‘เศรษฐา’ บินถึงเชียงใหม่ เปิดวงประชุมแก้ PM2.5 เปรยจะทำให้ปัญหาน้อยลง แต่จะให้หมดไปเลยคงยากต้องอยู่กับความเป็นจริง ก่อนทบทวนสารพัดมาตรการ ทั้งการเพิ่มสัดส่วนรถ EV แย้มกำลังจีบเทสล่าลงทุนในไทย ชี้หน่วยงานมั่นคงทหาร-กอ.รมน. มีบทบาทช่วยประชาชนมากขึ้น เล็งถกลาว-พม่าแก้ผลกระทบจากฝุ่นที่พัดมาจากประเทศเพื่อนบ้าน
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 29 พฤศจิกายน 2566 ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา ตำบลช้างเผือก อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานประชุมมอบนโยบายเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละออง ปี 2567 โดยมี พล.ต.อ. พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นายเกรียง กัลป์ตินันท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ผู้ว่าราชการจังหวัดภาคเหนือ 17 จังหวัด ผู้แทนภาคเอกชน ผู้บริหารส่วนท้องถิ่น และผู้แทนภาคประชาชนเข้าร่วมประชุม
นายเศรษฐากล่าวว่า การประชุมวันนี้ถือเป็นสัญญาณที่ดี ดูได้จากแววตาคนที่มานำเสนอในวันนี้ เป็นคนที่มีความจริงใจกับปัญหา และรับทราบถึงปัญหานี้อย่างแท้จริง และต้องการให้ปัญหานี้ลดน้อยลงไป ซึ่งจะให้ปัญหาหมดไปคงลำบาก ต้องอยู่กับปัญหา อยู่กับความเป็นจริง
@จีบเทสล่า ลงทุน EV ในไทย
นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงปัญหาว่า ในส่วนของปัญหาที่เกิดจากท่อไอเสียซึ่งเป็นองค์ประกอบอย่างหนึ่งที่ไม่ได้ใหญ่มาก และคิดว่าโลกเราเปลี่ยนไปเยอะ การที่ใช้รถยนต์เชื้อเพลิงลดน้อยลง ปัจจุบันเปลี่ยนมาใช้รถ EV มากขึ้น ซึ่งเมื่อคืนที่ผ่านมาตนเองได้ร่วมงานลอยกระทงยี่เป็ง และได้พาบริษัทเทสล่ามาด้วย ซึ่งทราบกันดีว่าเป็นบริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่จะมาสร้างโรงงานในประเทศไทย ซึ่งรัฐบาลและทีมงานพยายามเชิญชวนให้มาตั้งโรงงานที่นี่ เพื่อเป็นแหล่งผลิตส่งออกไปทั่วโลก ตรงนี้ถือเป็นนิมิตหมายอันดีว่าประเทศเราให้ความสนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ ในอนาคตไม่แน่ใจจะไกลหรือใกล้ขนาดไหน แต่คิดว่าไม่เกิน 10 ปีการที่เรามาใช้รถ EV เยอะขึ้นก็จะทำให้ PM 2.5 ที่เกิดจากรถยนต์ลดน้อยลงอย่างมีนัยยะ
@ประสานทหาร - กอ.รมน.ช่วยชาวบ้าน
ในส่วนของการเผาป่าและไฟป่า รวมถึงเผาวัสดุผลิตภัณฑ์จากการเกษตร นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าตรงนี้เป็นเรื่องที่ให้ความสำคัญมาก แต่ต้องกลับไปพูดถึงสาเหตุว่าเกิดจากอะไร ซึ่งมาจากเรื่องของเศรษฐกิจเป็นหลัก หากเศษข้าวโพด ซังข้าวโพดและตอข้าวมีคนมารับซื้อ ชาวบ้านเขาก็ไม่ต้องเผาทำลาย ตนเองเชื่อว่าไม่มีใครอยากทำ และเชื่อว่าทุกคนตระหนักดีกับปัญหาที่จะเกิดขึ้น ทั้งนี้ สิ่งที่ได้นำเสนอในวันนี้ เชื่อว่าเป็นเรื่องที่ต้องไปทำต่อ และจะเป็นการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืนที่สุด ภาคส่วนต่าง ๆ ต้องทำงานร่วมกันอย่างบูรณาการ ภาครัฐบาล ฝ่ายความมั่นคงต้องทำงานร่วมกับภาคประชาชนมากขึ้น และต้องขอบคุณแม่ทัพภาคที่ 3 กอ.รมน. ซึ่งมีการทำงานร่วมกับภาคประชาชนที่ชัดเจน นำกำลังพล ยุทธโธปกรณ์เข้ามาช่วย ลดปัญหาเรื่องไฟป่า เป็นการทำงานร่วมกับประชาชนอย่างแท้จริง
ในส่วนของ NGO ที่เสนอเรื่องการใช้งบประมาณและต้องการให้ภาครัฐบาลมาทำงานร่วมกับประชาชนใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าถือเป็นนโยบายใหญ่ของรัฐบาลที่ต้องการให้ภาคเอกชนทำงานร่วมกับภาคราชการ และฝ่ายความมั่นคง โดยเฉพาะอย่างยิ่งทาง กอ.รมน. ถือเป็นนโยบายที่ตนในฐานะเป็นประธาน กอ.รมน. ได้มอบนโยบายแล้วว่าให้ช่วยกันตรงนี้ให้มากขึ้น เพราะเรื่องความมั่นคง การป้องกันประเทศ ปัจจุบันเรามีความสงบพอสมควรเหมือนกัน จึงให้ทางทหารมาช่วยทางด้านการเกษตรอย่างที่มีการนำเสนอในเรื่องการป้องกันไฟป่า ถือเป็นเรื่องสำคัญปัจจุบันเรามีมือถือทุกคน การจะเดินทางไปไหนก็เช็คสภาพอากาศ ซึ่งตนเองจำได้ว่าเดือนมีนาคมปีที่แล้ว ได้ตรวจเช็คค่าฝุ่น พบว่าติด Top 10 ของโลก ค่าฝุ่นสูงสุดอยู่ที่ภาคเหนือ ตรงนี้ไม่ต้องมาบอกว่าทำไมการท่องเที่ยวถึงไม่ดีเท่าที่ควร ตนเองเชื่อว่าทุกคนในที่นี้ตระหนักดีอยู่แล้ว
“รัฐบาลนี้ตระหนักดี เราใช้นโยบายมาเป็นตัวกระตุ้นการท่องเที่ยว ทางผู้ว่าราชการจังหวัดก็ได้ช่วยเหลือให้สนามบินสามารถเปิดได้ 24 ชั่วโมง รัฐบาลก็ออกวีซ่าฟรีให้กับคนจีน อินเดีย ไต้หวัน คาซัคสถานซึ่งถือเป็นเป้าหมายหลักในการกระตุ้นเศรษฐกิจท่องเที่ยว แต่ถ้าเขาไปกรุงเทพฯ ไปภูเก็ต อากาศดีกว่าเชียงใหม่ เราก็อยากให้เขามาเที่ยวเชียงใหม่ด้วย อยากให้มาเมืองรอง อยากให้มาเมืองที่มีวัฒนธรรมหลากหลาย มาใช้เวลาอยู่ยาวนานขึ้นในประเทศไทย ซึ่งการที่นักท่องเที่ยวไม่มาเชียงใหม่ในเดือนกุมภาพันธ์ มีนาคม เพราะอากาศไม่สะอาด” นายเศรษฐาระบุ
@ถกลาว-พทม่า ร่วมแก้ฝุ่น
นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อไปว่า ปัญหาจากเพื่อนบ้านก็เป็นเรื่องสำคัญ เรื่องทิศทางลมของประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงเรื่องความก้าวหน้าบริหารจัดการซากพืชผลที่ประเทศเพื่อนบ้านมีน้อยกว่าเรา ไทยเราต้องพัฒนาไปด้วยกัน ตรงนี้จะต้องมีการพูดคุยกัน อย่างการเจรจาทวิภาคีกับทางลาว ตนเองก็ให้ความสำคัญเรื่องนี้ และมีการพูดคุยกันในเรื่องแรก ๆ เป็นเรื่องหลัก ซึ่งจริงๆ แล้วเรื่องนี้ต้องเห็นใจทางการลาวเหมือนกัน เพราะเศรษฐกิจประเทศเขาไม่ดีเท่าเรา วิวัฒนาการทางด้านการเกษตร การจัดเก็บทำลายซากพืชผลก็ไม่ดีเท่า เรื่องนี้ก็สำคัญ ภาคเอกชนก็สำคัญ คนที่ไปรับซื้อจากประเทศลาวมาก็สำคัญ ไม่ใช่จะสนใจแค่ราคาอย่างเดียว จะต้องดูด้วยว่าพืชผลที่ไปรับซื้อมา ในเรื่องขอเศษซังข้าวโพด ตอข้าวได้ถูกจัดการอย่างถูกต้องตามหลักที่ได้ตกลงกันไว้หรือไม่ หากพูดจากันแล้วไม่ทำตาม มาตรการภาษีก็ต้องมีมา ถ้าไปซื้อของจากประเทศที่ไม่ให้ความสำคัญกับเรื่องอากาศบริสุทธิ์ ตอนนี้ไทยเรามีพระราชบัญญัติอากาศสะอาด มีหลายภาคส่วนมาใช้เวลาในวันนี้อย่างจริงจัง หากประเทศเพื่อนบ้านไม่ทำให้ หรือนายทุนจากบ้านเราไปทำมาหากินในประเทศเขา และไม่ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ รัฐบาลนี้ก็ยอมรับไม่ได้
“วันนี้มาด้วยกันหลายภาคส่วนก็ต้องพูดกันอย่างตรงไปตรงมา พูดกันให้ชัดเจนซึ่งจริง ๆ แล้ว ตัวเลขมาจากลาวจากพม่าเยอะ เรื่องการพูดคุยกับเราก็น่าจะง่ายกว่า เพราะเราเป็นประเทศที่ได้มีการพูดคุยกันด้วยดีมาตลอด ขณะที่ทางพม่าเราได้พยายามหาทางที่จะเข้าไปพูดคุยกับเขาเพื่อที่จะให้เขาเห็นว่าเรื่องนี้เป็นสิ่งสำคัญ หากเรามีความสงบ การค้าขายเราไปได้ด้วยดีเราสามารถซื้อสินค้าเข้ามาได้ พี่น้องประชาชนในภาคเหนือ 10 กว่าจังหวัดสามารถอยู่ได้อย่างมีอากาศบริสุทธิ์ก็ถือเป็นเรื่องที่เราทุกคนต้องให้ความสำคัญ ตนเองคิดว่าเราทำคนเดียวคงไม่ได้เราอยู่คนเดียวบนโลกไม่ได้” นายกรัฐมนตรีกล่าวอีกตอน
นายกรัฐมนตรีกล่าวยืนยันว่า รัฐบาลนี้ให้ความสำคัญอย่างต่อเนื่องกับเรื่องอากาศสะอาด เพราะจริง ๆ สิทธิพื้นฐานของมนุษยชนเราเรียกร้องกันหลายเรื่อง แต่เรื่องที่ควรจะได้ที่สุดคืออากาศสะอาดซึ่งเป็นของฟรี หากรัฐบาลไม่ให้ความสนใจหรือสามารถทำให้ดีขึ้นได้ จะกลายเป็นปัญหา ขอให้ทุกคนที่อยู่ตรงนี้ตระหนัก และเข้าใจว่ารัฐบาลนี้จะให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นเรื่องแรก ๆ