นายธารา บัวคำศรี นักวิชาการอิสระด้านสิ่งแวดล้อม
5. ดร.สรณรัชฎ์ กาญจนะวณิชย์ อดีตประธานกรรมการมูลนิธิโลกสีเขียว
6. นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ประธานชมรมแพทย์ชนบท
7. ศศิน เฉลิมลาภ นักวิชาการอิสระ
8. กรรณิการ์ กิจติเวชกุล FTA Watch
9. ผศ.ดร.ชุลีรัตน์ เจริญพร มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช
10. ผศ.ดร.ไชยณรงค์ เศรษฐเชื้อ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
11. อ.ภก.ชินวัจน์ แสงอังศุมาลี คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม
12. รศ.ดร. เรณู เวชรัชต์พิมล อดีตรองอธิการบดีมหาวิทยาลัยศิลปากร
13. สุนี ไชยรส วิทยาลัยผู้นำและนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต
14. ผศ.ดร. บูชิตา สังข์แก้ว รองคณบดีวิทยาลัยผู้นำและนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต
15. บำเพ็ญ ไชยรักษ์
16. กิติมา ขุนทอง สาขาพัฒนาชุมชชน มรภ สกลนคร
17. ดร.นลินี ทองแถม นักวิชาการอิสระด้านระบบนิเวศทางทะเล
18. ผศ.ดร. นัทมน คงเจริญ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
19. ดร.ภัทรมน สุวพันธุ์ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต
20. ผศ. เตือนใจ ดุลย์จินดาชบาพร นักวิชาการอิสระ(ข้าราชการบำนาญมหาวิทยาลัยขอนแก่น)
21. ไชยันต์ รัชชกูล ข้าราชการบำนาญ
22. เกื้อ ฤทธิบูรณ์ ข้าราชการบำนาญ
23. ผศ. ดร. สมพร ช่วยอารีย์ อาจารย์คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.อ.ปัตตานี
24. นายอำนาจ ศิริเพชร ข้าราชการบำนาญ นักวิชาการประมงชำนาญการพิเศษ กรมประมง
25. ผศ.ธีรวัฒน์ ขวัญใจ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
26. ชลิตา บัณฑุวงศ์ (ภาควิชาสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์)
27. ดร.วิศเวศ ว่องไว มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี
28. ผศ.สุภาพร แสงแก้ว คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.อ.ปัตตานี
29. นายสุรินทร์ อ้นพรม นักวิชาการอิสระด้านป่าไม้
30. รศ.ดร.สิทธิศักดิ์ จันทรัตน์ ม.สงขลานครินทร์
31. ผศ.เสาวณีย์ แก้วจุลกาญจน์ นักวิชาการอิสระ
32. นางสาวรอฮานี ดาโอ๊ะ ตำแหน่งนักวิจัย สถาบันวัฒนธรนมศึกษากัลยาณิวัฒนา มอ ปัตตานี
33. ดร. ขวัญชนก กิตติวาณิชย์ คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
34. ผศ.ดร. สมัชชา นิลปัทม์ คณะวิทยาการสื่อสาร ม.อ. ปัตตานี
35. รศ.ดร. กนกรัตน์ เลิศชูสกุล ภาควิชาการปกครอง รัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย
36. ดร. สายฝน สิทธิมงคลคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วข.ปัตตานี
37. ผศ.ดร.วรวิทย์ นพแก้ว สาขาวิชารัฐศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์
38. นายชวลิต วิทยานนท์ นักวิชาการอิสระ กก. วิชาการ มูลนิธิสืบนาคะเสถียร
39. บัณฑิต ไกรวิจิตร คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์
40. ผศ.ดร.อารยา บัวบาล คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
41. ผศ.สุทธิชัย งามชื่นสุวรรณ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
42. นายเลิศชาย ศิริชัย นักวิชาการอิสระ
43. มูฮัมหมัดซุรียี มะซู นักวาดรูปและอาจารย์พิเศษโรงเรียนสาธิตวิทยาการอิสลาม
44. ประสาท มีแต้ม ข้าราชการบำนาญ
45. นางสาวสมพร เพ็งค่ำ สถาบันพัฒนาระบบประเมินผลกระทบทางสุขภาพโดยชุมชน (CHIA Platform)
46. สงกรานต์ ป้องบุญจันทร์ คณะนิติศาสตร์ ม.เชียงใหม่
47. รศ.ดร.ธนพล เพ็ญรัตน์ อาจารย์ประจำคณะวิศวกรรมศาสตร์มหาวิทยาลัยนเรศวร
48. กฤติกา เลิศสวัสดิ์ มูลนิธินิติธรรมสิ่งแวดล้อม
49. ผศ.ดร.วรวิทย์ นพแก้ว สาขาวิชารัฐศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์
50. ผศ.บุญเรือง ขาวนวล มหาวิทยาลัยทักษิณ
51. ผศ.เอกราช สุวรรณรัตน์ มหาวิทยาลัยทักษิณ
52. ดร. สุภาภรณ์ อนุชิราชีวะ ประธานบริษัท ปลาออร์แกนิกวิสาหกิจเพื่อสังคม และนักวิชาการอิสระด้านการจัดการทรัพยากรประมงและชายฝั่ง
53. สันติภาพ ศิริวัฒนไพบูลย์ อาจารย์ประจำสาขาวิชาสิ่งแวดล้อม คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาละยราชภัฏอุดรธานี
54. นางดนิตา หลีล่าสัน นักวิชาการศึกษา
55. ศุภางค์ จตุจินดา กรีนพีซ ประเทศไทย
56. โทรนัด เทียนอุดม กรีนพีซ ประเทศไทย
57. นฤภร จันทรกาล กรีนพีซ ประเทศไทย
58. พิชามญชุ์ รักรอด กรีนพีซ ประเทศไทย
59. อัญชลี พิพัฒนวัฒนากุล กรีนพีซ ประเทศไทย
60. เทวรักษ์ รุ่งเรืองวิรัชกิจ กรีนพีซ ประเทศไทย
61. ธนินี จันทรินทร์ กรีนพีซ ประเทศไทย
62. ชุติพนธ์ พิสิษฐ์ธนาดุล กรีนพีซ ประเทศไทย
63. เกตน์สิรี ทศพลไพศาล กรีนพีซ ประเทศไทย
64. เยาวนิต กิตติธรกุล นักวิชาการอิสระ
65. นายนิกร สุวรรณการณ์ พนักงานพิทักษ์ป่าระดับส. 3
66. ดร.นุชจรินทร์ เพชรเกลี้ยง อาจารย์ มรภ.สงขลา
67. ดร. เทวี คาร์ริลา ตำแหน่งรองศาสตราจารย์
68. นายอุสมาน หวังสนิ สถาบันสันติศึกษา ม.อ. วข.หาดใหญ่
69. ผศ.ดร.สุทธิจิตต์ เชิงทอง มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตสุราษฎร์ธานี
70. นายประสิทธิ์ รัตนมณี สถาบันวัฒนธรรมศึกษากัลยาณิวัฒนา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี
71. นายอภิศักดิ์ ทัศนี กลุ่ม Beach for life
72. วัชลาวลี คำบุญเรือง นักวิชาการอิสระ
73. อัมรินทร์ สายจันทร์ มูลนิธินิติธรรมสิ่งแวดล้อม
74. บัณฑิตา อย่างดี นักวิชาการอิสระ ศูนย์สร้างจิตสำนึกนิเวศวิทยา
@สนข.ยัน EHIA มีหมด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ นายปัญญา ชูพานิช ผู้อำนวยการสนข.เคยให้สัมภาษณ์ว่า ผลกระทบต่อประชาชน ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมหรือการประกอบอาชีพ ในการศึกษาพัฒนาโครงการแลนด์บริดจ์ และจัดทำร่าง พ.ร.บ. ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ พ.ศ. ....มีการลงพื้นที่ทุกหมู่บ้าน เพื่อชี้แจงทำความเข้าใจและรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ในทุก มิติ ซึ่งพบว่ามีประชาชนที่ได้รับผลกระทบหลายกลุ่ม เช่นกลุ่มประมงพื้นบ้าน หรือประชาชนที่อาศัยอยู่ตามเส้นทางที่มอเตอร์เวย์และรถไฟตัดผ่านซึ่งจะต้องถูกการเวนคืนที่ดิน ดังนั้น ในรายงานผลการศึกษา EHIA จะมีการบันทึกรายละเอียดผลกระทบ จำนวนประชาชนที่ได้รับผลกระทบ โดยในรายงานการศึกษา EHIA จะมีแนวทางในการแก้ไขปัญหาและดูแลผลกระทบของประชาชน เช่น ประมงพื้นบ้านที่ได้รับผลกระทบ มีการตรวจสอบรายชื่อบันทึกไว้ และใน RFP จะกำหนดให้ผู้ที่เข้ามาลงทุนจะต้องจ้างงานผู้ที่ทำประมงพื้นบ้าน เข้าไปทำงานใน อุตสาหกรรมของแลนด์บริดจ์ และต้องได้รับรายได้ไม่น้อยกว่าเดิม หรือ ประชาชนที่อาศัยอยู่สองข้างทางที่มอเตอร์เวย์และรถไฟตัดผ่าน และถูกเวนคืน ก็จะต้องมีการชดเชย
โดยผอ.สนข.ยืนยันว่า โครงการแลนด์บริดจ์เกิดขึ้นแล้วต้องไม่ทำให้ประชาชนเดือดร้อนแต่จะสร้างงานสร้างอาชีพให้ประชาชนในพื้นที่ ส่วนประชาชนที่ได้รับผลกระทบทั้งกับเรื่องถูกเวนคืนที่ดินหรือไม่สามารถประกอบอาชีพเดิมได้ก็จะได้รับการชดเชยหรือถูกจ้างงานในอุตสาหกรรมของโครงการ มีการสร้างอาชีพใหม่ ลูกหลานไม่ต้องออกจากพื้นที่ไปหางาน สามารถอยู่ในพื้นที่และอยู่กับครอบครัวได้ จากการลงพื้นที่เห็นทุกหมู่บ้านพบว่าประชาชนส่วนใหญ่สนับสนุนและเห็นด้วยกับการที่จะเกิดอาชีพที่จะให้ลูกหลานอยู่ในพื้นที่อยู่กับครอบครัว






Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา