
สธ.ติดตามสถานการณ์ ‘โรคแอนแทรกซ์’ ใกล้ชิด เผยไม่ติดต่อจากคนสู่คน แต่สามารถรับเชื้อจากสัตว์ได้ เบื้องต้นสอบสวนโรคร่วมปศุสัตว์จังหวัดย้อนข้อมูล 1 เดือนที่ผ่านมา พบเป็นวัวเลี้ยงใน อ.ดอนตาล จ.มุกดาหาร
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2568 นพ.วีรวัฒน์ มโนสุทธิ นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ โฆษกกรมควบคุมโรค กล่าวถึงสถานการณ์โรคแอนแทรกซ์ จังหวัดมุกดาหาร ที่เป็นกระแสในโซเชียล ว่า กรมควบคุมโรค ร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดมุกดาหาร และเครือข่ายปศุสัตว์ในพื้นที่ ได้ลงพื้นที่เรียบร้อยแล้ว และได้มีการติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง
สถานการณ์โรคล่าสุด ณ วันที่ 2 พฤษภาคม 2568 พบผู้ป่วยยืนยัน 2 ราย ซึ่งมาจากผู้ป่วยเข้าข่าย 3 ราย และเสียชีวิต 1 ราย โดยมีกลุ่มเสี่ยงและผู้สัมผัส รวม 638 ราย แบ่งออกเป็น ผู้ชำแหละเนื้อสัตว์ 36 ราย ผู้รับประทานเนื้อดิบ 472 ราย และผู้สัมผัสร่วมบ้านผู้ชำแหละ 130 ราย โดยผู้ป่วยยืนยันรายที่สอง เป็นชายอายุ 53 ปี มีประวัติการชำแหละโคร่วมกับผู้ป่วยรายแรก มีตุ่มพองเป็นแผลที่ผิวหนังเช่นเดียวกัน ขณะนี้ได้รับการรักษาในโรงพยาบาลแล้ว โดยได้รับยาปฏิชีวนะและมีการสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด
ทั้งนี้ ได้ทำการประเมินโคที่ต้องรับการฉีดวัคซีนป้องกัน จำนวน 1,222 ตัว โดยปศุสัตว์พื้นที่จะดำเนินการต่อไป และปัจจุบันในพื้นที่ได้มีการพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อบริเวณสถานที่เสี่ยงทุกจุดเรียบร้อยแล้ว รวมถึงเก็บตัวอย่างสัตว์เพื่อส่งตรวจหาเชื้อ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการรอผล
นายแพทย์วีรวัฒน์ กล่าวว่า โรคแอนแทรกซ์ (Anthrax) เป็นโรคติดต่อจากสัตว์สู่คน เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ชื่อว่า Bacillus anthracis สามารถพบได้ทั่วไปในแหล่งตามธรรมชาติ เช่น ดิน น้ำ ซึ่งสปอร์ของเชื้อมีความทนทานต่อสภาพแวดล้อมทั้งร้อนและเย็น เชื้อยังสามารถก่อให้เกิดโรคได้แม้เวลาจะผ่านไปหลายสิบปี โดยเฉพาะในดินที่มีซากสัตว์ตายด้วยโรคแอนแทรกซ์ สัตว์พาหะส่วนใหญ่ที่พบ คือ โค กระบือ แพะ และแกะ สัตว์ที่ติดเชื้อจะมีอาการไข้ ซึม ไม่กินอาหาร มีอาการเจ็บป่วยโดยไม่ทราบสาเหตุและเสียชีวิต การติดเชื้อในคนส่วนใหญ่เกิดจากการสัมผัสโดยตรงกับสัตว์ที่ติดเชื้อ เช่น การชำแหละเนื้อสัตว์ การบริโภคเนื้อสัตว์ดิบ หรือปรุงไม่สุก หรือการสัมผัสกับหนังสัตว์หรือขนสัตว์ที่มีสปอร์ของเชื้อ
โรคนี้ยังไม่มีรายงานการติดต่อจากคนสู่คน เชื้อสามารถแพร่ได้ 3 ทาง คือ
1. การสัมผัส จากการชำแหละสัตว์ที่ป่วยตายจากโรคนี้ ผู้ป่วยจะติดเชื้อโดยสปอร์ของเชื้อเข้าสู่บาดแผลและรอยถลอก จะเริ่มมีอาการป่วยหลังสัมผัสโรคประมาณ 1 - 7 วัน หรืออาจจะมากกว่านั้นขึ้นอยู่กับตัวโรคและคนที่ได้รับเชื้อ รอยแผลเริ่มจากเป็นตุ่มที่ผิวหนัง ตามมาด้วยตุ่มน้ำใส และแตกออกกลายเป็นแผลหลุมสีดำ คล้ายบุหรี่จี้ หากไม่ได้รับการรักษาจะแมีการลุกลามของเชื้อไปยังต่อมน้ำเหลือง และกระจายไปตามกระแสเลือดทำให้เกิดภาวะโลหิตเป็นพิษได้
2. การรับประทาน หากรับประทานเนื้อสัตว์ที่ป่วยดิบหรือปรุงไม่สุกอาจจะติดเชื้อในทางเดินอาหาร มีอาการไข้สูง ไม่สบายท้อง คลื่นไส้ อาเจียน คล้ายกับอาการของอาหารเป็นพิษ ถ้าผู้ป่วยไม่ได้รับการรักษา อาจติดเชื้อในกระแสเลือด ทำให้เสียชีวิตได้
3. การหายใจ ซึ่งพบได้น้อยกว่า คือ การหายใจเอาสปอร์ของแอนแทรกซ์เข้าไป โดยเชื้อจะปนเปื้อนอยู่บริเวณที่สัตว์ป่วยหรือเสียชีวิต สามารถฝังตัวอยู่ได้เป็นเดือนหรือเป็นปี ผู้ป่วยจะมีอาการไข้ ปวดเมื่อยตามตัว ไอ หายใจลําบาก หน้าเขียวคล้ำ และเสียชีวิตจากอาการของระบบหายใจล้มเหลว
นพ.วีรวัฒน์ กล่าวด้วยว่า แนะนำประชาชน ควรระมัดระวังและสังเกตอาการสัตว์ที่เลี้ยง โดยเฉพาะโค กระบือ แพะ แกะ หากมีอาการป่วยผิดปกติ หรือสัตว์ตาย ไม่ควรชำแหละเนื้อ แต่ควรแจ้งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์เพื่อเข้ามาตรวจสอบ หรือหากมีประวัติสัมผัสสัตว์และมีอาการป่วย ควรรีบมาพบแพทย์และแจ้งประวัติสัมผัส เช่น มีประวัติการชำแหละและสัมผัสสัตว์ หรือการรับประทานเนื้อสัตว์ที่ไม่สุก
สำหรับการป้องกัน คือ แนะนำให้ใส่ถุงมือในการชำแหละหรือปรุงเนื้อสัตว์ และล้างมือให้สะอาดจะช่วยลดการปนเปื้อนได้ ส่วนอาหารควรปรุงให้สุก จะทำให้ทำลายเชื้อแบคทีเรีย เลือกซื้อเนื้อสัตว์จากแหล่งที่เชื่อถือได้และได้มาตรฐาน หากพบอาการผิดปกติให้รีบไปพบแพทย์ เนื่องจากโรคนี้สามารถรักษาหายได้โดยใช้ยาปฏิชีวนะ หรือกรณีสัมผัสและไม่มีอาการป่วย แพทย์จะมีการให้ยาในการป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดอาการรุนแรง หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422
ด้าน สพ.ญ.เสาวพักตร์ ฮิ้นจ้อย นายสัตวแพทย์ทรงคุณวุฒิ กล่าวว่า ข้อมูลสำหรับวัวตัวที่เป็นต้นเหตุของการติดเชื้อโรคแอนแทรกซ์นั้น จากการสอบสวนโรคร่วมกับปศุสัตว์จังหวัด พบว่า เป็นวัวในพื้นที่จ.มุกดาหาร ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบดินและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ เพื่อหาสปอร์ของเชื้อ ส่วนกรณีว่ามาจากประเทศเพื่อนบ้านหรือไม่ อยู่ระหว่างสอบสวน แต่ภายใน 1 เดือนย้อนประวัติแล้วเป็นวัวที่เลี้ยงในพื้นที่อ.ดอนตาล อย่างไรก็ตาม จึงขอย้ำประชาชนว่า หากเจอสัตว์ที่ตายผิดปกติ ห้ามผ่าซากโดยเด็ดขาด
"นายอำเภอดอนตาล ได้มีการประกาศห้ามเคลื่อนย้ายสัตว์และเนื้อสัตว์ออกนอกพื้นที่ แต่ในการรับประทานเนื้อสัตว์นั้นสามารถทานได้แต่ต้องทำให้สุก และรับประทานเนื้อสัตว์จากแหล่งที่เชื่อถือได้ เพราะจะมีมาตรฐานในการเลี้ยง" สพ.ญ.เสาวพักตร์ กล่าว
สพ.ญ.เสาวพักตร์ กล่าวว่า สำหรับการเฝ้าระวังในคน ต้องดำเนินการอย่างน้อย 60 วัน แต่ในสัตว์จะมีการให้วัคซีนและเฝ้าระวังต่อเนื่อง 5 ปี โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีสปอร์เชื้อ เพราะสามารถอยู่ในพื้นที่ได้เป็น 10 ปี อย่างไรก็ตาม ที่ต้องกังวล คือ ดินบริเวณที่สัตว์ตาย เพราะจะมีเลือดที่มีเชื้อแอนแทรกซ์ออกมา เป็นจุดอันตราย ฉะนั้นทางปศุสัตว์ต้องมีการกลบฝังแล้วใช้ปูนขาวกลบ ส่วนปุ๋ยคอก หรือมูลจะไม่ใช่ทางที่เชื้อออกมาได้ ดังนั้น จึงไม่ค่อยมีความน่ากังวลเท่ากับพื้นที่ที่มีเลือดสัตว์ออกมา
“ สปอร์เชื้อ มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า แต่จะมีน้ำหนักประมาณหนึ่ง ทำให้ไม่ฟุ้งกระจาย ส่วนใหญ่จะตกบนพื้นดิน ดังนั้น การระมัดระวังคือ การสัมผัสหญ้าดินในพื้นที่ที่มีสัตว์ตาย และระวังบาดแผลตามผิวหนังที่สปอร์จะเข้าไปได้” สพ.ญ.เสาวพักตร์กล่าว

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา