'ทางหลวง' อัพเดทมอเตอร์บางใหญ่ - กาญจน์ 5.6 หมื่นล้าน ปักปลายปี 67 ได้ทดลองใช้ ก่อนเปิดเต็มรูปแบบต้นปี 68 งานโยธาลิ่ว 90% ส่วนงานระบบยังอืด 13% พร้อมลุยประมูลงานที่พักริมทางปีนี้
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 7 เมษายน 2566 นายธนศักดิ์ วงศ์ธนากิจเจริญ ผู้อำนวยการกองทางหลวงระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) กรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยว่า ความคืบหน้าโครงการมอเตอร์เวย์บางใหญ่ - กาญจนบุรี ระยะทาง 96.41 กม. วงเงินลงทุนรวม 56,178 ล้านบาท ปัจจุบันคืบหน้าไปแล้ว 95.823% ช้ากว่าแผนประมาณ 5% โดยวางกำหนดแล้วเสร็จในปลายปี 2567 และจะเปิดให้บริการเต็มรูปแบบประมาณต้นปี 2568
สำหรับรูปแบบโครงการเป็นทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองขนาด 4 ถึง 6 ช่องจราจร มีระยะทางรวม 96 กม.มีจุดเริ่มต้นเชื่อมต่อกับถนนวงแหวนรอนนอกกรุงเทพมหานคร (ถนนกาญจนาภิเษก) ด้านตะวันตก อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี จุดสิ้นสุดอยู่บริเวณทางหลวงหมายเลข 324 (ถนนกาญจนบุรี – อ.พนมทวน)
ผ่าน 4 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี นครปฐม และกาญจนบุรี โดยในแนวเส้นทางมีด่านเก็บค่าผ่านทาง 8 แห่ง ได้แก่ ด่านบางใหญ่ ด่านนครชัยศรี ด่านศรีษะทอง ด่านนครปฐมฝั่งตะวันออก ด่านนครปฐมฝั่งตะวันตก ด่านท่ามะกา ด่านท่าม่วง และด่านกาญจนบุรี
มีที่พักริมทางและสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ สำหรับผู้ใช้ทาง จำนวน 3 แห่ง แบ่งออกเป็น สถานบริการทางหลวง จำนวน 2 แห่ง
ที่ อ.นครชัยศรี และ อ.เมืองนครปฐม และสถานที่พักริมทาง จำนวน 1 แห่ง ที่ อ.ท่ามะกา
สำหรับการก่อสร้างงานโยธาได้แบ่งออกเป็น 25 ตอน ปัจจุบันก่อสร้างแล้วเสร็จ 14 ตอน และอยู่ระหว่างก่อสร้าง 11 ตอน มีความก้าวหน้าเมื่อเดือนมีนาคม โดยรวมประมาณ 90.21%
@งานระบบคืบ 13%
ส่วนงานติดตั้งระบบ เช่น ระบบจัดเก็บค่าผ่านทาง ระบบบริหารจัดการและควบคุมการจราจร เป็นต้น จะดำเนินการในรูปแบบ PPP ซึ่งกรมทางหลวงได้ลงนามสัญญาการให้เอกชนร่วมลงทุนในการดำเนินงานและบำรุงรักษา (O&M)
โดยการร่วมลงทุนในครั้งนี้แบ่งการดำเนินงานเป็น 2 ระยะ
ระยะที่ 1 งานออกแบบและก่อสร้างด่านเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทาง พร้อมติดตั้งงานระบบ และองค์ประกอบอื่นที่เกี่ยวข้อง ระยะเวลาดำเนินการ 3 ปี กลุ่มกิจการร่วมค้า BGSR จะเป็นผู้ออกแบบและลงทุนก่อสร้างติดตั้งงานระบบและองค์ประกอบที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย งานก่อสร้างด่านและติดตั้งระบบจัดเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางแบบไม่มีไม้กั้น หรือ M-Flow งานระบบควบคุมและบริหารจัดการจราจรอัจฉริยะ งานระบบโครงข่ายสื่อสารใยแก้วนำแสง และระบบจ่ายกระแสไฟฟ้าบนสายทาง งานอาคารศูนย์ควบคุม และอาคารสำนักงานต่างๆ โดยมีความก้าวหน้าเดือนมีนาคม 2566 รวม 13.62%
ระยะที่ 2 งานดำเนินงานบริหารจัดเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางและบำรุงรักษาถนนและงานระบบทั้งหมด เป็นระยะเวลา 30 ปี นับตั้งแต่เปิดให้ประชาชน โดยกลุ่มกิจการร่วมค้า BGSR (แระกอบด้วย บมจ.บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS) บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น (STECON) และบมจ.ราช กรุ๊ป (RATCH)) จะทำหน้าที่จัดเก็บค่าผ่านทางและนำส่งรายได้ค่าผ่านทางทั้งหมดให้แก่กรมทางหลวง บริหารจัดการและควบคุมการจราจร ซึ่งรวมถึงงานกู้ภัยและช่วยเหลือผู้ใช้ทางตลอด 24 ชั่วโมง ตลอดจนซ่อมบำรุงรักษาถนนและงานระบบทั้งหมดของโครงการเป็นเวลา 30 ปี
โดยกลุ่มกิจการร่วมค้า BGSR จะได้รับค่าตอบแทนสำหรับค่าก่อสร้างงานระบบ และค่าตอบแทนสำหรับการดำเนินงานและบำรุงรักษา
สำหรับอัตราค่าผ่านทาง แบ่งเป็นรถสี่ล้อค่าแรกเข้า 10 บาท ค่าโดยสารตามระยะทาง 1.5 บาท/กม. โดยมีค่าโดยสารสูงสุด 150 บาท, รถหกล้อ ค่าแรกเข้า 16 บาท ค่าโดยสารตามระยะทาง 2 บาท/กม. โดยมีค่าโดยสารสูงสุด 250 บาท และรถมากกว่าหกล้อ ค่าแรกเข้า 25 บาท มีค่าโดยสารตามระยะทาง 3.45 บาท โดยมีค่าโดยสารสูงสุด 350 บาท
@ลุยประมูลที่พักริมทางในปีนี้
ส่วนเนื้องานด้านการพัฒนาสถานบริการทางหลวง (Service Area) 2 แห่งคือที่ อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม บริเวณ กม.19+500 พื้นที่รวม 99 ไร่ (ขาเข้า 55 ไร่ และขาออก 44 ไร่) และ อ.เมือง จ.นครปฐม บริเวณกม.ที่ 47+500 พื้นที่รวม 65 ไร่ (ขาเข้า 35 ไร่ และขาออก 30 ไร่) และสถานที่พักริมทาง (Rest Stop) บริเวณอ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี เนื้อที่รวม 52 ไร่ (ขาเข้า 26 ไร่และขาออก 26 ไร่) ทั้งหมดนี้ มูลค่าลงทุนรวม 2,500 ล้านบาท
ปัจจุบันอยู่ระหว่างร่างเอกสารเชิญชวนยื่นข้อเสนอ (RFP) คาดว่าจะเริ่มกระบวนการประมูลตามพ.ร.บ.ร่วมทุน 2562 ภายในปี 2566