‘ปปป.-ป.ป.ท.’บุกรวบ‘อดีต พนง.แบงก์’ ปลอมเอกสารซื้อขาย‘รถ’ สารภาพหาเงินใช้หนี้พนันบอล

‘ปปป.-ป.ป.ท.’ เข้าจับกุม ‘อดีตเจ้าหน้าที่สินเชื่อธนาคาร’ ปลอมเอกสารซื้อขาย ‘รถใช้แล้ว’ หวังได้ค่า ‘คอมมิชชั่น-ส่วนต่าง’ สารภาพหาเงินใช้หนี้พนันบอล

................................

เมื่อวันที่ 11 มิ.ย. พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผู้บังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ผบก.ปปป.) สั่งการให้ พ.ต.อ.ศานุวงษ์ คงคาอินทร์ ผกก.4 บก.ปปป. พ.ต.ท.อำนวย วิชิตโสภณ สว.กก.4 บก.ปปป. ร่วมกับนายสุภาพ ศิริ ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ เขต 6 (ผอ.ป.ป.ท.6) ร่วมกันจับกุมนายธีร์ภัทร เลี้ยงวัฒนธรรม อายุ 43 ปี ตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางที่ จ.179/2566 ลงวันที่ 28 พ.ย.66 ข้อหา “เป็นพนักงานมีหน้าที่ทำ จัดการ ใช้อำนาจหน้าที่โดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่องค์การ หรือหน่วยงานของรัฐฯ” ได้ภายในลานจอดรถหน้าร้านสะดวกซื้อ ถ.เลียบ มหาวิทยาลัยนเรศวร ต.ท่าโพธิ์ อ.เมือง จ.พิษณุโลก

ทั้งนี้ ทราบว่าผู้ต้องหานั้นเคยเป็นเจ้าหน้าที่อาวุโสลีสซิ่ง ธนาคารชื่อดังแห่งหนึ่ง ได้ร่วมกับเพื่อนที่ทำธุรกิจเต้นท์รถ ทำเอกสารปลอม แก้ไขสัญญา โดยดึงเอาเอกสารเช่าซื้อเต้นท์รถอื่นๆ มาเปลี่ยนเป็นเต้นท์รถของเพื่อน เพื่อให้ได้รับค่าคอมมิชชั่นและเงินส่วนต่างอื่นๆ นอกจากนี้ ยังเอาเงินส่วนต่างของสินเชื่อไปใช้ส่วนตัว แต่หลังถูกจับได้แล้วก็หลบหนีไป

จากการสอบสวน นายธีร์ภัทร ให้การว่า เคยเป็นเจ้าหน้าที่สินเชื่อธนาคารเอกชนแห่งหนึ่งมานับ 10 ปี มีความเชี่ยวชาญการเงิน-การตลาด จนพอทราบช่องทุจริต ก่อนจะย้ายมาอยู่ธนาคารรัฐวิสาหกิจแห่งหนึ่ง ขณะนั้นตนติดหนี้พนันบอล ประกอบกับครอบครัวจำเป็นต้องใช้เงินจำนวนมาก จึงทำเรื่องปลอมเอกสารเพื่อนำเงินจากธนาคารไปใช้หนี้จนถูกไล่ออกจากงานและเคยติดคุกมาแล้วถึง 3 ปี เพราะยืมบัตรเครดิตของเพื่อนไปใช้เกินวงเงินแล้วไม่จ่าย ต้องเปลี่ยนชื่อนามสกุลเพื่อหลบหนี

นายธีร์ภัทร ให้การต่อว่า ส่วนคดีที่ตนเองถูกจับนั้น เกิดขึ้นเมื่อปี 2556 โดยขณะนั้นตนเป็นเจ้าหน้าที่ของธนาคาร คอยดูแลตลาดรถยนต์ใช้แล้ว (ลีสซิ่ง) ได้ร่วมกับเพื่อนซึ่งเป็นเจ้าของเต้นท์รถมือสอง เมื่อมีลูกค้าติดต่อซื้อรถที่ไม่ใช่ของเพื่อน ตนก็จะนำเอกสารสัญญาของเต้นท์รถดังกล่าวออก เพื่อสลับมาเป็นเต้นท์รถของเพื่อนแทน เพื่อที่จะได้รับค่าคอมมิชชั่นจากธนาคาร แล้วก็นำมาใช้ส่วนตัว โดยก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง สร้างความเสียหายกว่า 1 ล้านบาท จนกระทั่งถูกจับได้ดังกล่าว

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายธีร์ภัทรส่งศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป