'อุปกิต ปาจรียางกูร' ขึ้นศาลไต่สวนคดีฟ้อง 'รังสิมันต์ โรม' หมิ่นประมาท ยืนยันบริสุทธิ์ ไม่เอี่ยว 'ตุน มิน ลัต'
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 11 ก.ย. 2566 ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้องคดีที่ นายอุปกิต ปาจรียางกูร สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ยื่นฟ้อง นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในความผิดฐานหมิ่นประมาท กรณีเเถลงข่าวที่พรรคก้าวไกลเมื่อวันที่ 10 เม.ย.
นายอุปกิต เดินทางมาไต่สวนมูลฟ้องด้วยตนเองโดยมีประชาชนกลุ่มชาวอยุธยาเดินทางมาชูป้ายให้กำลังใจ
นายอุปกิต กล่าวว่า มาไต่สวนมูลฟ้องที่ได้ยื่นฟ้องนายรังสิมันต์ในความผิดฐานหมิ่นประมาทฯ คดีนี้เป็นคดีที่ 2 ภายหลังปิดสมัยการประชุมสภาในวันที่ 10 เม.ย. 2566 นายรังสิมันต์ โรมยังให้สัมภาษณ์ที่พรรคก้าวไกล ซึ่งมีเนื้อหาที่ทำให้ตนเองเสียชื่อเสียงได้รับความเสียหายเป็นอย่างมากและมีการนำลงในสื่อโซเชียลฯต่าง ๆ วันนี้จำเลยขอเลื่อนโดยอ้างเหตุทนายติดว่าความที่ศาลอื่น โดยศาลอนุญาตให้เลื่อนเป็นวันที่ 27 พ.ย. เชื่อมั่นอย่างยิ่งว่านายรังสิมันต์ ได้ทำความผิด โดยอภิปรายเรื่องในสภาและเมื่อมีการยุบสภามีการก็ยังมีการแถลงซ้ำต่ออีก สิ่งนี้ตนเองยอมไม่ได้
เมื่อถามถึงกรณีที่โดนดำเนินคดีเกี่ยวกับการฟอกเงิน ตุน มิน ลัต
นายอุปกิต กล่าวว่า คดีนี้ไม่เกี่ยวข้องกับตนเอง เป็นคนละคดีกัน แต่พร้อมที่จะสู้ในกระบวนการยุติธรรมหากมีการแจ้งข้อกล่าวหาหรือสั่งฟ้อง ก็พร้อมจะสู้ในศาล โดยก่อนหน้านี้การเลื่อนสั่งคดี 4 ครั้งที่ผ่านมา ไม่ได้มาจากฝ่ายตนเอง เเต่เป็นทางพนักงานอัยการเลื่อนฟังคำสั่งเอง ที่ผ่านมาไปรายงานตัวทุกครั้งแต่ไม่ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหา ครั้งสุดท้ายตนเองติดประชุมสภาก็เลยขอเลื่อน แต่ยังไม่ได้ใช้เอกสิทธิ์ ส.ว.แต่อย่างใดเพียงแต่ขอเลื่อนไปก่อน ตอนนี้อัยการสูงสุดก็ยังไม่ได้สั่งฟ้องและไม่ได้ใช้เอกสิทธิ์ ส.ว.เพราะการใช้เอกสิทธิ์ ทางตำรวจหรืออัยการจะต้องทำเรื่องไปที่สภาฯเพื่อขอตัวตามรัฐธรรมนูญ แต่ตอนนี้ยังไม่มีถึงขั้นนั้น
อย่างไรก็ตามถ้าหากมีการทำตามขั้นตอนมาก็พร้อมจะไปรับทราบข้อกล่าวหา เพราะไม่เคยไปกระทำการใดตามที่นายรังสิมันต์ กล่าวหา แม้กระทั่งตอนเรื่องที่โดน พ.ต.ท.มานะพงษ์ วงศ์พิวัฒน์ กล่าวหา โดยปั้นหลักฐานเท็จ แปลข้อความเท็จเพื่อที่จะกล่าวหา กฏหมายต้องยุติธรรม ตนเองได้แถลงข่าวไปแล้วว่ามี 112 บริษัท ที่โอนเงินจากบัญชีที่อ้างว่า เป็นบัญชียาเสพติด ซึ่งเป็นบริษัทใหญ่ๆ ทั้งนั้น ซึ่งมีการโอนเงินเข้ามาและไม่ได้โอนไปไหน แต่ของตนเองกลับโอนไปที่การไฟฟ้า ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจไม่ได้มีการเก็บไว้ที่บริษัทเองเลย ก็เลยงงว่าคดีมันมาไกลขนาดนี้ได้อย่างไร