พรรคไทยสร้างไทย ลงมติขับ ‘สุภาพร สลับศรี’ สส.ยโสธร พ้นพรรค หลังแหกมติฝ่ายค้านโหวต ‘อุ๊งอิ๊ง’ เป็นนายกฯ ระบุส่วน สส.ที่เหลือเตรียมโดนสอบต่อ
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 21 สิงหาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ สส.พรรคไทยสร้างไทย พร้อมสส.พรรคอีก 5 คน ในฐานะพรรร่วมฝ่ายค้านโหวตนางสาวแพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรวาระพิเศษเมื่อวันที่ 16 ส.ค.ที่ผ่านมานั้น
ล่าสุด พรรคไทยสร้างไทยเผยแพร่เอกสารข่าวระบุว่า คณะกรรมการวินัยและจริยธรรม พรรคไทยสร้างไทย ประชุมตามที่ได้รับมอบหมายจาก คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคและนายโภคิน พลกุล ประธานคณะกรรมการวินัยและจริยธรรม ซึ่งทั้งสองท่านอยู่ระหว่างการปฏิบัติภารกิจที่ประเทศจีน ให้ดำเนินการสอบสวนจริยธรรมของ สส. ทั้ง 6 คน เป็นรายบุคคล ในประเด็นการฝ่าฝืนอุดมการณ์ของพรรคไทยสร้างไทย และจุดยืนในการเป็นพรรคร่วมฝ่ายค้าน
คณะกรรมการวินัยและจริยธรรม ได้เชิญ นางสุภาพร สลับศรี สส.ยโสธรของพรรค มาให้ข้อมูลเป็นรายแรก เนื่องจากได้กระทำความผิดหลายครั้ง แต่นางสุภาพร ไม่ให้ความร่วมมือเข้าพบคณะกรรมการวินัยและจริยธรรม ตามที่ทำหนังสือแจ้งเชิญไปถึง 2 ครั้งแล้ว
ที่ประชุมคณะกรรมการวินัยและจริยธรรม พิจารณาเห็นว่าพฤติกรรมของนางสุภาพร เข้าข่ายกระทำผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรง ซ้ำซากหลายครั้ง โดยไม่สำนึกว่าตนเองได้เป็น สส.สมัยแรกในนามพรรคไทยสร้างไทย ซึ่งเน้นการเคารพและปฏิบัติตามอุดมการณ์ของพรรค โดยเฉพาะการต้องมีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์กับประชาชน, พรรค, และระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข รวมถึงมารยาทในการเป็นพรรคร่วมฝ่ายค้าน
ดังตัวอย่างต่อไปนี้
1) จากการตรวจสอบผลการลงคะแนนเสียงในการลงมติในสภาผู้แทนราษฎรหลายครั้ง พบว่า นางสุภาพร ได้ลงคะแนนเสียงตรงกันข้ามกับมติพรรคร่วมฝ่ายค้านโดยตลอด
2) พฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่งในการไปปรากฏตัวร่วมงานกับพรรคอื่นอย่างเปิดเผย (ดังปรากฎตามข่าวจากสื่อมวลชน) เพื่อแสดงความฝักใฝ่พรรคดังกล่าว โดยไม่เคยแจ้งเหตุผลต่อพรรคไทยสร้างไทย การกระทำที่กล่าวมา ได้ก่อให้เกิดความเข้าใจในทางลบของสมาชิกพรรคไทยสร้างไทย และทำให้บางคนเข้าใจว่าอาจจะได้รับประโยชน์จากพรรคการเมืองอื่นหรือไม่
“โดยพรรคการเมืองบางพรรค ได้พยายามใช้เงินและตำแหน่งมาหลอกล่อ เพื่อดึงตัวสส.ไปสนับสนุน การกระทำเช่นนี้ ถือเป็นการทำลายระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และทำลายจริยธรรมทางการเมือง"
ในการนี้ พรรคได้ให้โอกาสหลายครั้งเพื่อยุติการกระทำดังกล่าว และอำนวยความยุติธรรมให้อย่างเต็มที่ แต่ไม่ได้รับความร่วมมือแต่ประการใดจาก นางสุภาพร
ที่ประชุมคณะกรรมการวินัยและจริยธรรมจึงลงมติเป็นเอกฉันท์ว่าการกระทำของ สส. สุภาพร เป็นการกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง สมควรที่จะได้รับการลงโทษด้วยการ “ขับออกจากการเป็นสมาชิกพรรคไทยสร้างไทย”
โดยคณะกรรมการวินัยและจริยธรรมจะรายงานผลการพิจารณาไปยัง ดร.โภคิน พลกุล และคณะกรรมการบริหารพรรค เพื่อให้พิจารณาดำเนินการตามข้อบังคับพรรคต่อไป ส่วน สส.ที่เหลือ คณะกรรมการวินัยและจริยธรรมของพรรคจะได้นัดหมายเป็นรายบุคคล เพื่อให้โอกาสทุกคนได้ชี้แจงเหตุผล โดยพรรคจะอำนวยความยุติธรรมให้อย่างเต็มที่
พรรคไทยสร้างไทยมุ่งสร้างและร่วมงานกับนักการเมืองทุกคน ที่ยึดความสุจริต อุดมการณ์ และมารยาท ในระบอบประชาธิปไตย มีความซื่อตรงและรักษาคำพูดที่ให้ไว้กับประชาชน เพราะสิ่งนี้เท่านั้น ที่จะทำให้ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขมีความมั่นคง ยั่งยืน สร้างการเมืองไทย ให้มีคุณภาพ และมีคุณธรรม เพื่อทำประโยชน์ให้ประชาชนอย่างแท้จริง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประวัติคร่าวๆของนางสุภาพรเป็นคนบ้านกระจาย อ.ป่าติ้ว จ.ยโสธร รับราชการเป็นพยาบาลวิชาชีพประจำ รพ.ยโสธร มานานกว่า 20 ปี ก่อนจะลาออกมาเล่นการเมืองท้องถิ่น เป็นสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) ยโสธร เขต อ.ป่าติ้ว โดยนางสุภาพรเป็นภรรยาของนายผดุงเกียรติ สลับศรี ที่ปรึกษาพิเศษนายก อบจ.ยโสธร
ก่อนหน้านี้ นางสุภาพรเคยลงมติเห็นชอบ ร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 เมื่อต้นปี 2567 ที่ผ่านมา