ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการ TAKE DOWN MAFIA 2 ลุยค้น 14 จุด พัทลุง - สตูล บุกทลายซุ้มมือปืน-ผู้ว่าจ้าง ยิงพ่อค้ารับซื้อไม้ยางพารา-ตัดโค่นไม้ยืนต้น
สำนีกข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 7 ส.ค. 2567 พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. พร้อมด้วย พล.ต.ต.วิวัฒน์ ชัยสังฆะ รอง ผบช.ก. พ.ต.อ.สุเทพ โตอิ้ม รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.พงศ์ปณต ชูแก้ว ผกก.6 บก.ป., พ.ต.ท.อนุสรณ์ ทองไสย รอง ผกก.6 บก.ป.
พ.ต.ท.สวรรยา เอียดตรง สว.กก.6 บก.ป. ร่วมกันแถลงผลปฎิบัติการ TAKE DOWN MAFIA Ep.2 ล่ามือปืนลายคราม
หลังกำลังเข้าตรวจค้น 14 จุด ในพื้นที่ จ.พัทลุง และ จ.สตูล จับกุม นายสมเกียรติ หรือ ป๋อง อินนุรักษ์ อายุ 49 ปี ตามหมายจับศาลอาญา ข้อหา “จ้างวานฆ่าโดยไตร่ตรอง” นายพศิน นวลเปียน หรือ นายกยักษ์ อายุ 63 ปี ตามหมายจับศาลอาญา ข้อหา “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรอง, ร่วมกันมีอาวุธปืนสงคราม” และ นายทวี โอฬาริ อายุ 51 ปี ตามหมายจับศาลอาญา ข้อหา “สนับสนุนฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรอง” พร้อมแจ้งข้อกล่าวหา
นายรีด เส็นหมาย อายุ 64 ปี ผู้ต้องขังเรือนจำ จ.ชุมพร ตามหมายจับอาญา ข้อหา “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรอง,ร่วมกันมีอาวุธปืนสงครามไว้ในความครอบครอง” พร้อมกันนี้ยังได้ตรวจยึดของกลาง รถยนต์ 3 คัน โทรศัพท์ 10 เครื่อง กระสุนปืนขนาดต่างๆ 91 นัด
สมุดบัญชีธนาคาร 3 เล่ม
พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวว่า สำหรับคดีดังกล่าวสืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. ได้มีกลุ่มคนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามไม่ต่ำกว่า 3 กระบอก ดักถล่มยิงนายวิโรจน์ (สงวนนามสกุล) ขณะกำลังขับรถแทรกเตอร์ออกมาจากแปลงไม้บนเขาจนเสียชีวิตคาที่ เหตุเกิดบริเวณถนนภายในสวนยางพารา บ้านปาล์ม 4 ม.3 ต.ปาล์มพัฒนา อ.มะนัง จ.สตูล
“หลังเกิดเหตุครอบครัวผู้ตายเชื่อว่าคดีดังกล่าวน่าจะมีผู้มีอิทธิพลในพื้นที่อยู่เบื้องหลัง เกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงมาร้องขอความเป็นธรรมกับตำรวจกองปราบ ให้ช่วยสืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมาย”
พ.ต.อ.พงศ์ปณต กล่าวว่า หลังรับเรื่องเจ้าหน้าที่ชุดคลี่คลายคดี นำกำลังลงพื้นที่สืบหาเบาะแส จนทราบว่าผู้ตายมีอาชีพรับซื้อไม้ยางพาราและตัดโค่นไม้ยืนต้นในพื้นที่ กระทั่งเมื่อ ต.ค. 2566 ได้มีปัญหาขัดแย้งเรื่องงานตัดไม้กับนายสมเกียรติ หนึ่งในกลุ่มผู้ต้องหา มีปากเสียงทะเลาะกันจนถึงขั้นมีการขู่ฆ่า จนเป็นเหตุให้นายสมเกียรติ ตัดสินใจไปว่าจ้างกลุ่มมือปืนในพื้นที่ จ.พัทลุง มาก่อเหตุยิงผู้ตาย
พ.ต.ท.อนุสรณ์ กล่าวว่า โดยกลุ่มมือปืนที่รับงานฆ่าครั้งนี้ คือ นายพศิน หรือ นายกยักษ์ นายทวี และ นายรีด ซุ้มมือปืนรุ่นลายคราม อีกทั้งจากแนวทางสืบสวนยังทราบว่า นายพศิน นั้นเคยเป็นอดีตนายกเทศมนตรีแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.พัทลุง มีประวัติต้องโทษคดีฆ่าและครอบครองอาวุธปืนมาก่อน รวมถึงยังพบข้อมูลอีกว่า ซุ้มมือปืนของนายพศิน นั้นมีความสัมพันธ์กับกลุ่มของซุ้มมือปืนนายไพฑูรย์ ที่เคยถูกตำรวจ กก.6 บก.ป. จับกุมดำเนินคดีจากปฏิบัติการ TAKE DOWN MAFIA Ep.1 ไปเมื่อช่วงเดือน พ.ค. 2567 ที่ผ่านมา
พ.ต.ท.อนุสรณ์ กล่าวอีกว่า ขณะที่ในส่วนของ นายรีด หนึ่งในกลุ่มมือปืน หลังก่อเหตุยิงนายวิโรจน์ ในคดีนี้แล้ว เมื่อช่วงปลายเดือน ธ.ค. 2566 ก็ได้ร่วมกันกับพวกไปก่อเหตุยิงนายธวัฒน์ (สงวนนามสกุล) ในพื้นที่ จ.ชุมพร เสียชีวิตอีกราย อีกทั้งจากการตรวจสอบอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ ทั้ง 2 คดีนี้ ยังพบว่าเป็นอาวุธปืนสงครามชนิดเดียวกับคดีของ นายประศาล คงนุ่น หรือ "หมีป่าบอน" คนสนิท ของเสี่ยแป้งนาโหนด ที่ถูกคนร้ายยิงเสียชีวิตอีกด้วย ซึ่งบ่งบอกได้ว่า ซุ้มมือปืนที่ก่อเหตุทั้งสามคดีนี้ มีความเชื่อมโยงกัน และก่อเหตุอย่างต่อเนื่อง รับงานทั่วไป ไม่จำกัดพื้นที่ ตามแต่จะมีผู้ว่าจ้าง รวมถึงมีความชำนาญในการใช้อาวุธสงครามเป็นอย่างดี เนื่องจากมีการรับงานจำนวนมาก จึงรวบรวมพยานหลักฐานเร่งขออำนาจศาลออกหมายจับ ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้ง 4 ราย จนนำมาสู่การเปิดปฏิบัติการ TAKE DOWN MAFIA Ep.2 ตามจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 4 รายได้ดังกล่าว
ทั้งนี้จากการสอบปากคำ เบื้องต้นทั้งหมดยังคงให้การปฏิเสธ แต่ทางเจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจากมีพยานหลักฐานยืนยันชัดเจนว่าทั้ง 4 รายมีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุฆ่า นายวิโรจน์ อย่างแน่นอน จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.6 บก.ป. ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
รายงานข่าวแจ้งว่า จากแนวทางสืบสวนของเจ้าหน้าที่ชุดคลี่คลายคดีดังกล่าว ยังพบว่า นายทวี หนึ่งในกลุ่มผู้ต้องหาคดีนี้ ที่ทำหน้าที่เป็นคนคอยให้การช่วยเหลือจัดหารถให้กับกลุ่มมือปืนนั้น ถือเป็นผู้มีอิทธิพลคนหนึ่งในพื้นที่ จ.สตูล และ มีศักดิ์เป็นอาของ นายปิยะศักดิ์ หรือ กาย ดำสินธุ์ เอเย่นต์ยาเสพติด ผู้ต้องหาคนสำคัญในคดีลวงฆ่า รอง ผกก.สภ.มะนัง พร้อมลูกน้อง เมื่อปี 58 รวมถึงคดียิงถล่มบ้านนายจำรูญ สงด้วง ผู้ใหญ่บ้าน ม.9 ต.ปาล์มพัฒนา อ.มะนัง จังหวัดสตูล จนเป็นเหตุให้ บุตรชายวัย 13 ปี ของนายจำรูญ เสียชีวิตคาที่ เหตุเกิดเมื่อปี 59 เนื่องจากไม่พอใจ และเข้าใจว่า นายจำรูญ เป็นผู้ชี้เบาะแสให้เจ้าหน้าที่นำกำลังกวาดล้างตรวจค้นถ้ำโกบ ทำลายพืชกระท่อมกว่า 200 ไร่ ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเทือกเขาบรรทัด ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ระหว่างหลบหนีคดี