ตำรวจน้ำ ร่วม ปส. ยึดไอซ์ล็อตมหึมา 2 ตัน ก่อนเรือลอยลำออกทะเลไปนานนานสากล เตรียมกระจายส่งขายต่อ ฟิลิปปินส์-ออสเตรเลีย
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเวลาราว 22.00 น. ของวันที่ 4 ธ.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ กองบังคับการตำรวจน้ำ (บก.รน.) นำโดย พล.ต.ต.พฤทธิพงศ์ นุชนารถ ผบก.รน. พ.ต.อ.ธรากร เลิศพรเจริญ รอง ผบก.รน พ.ต.อ.วัชชิรานนท์ นนท์นา ผกก.2 บก.รน. สถานีตำรวจน้ำศรีราชา สถานีตำรวจน้ำเกาะสีชัง และชุดปฏิบัติการพิเศษมัจฉานุ บก.รน. ปฏิบัติการร่วมกับ กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) ได้จู่โจมเปิดปฏิบัติการครั้งใหญ่จับกุมกระบวนการลักลอบขนยาเสพติดข้ามชาติ โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาเป็นคนไทยได้รวม 13 คน ยคดยาเสพติดเป็นไอซ์บริสุทธิ์ได้กว่า 2,000 กิโลกรัม จับกุมได้ที่ท่าเรือ อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนการเปิดปฏิบัติการครั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.รน. และ บช.ปส. ได้รับรายงานจากสายลับว่าจะมีการลักลอบขนยาเสพติดจำนวนมากไปจำหน่ายยังต่างประเทศ จึงได้วางกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมกับชุดปฏิบัติการพิเศษมัจฉานุ เฝ้าจุดต้องสงสัยที่บริเวณท่าเรือ TNS Bangpakong jetty (ท่าเรทอโรงเหล็ก) ต.บางประกง อ.บางประกง จ.ฉะเชิงเทรา จนกระทั่งถึงเวลาราว 21.30 น. ของวันดังกล่าวพบว่ามีการลำเลียงยาเสพติด ลงเรือชื่อ ศรีมงคลทรัพย์ ซึ่งเป็นเรือลากจูงขนาดใหญ่ เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษมัจฉานุ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติด จึงได้นำเรือ รน.66 บุกเข้าทำการตรวจค้นจับกุมทันที
มีรายงานด้วยว่าระหว่างการจับกุมผู้ต้องหาได้พยายามกระจายตัวการกระโดดน้ำหลบหนีแต่เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษมาชานนุได้กระโดดน้ำลงตามและสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาไว้ได้ทั้งหมดจำนวน จำนวน 13 คน จากการตรวจค้นภายในเรือพบของกลางยาไอซ์ซุกซ่อนอยู่ภายในใต้ท้องเรือ จำนวน 90 กล่อง น้ำหนักรวมประมาณ 2,000 กิโลกรัม ทั้งหมดถูกอำพรางอัดแน่นอยู่ในถุงผลไม้อบแห้ง จึงได้รายงานผู้บังคับบัญชารับทราบ โดยหลังการจับกุม พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. และ พล.ต.ต.สมบูรณ์ เทียนขาว รองผบช.ปส. เดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ และตรวจยึดของกลางพร้อมผู้ต้องหาส่ง บช.ปส. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้มีรายงานด้วยว่า สำหรับยาเสพติดจำนวนมากล็อตนี้เมื่อนำขึ้นเรือแล้ว กลุ่มผู้ต้องหาเตรียมจะนำเรือออกไปจอดที่บริเวณน่านน้ำสากล จากนั้นจะกระจายของกลางส่งขายโดยนำลงเรือขนาดต่างๆไปยังประเทศเป้าหมาย เบื้องต้นคือ ประเทศฟิลิปปินส์ และออสเตรเลีย และประเทศอื่นๆด้วย ส่วนต้นทางของยาเสพติด และการจับกุมผู้ที่อยู่เบื้องหลังนั้น ขณะนี้เจ้าที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติดกำลังอยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผลเพื่อออกหมายจับให้ถึงต้นตอของขบวนการต่อไป.