กทม.ชี้กรณีพบแคดเมียมในโรงงาน ยังไม่แพร่กระจายออกไปภายนอก พบมีผู้สัมผัสเสี่ยง 20 ราย โดยมีการตรวจสุขภาพคนงานในโรงงาน 12 ราย ที่เหลือเป็นคนงานโรงงานข้างๆ
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 11 เมษายน 2567 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า แนวทางการดำเนินการของกรุงเทพมหานครภายหลังตรวจพบแคดเมียมในพื้นที่เขตบางซื่อ ได้ประสานการทำงานกับกระทรวงอุตสาหกรรมอย่างใกล้ชิดตั้งแต่วันเสาร์ (6 เม.ย. 67) ภายหลังทราบข่าวในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร เพราะว่ามีโอกาสที่เข้ามาในกรุงเทพฯ แน่นอน เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่ต่อเนื่องกัน ซึ่งกทม.ได้สั่งการให้ทุกเขตตรวจสอบโรงหล่อ-โรงเคลือบในพื้นที่ให้แล้วเสร็จหลังสงกรานต์ โดยแจ้งรูปพรรณสัณฐานวัตถุต้องสงสัยว่าเป็น Big Bag ขนาดบรรจุประมาณ 1 ลูกบาศก์เมตร มีตัวอักษร P และวันที่หน้าถุง หากพบให้รีบแจ้ง และไม่สัมผัสวัตถุต้องสงสัยนั้นเด็ดขาด สำหรับเหตุที่เขตบางซื่อนั้น ได้มอบหมายให้ผู้อำนวยการเขตไปแจ้งความตามกฎหมายในเรื่องของการเก็บสารอันตรายโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมจัดส่งเจ้าหน้าที่ไปปิดด้านหน้าและโดยรอบพื้นที่
ด้านนพ.สุนทร สุนทรชาติ ผู้อำนวยการสำนักอนามัย เปิดเผยว่า ความคืบหน้าการตรวจสารปนเปื้อนได้ประชุมร่วมกันระหว่างกรุงเทพมหานครและกรมควบคุมมลพิษ เพื่อกำหนดแนวทางการแยกกลุ่มผู้ที่มีความเสี่ยงสูง เบื้องต้นจะมีการตรวจผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 20 ราย ก่อน ทั้งกลุ่มคนงานและกลุ่มผู้ที่เข้าออกในโรงงานเป็นประจำ จากนั้นในช่วงบ่ายของวันนี้ กรมควบคุมมลพิษจะตรวจการปนเปื้อนของดินและน้ำอีกครั้ง เพื่อความมั่นใจว่าไม่มีการรั่วไหลหรือปนเปื้อน
ผู้ว่ากทม. ย้ำว่า ขอให้ประชาชนไม่ต้องกังวลเรื่องการแพร่กระจาย แต่เรื่องการเคลื่อนย้ายต้องดูให้แน่ใจและปลอดภัย หัวใจไม่ใช่เรื่องของเวลาหรือความเร็วในการเคลื่อนย้าย แต่เป็นกระบวนการที่จะต้องไม่ให้เกิดการตกหล่นระหว่างเส้นทางการเคลื่อนย้าย ซึ่งมีความสำคัญมากกว่า
@ตรวจร่างกายคนงาน 12 ราย เหลือโรงงานข้างเคียง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะเดียวกัน ศูนย์บริการสาธารณสุข 19 วงศ์สว่าง สำนักอนามัย ร่วมกับกรมควบคุมโรค จัดทีมสอบสวนโรคพร้อมตรวจสุขภาพ เลือด และปัสสาวะของคนงานในโรงเก็บของเก่าที่ค้นพบกากแคดเมียมในย่านบางซื่อ โดยมี รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยผู้แทนกระทรวงสาธารณสุข กรมควบคุมโรค กรมอนามัย สถาบันป้องกันป้องกันและควบคุมโรคเขตเมือง ร่วมคณะตรวจเยี่ยม
สำหรับโรงงานดังกล่าวมีคนงานอยู่ จำนวน 12คน ซึ่งถือได้ว่าเป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดกับสารอันตราย จึงมีการซักประวัติ โอกาสในการสัมผัสสารอันตราย พฤติกรรมในที่ทำงานและความใกล้ชิดกับคนรอบข้าง พร้อมตรวจเลือดและปัสสาวะเพื่อหาสารปนเปื้อน ซึ่งช่วงบ่ายวันนี้มีคนงานมาตรวจสุขภาพแล้วทั้ง 12 คน ส่วนอีก 10 คนที่เหลือซึ่งเป็นโรงงานใกล้เคียงไม่สะดวกมาตรวจที่ศูนย์บริการสาธารณสุข ทาง กทม.จึงได้จัดหน่วยเคลื่อนที่ไปตรวจให้ที่โรงงานให้ครบถ้วนต่อไป
สำหรับบริเวณโรงงานดังกล่าวไม่มีบ้านเรือนที่พักอาศัยของประชาชน แต่ภายในซอยเดียวกันเป็นที่จอดรถขยะของ กทม. ซึ่งมีคนงานผ่านเข้าออกทุกวัน ถึงแม้ไม่ได้สัมผัสใกล้ชิด แต่เพื่อความมั่นใจจึงให้คนงาน จำนวน 17 คน มาตรวจคัดกรองสุขภาพด้วย
ทั้งนี้ ทางกรมควบคุมมลพิษ และกรมควบคุมโรคได้มีการเข้ามาเก็บตัวอย่างน้ำ ดิน และฝุ่น ภายในโรงงาน รวมทั้งบริเวณโดยรอบรัศมี 100 เมตร 200 เมตร และจะเก็บเพิ่มเติมในเส้นทางที่รถขนส่งกากสารเคมีเข้ามาในระยะ 500 เมตร เพื่อสร้างความมั่นใจมากยิ่งขึ้น จากการตรวจน้ำกิน น้ำใช้ และน้ำเสีย ในเบื้องต้นยังไม่พบสารปนเปื้อน ส่วนผลการตรวจดินคาดว่าจะทราบเย็นวันนี้