ตำรวจทางหลวงจับกลุ่มคนลักลอบขนแรงงานข้ามชาติ 3 คดี ผู้ต้องหาคนไทย 7 ราย-คนต่างชาติ จีน-พม่า-บังคลาเทศ 57 ราย
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 4 มี.ค. 2567 พล.ต.ต.คงกฤช เลิศสิทธิกุล ผู้บังคับการตำรวจทางหลวง พ.ต.อ.แมน แม่นแย้ม รอง ผบก.ทล นำกำลังจับกุมกลุ่มคนลักลอบขนแรงงานต่างด้าวประกอบด้วย
คดีแรกจับกุม นายสุดฟ้าฯ อายุ 36 ปี, คดีที่ 2 จับกุม นายณัฐพงศ์ฯ อายุ 36 ปี, ส่วนคดีที่ 3 จับกุม นายทัศพล หรือไอซ์ อายุ 17 ปี นายสุพัฒน์ธนโชค หรือพัฒน์ อายุ 45 ปี นายศราวุธฯ อายุ 19 ปี นายอัษฎาณุพล หรือโอ๊บ อายุ 19 ปี นางพระตาฯ อายุ 47 ปี รวม 3 คดีจับผู้ต้องหาเป็นบุคคลต่างด้าวอีก 57 ราย
พล.ต.ต.คงกฤช กล่าวว่า สืบเนื่องจากนโยบายของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ได้ให้ความสำคัญกับการจับกุมขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นต่างด้าวคนจีน พม่า หรือสัญชาติอื่น ๆ จึงมีนโยบายให้ทุกหน่วยช่วยกันกวดขัน จับกุม กวาดล้างขบวนการดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง ขนแรงงานต่างด้าวในเขตพื้นที่รับผิดชอบ โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ชายแดนติดขอบกับประเทศกับเพื่อนบ้าน
"คดีแรก ขณะที่เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมใช้รถวิทยุออกตรวจมาถึงบริเวณถนน ทล.1132 ต.วังประจบ อ.เมือง จ.ตาก พบรถต้องสงสัย เป็นรถตู้โดยสาร ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว ทะเบียน 30-0313 จ.ตาก ขับผ่านมาลักษณะต้องสงสัยจึงเรียกตรวจสอบ พบนายสุดฟ้า ฯ เป็นคนขับ ตรวจสอบผู้โดยสารที่มากับรถ พบว่าเป็นแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมา เป็นชาย 13 คน หญิง 15 คน ทั้งหมดไม่มีหนังสือเดินทาง" พล.ต.ต.คงกฤช กล่าว
พล.ต.ต.คงกฤช กล่าวว่า คดีที่สอง เกิดขึ้น บนถนน ทล.12 พื้นที่บ้านน้ำดิบ ต.วังประจบ อ.เมือง จ.ตาก เจ้าหน้าที่ตรวจพบรถยนต์ยี่ห้อ ฮุนได สีขาว ทะเบียน ลพบุรี วิ่งผ่านมา มีลักษณะบรรทุกน้ำหนักมากผิดปกติ จึงได้ส่งสัญญาณให้หยุดรถเพื่อขออนุญาตตรวจสอบ พบ นายณัฐพงศ์ ฯ เป็นผู้ขับขี่ และชาวต่างชาตินั่งมา 6 คน ชาย 5 คน หญิง 1 คน ตรวจสอบไม่พบหนังสือเดินทาง หรือเอกสารที่ใช้แทนหนังสือเดินทางแต่อย่างใด
สอบถามนายณัฐพงศ์ฯ คนขับให้การรับว่า ผู้โดยสารทั้งหมดเป็นต่างด้าวสัญชาติจีน โดยตนได้ไปรับชาวจีนทั้งหมดมาจาก อ.เมือง จ.เชียงราย เพื่อมาส่งยัง อ.เมือง จ.ตาก และจะมีรถมารับต่ออีกทอดหนึ่ง ได้รับค่าจ้าง 12,000 บาท และทำเป็นครั้งแรก นำตัวส่ง สภ.วังประจบ อ.เมือง จ.ตาก ดำเนินคดี
พล.ต.ต.คงกฤช กล่าวว่า คดีที่ 3 เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงสุราษฎร์ธานี ได้รับการประสานจากชุดวิเคราะห์อาชญากรรมบนท้องถนนกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางว่าจะมีขบวนการลักลอบขนลงสู่ภาคใต้ จึงออกตรวจพื้นที่รับผิดชอบ มาถึง บริเวณ ทล.41 กม.131 ม.1 ต.ป่าเว อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี พบรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล ยี่ห้อนิสสัน สีดำ (รถนำขบวน) ขับขี่มาด้วยลักษณะมีพิรุธต้องสงสัย ตรวจค้นภายในรถ นายอัษฎาณุพล และนางพระตาฯ เป็นผู้ขับขี่และนั่งโดยสาร และหลังจากนั้นได้มีรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลยี่ห้อโตโยต้า รุ่นรีโว่ สีขาว อีกคันขับตามมาในลักษณะมีพิรุธต้องสงสัย เจ้าหน้าที่จึงได้เรียกให้หยุดรถและขอทำการตรวจค้นภายในรถ พบนายทัศพลฯ และนายสุพัฒน์ธนโชคฯ พร้อมแรงงานต่างด้าวจำนวน 11 คน
พล.ต.ต.คงกฤช กล่าวว่า ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่า ยังมีรถร่วมขบวนการอีก 1 คันที่ยังไม่ถูกจับกุม ซึ่งภายหลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบข้อมูลดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจทางจึงได้นำรถวิทยุ ออกปฏิบัติการติดตามรถร่วมขบวนการคันดังกล่าว มาถึงบริเวณถนนบ้านคลองหิน ม.7 ต.หัวเตย อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี พบกับรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล ยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ สีบรอนซ์ ตรวจสอบภายในรถ พบนายศราวุธฯ เป็นผู้ขับขี่ พร้อมบุคคลต่างด้าวซุกซ่อนอยู่กระบะท้ายรถ จำนวน 12 คน
"สอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การว่า พวกตนได้รับการว่าจ้างมาจากนางจอย (ไม่ทราบชื่อนามสกุล) โดยถูกว่าจ้างให้ไปรับบุคคลต่างด้าว จำนวน 23 คนเป็นชาวบังคลาเทศทั้งหมด จากพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อนำไปส่งจุดหมายในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยพวกตนได้ค่าจ้างหัวละ 2,000 บาท และได้ค่าน้ำมัน 5,000 บาท (ในส่วนของค่าจ้าง จะได้รับเมื่อเสร็จงาน) และผู้ต้องหายังให้การรับอีกว่าได้ทำในลักษณะเช่นนี้มาแล้ว 8 ครั้ง ก่อนจะมาถูกจับกุมในครั้งนี้" พล.ต.ต.คงกฤช กล่าว