‘เศรษฐา’ ให้สัมภาษณ์สื่อก่อนเหินฟ้าไปญี่ปุ่น แจงจะทำให้ความสัมพันธ์ไทย-ญี่ปุ่นแน่นเฟ้นขึ้น หนีบผู้บริหาร ‘ฮอนด้า-โตโยต้า’ ไปด้วย เตรียมเจรจาการค้าเน้นเรื่องยานยนต์ ชี้เศรษฐกิจไทยยังมีแสงสว่างแต่น่าหนักใจ ก่อนเปิดกำหนดการตลอด 5 วัน
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 14 ธันวาคม 2566 ที่ท่าอากาศยานทหาร กองบิน 6 ดอนเมือง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคลัง ให้สัมภาษณ์ว่า ในภารกิจการเดินทางไปยังกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 14-18 ธ.ค.2566 เป็นการเยือนญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก มีเรื่องที่ต้องพูดคุยกันเยอะ และจะมีการพบปะกับ สมเด็จมหาบวรธิบดี ฮุน มาแณต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เจ้าชายอับดุล มาทีน มกุฏราชกุมารลำดับที่ 4 ของราชวงศ์บรูไน ที่จะอภิเษกสมรสในเดือนหน้านี้ การเดินทางเป็นการไปล่วงหน้าก่อน 2 วัน ไปเจรจาเรื่องการค้าญี่ปุ่น ส่วนมากเป็นเรื่องเกี่ยวกับยานยนต์ที่จะมีการพูดคุยกัน จะเจอรายใหญ่หลายราย เช่น พานาโซนิค และมีอีกหลายนัด และพยายามให้บริษัทยานยนต์ของญี่ปุ่นมาพบมากขึ้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า ก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรีระบุว่า การเดินทางไปต่างประเทศจะชักชวนนักธุรกิจไทยไปด้วยเพื่อพูดคุยถึงการลงทุนที่จะดึงต่างประเทศเข้ามาในไทย รอบนี้มีนักธุรกิจกลุ่มไหนบ้างที่ไปด้วย นายเศรษฐา กล่าวว่า คราวนี้มี แต่เป็นการเดินทางไปกันเอง โดยคณะนักธุรกิจชาวไทยที่จะร่วมเดินทางครั้งนี้ ประกอบด้วย นายพรวุฒิ สารสิน ประธานบริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งจะไปช่วยเจรจาให้ และ นายกลินท์ สารสิน ประธานบริษัท โตโยต้า ที่จะเดินทางไปด้วย และยังมีอีกหลายท่านที่จะไปช่วยเจรจาเพื่อนำผลประโยชน์กลับมาสู่ประเทศ
@เศรษฐกิจไทยมีแสงสว่าง แต่ยังหนักใจ
เมื่อถามว่า จะทำให้เกิดความมั่นใจทางด้านเศรษฐกิจ และมีแสงสว่างมากขึ้นใช่หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า อย่างไรแสงสว่างก็มีอยู่แล้ว แต่เรื่องความหนักใจ การแบกความหวังเรื่องปากท้องของพี่น้องประชาชน 68 ล้านคน เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะต้องทำต่อไป คงจะไม่เพียงพอ ต้องทำต่อไปเรื่อยๆ
เมื่อถามว่า การเดินทางไปเยือนญี่ปุ่นครั้งนี้ ซึ่งจะมีเรื่องการเสริมสร้างความเข้มแข็งทางการเมืองระหว่างอาเซียนกับญี่ปุ่นด้วย ในส่วนของไทยมีการเตรียมความพร้อมอย่างไร นายเศรษฐา กล่าวว่า เป็นที่ทราบกันดีว่าญี่ปุ่นมาลงทุนสูงสุดในประเทศไทยตลอด 50 ปีที่ผ่านมา ฉะนั้น เราพยายามทำให้ความสัมพันธ์นี้เข้มแข็งมากขึ้นในเรื่องการลงทุนของทั้งสองฝ่าย และเราได้มีการประกาศจะให้วีซ่าฟรีกับธุรกิจญี่ปุ่นด้วยที่จะเข้ามาลงทุน ซึ่งจะทำให้การเดินทางเข้าออกทั้งสองทางสะดวกสบายยิ่งขึ้น เป็นการอำนวยความสะดวกซึ่งกันและกัน
@เปิดกำหนดการ เศรษฐา ที่ญี่ปุ่น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับภารกิจของนายเศรษฐาในการเดินทางไปประเทศญี่ปุ่น จะเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียนญี่ปุ่นสมัยพิเศษ เพื่อฉลองวาระครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์อาเซียนญี่ปุ่นของนายเศรษฐา ทวีสิน ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น โดยมีรัฐมนตรีร่วมเดินทางไปด้วย ประกอบด้วย นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ต่างประเทศ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม เป็นต้น
โดยภารกิจแรกจะมีขึ้นในวันที่ 15 ธ.ค. นายกรัฐมนตรีจะพบกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจ การค้าและอุตสาหกรรมญี่ปุ่น พร้อมกล่าวปาฐกถาในงาน Thailand-Japan Investment Forum จากนั้นจะพบหารือบริษัทเอกชนรายใหญ่ของประเทศญี่ปุ่น 8 บริษัท อาทิ บริษัท Toyota Motor Corporation, บริษัท Honda Motor จำกัด บริษัท Suzuki, บริษัท Nissan, บริษัท Mitsubishi, บริษัท Mitsui, บริษัท Isuzu และบริษัท Kubota เป็นต้น
วันที่ 16 ธ.ค. 2566 นายเศรษฐาจะพบหารือกับประธานองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น ก่อนที่ช่วงค่ำ จะเข้าร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำ โดยนายฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นและนางยูโกะ คิชิดะ ภริยา เป็นเจ้าภาพ
ต่อมาวันที่ 17 ธ.ค. นายกรัฐมนตรีพบหารือทวิภาคีกับนายกฯ ญี่ปุ่น จากนั้นในช่วงเย็น นายกฯ เข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน-ญี่ปุ่น สมัยพิเศษ เพื่อฉลองวาระครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์อาเซียน-ญี่ปุ่น (The Commemorative Summit for the 50th Year of ASEAN-Japan Friendship and Cooperation) โดยนายกฯ จะกล่าวถ้อยแถลงและร่วมรับรองเอกสารผลลัพธ์การประชุม และจะร่วมประชุมหารือโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งเพื่อพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้เพื่อเชื่อมโยงการขนส่งระหว่างทะเลอ่าวไทยและอันดามัน ในวันที่ 18 ธ.ค.
ทั้งนี้ ในช่วงบ่ายวันที่ 18 ธ.ค.นายกฯ มีกำหนดการเข้าเฝ้าฯสมเด็จพระจักรพรรดินารูฮิโตะและสมเด็จพระจักรพรรดินีมาซาโกะแห่งญี่ปุ่น ที่พระราชวังอิมพีเรียล ก่อนเดินกลับช่วงดึกคืนวันเดียวกัน