ตำรวจเรียกประชุมคณะทำงานคดีวางทิศทางตรวจสอบ 'สารวัตรซัว' พัวพันพนันออนไลน์ พร้อมเปิดรับทุกข้อมูล ยืนยันตรวจสอบอย่างเต็มที่แน่นอน ลั่นลูกหลานบิ๊กคนไหนเอี่ยวก็ไม่สน
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 13 ก.พ. 2566 พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) เรียกประชุมชุดคณะทำงานตรวจสอบกรณี พ.ต.ท.วสวัตติ์ มุครสกุล หรือสารวัตรซัว อดีตสารวัตรฝ่ายโยธาธิการ 2 กองโยธาธิการ สังกัดกองโยธาธิการ สำนักงานส่งกำลังบำรุง พัวพันพนันออนไลน์ ตามที่ได้รับมอบหมายจากพล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ที่ได้สั่งการมา
สำหรับชุดคณะทำงานประกอบด้วย พล.ต.ท.สันติ ชัยนิรามัย จเรตำรวจ (สบ.8.) ปฏิบัติราขการสอบสวนกลาง พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผู้บังคับการกองปราบปราม (ผบก.ป.) พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผู้บังคับการตำรวจปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ผบก.ปอศ.) พล.ต.ต.อธิป พงษ์ศิวาภัย ผู้บังคับการตำรวจ ปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี(ผบก.ปอท.) และเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดเข้าร่วมประชุมโดยพร้อมเพียง
พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวก่อนการประชุมว่า เบื้องต้นได้มอบหมายงานให้พล.ต.ท.สันติ ดูแลเรื่องงานสืบสวน ส่วนพล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. ดูเรื่องการสอบสวน ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดต่างๆ ให้สืบสวนสนับสนุนชุดทำงานหาข้อมูลต่างๆ เพื่อนำมาประเมินและวิเคราะห์ จากนั้นจะนำมาสรุปการทำงานขั้นต่อไปอีกครั้ง
ต่อมาภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. กล่าวว่า วันนี้เป็นการประขุมชุดคณะทำงานตรวจสอบกรณี พ.ต.ท.วสวัตติ์ มุครสกุล หรือสารวัตรซัว อดีตสารวัตรฝ่ายโยธาธิการ 2 กองโยธาธิการ สังกัดกองโยธาธิการ สำนักงานส่งกำลังบำรุง พัวพันพนันออนไลน์ ซึ่งประกอบด้วยหลายหน่วยงาน อาทิ บก.ป. บก.ปอศ. บก.ปอท. ที่มีการแต่งตั้งขึ้นมาเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง หลักๆจะเน้นไปที่การตรวจสอบให้แน่ชัดว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการพนันออนไลน์หรือไม่ รวมไปถึงการตรวจสอบทรัพย์สิน การตรวจสอบบริษัท และ บุคคลต่างๆที่เกี่ยวข้อง ซึ่งขณะนี้มีการแบ่งหน้าที่การดำเนินการไปบ้างแล้ว
ทั้งนี้เมื่อถามว่าตัวผู้ถูกกล่าวหามีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี และ อาจจะมีการโยกย้ายทรัพย์สิน หรือ ทำลายหลักฐานต่างๆจนยากต่อการตรวจสอบ จะมีผลต่อการดำเนินการหรือไม่ พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวว่า ก็มีเป็นกังวลบ้าง เพราะเรื่องเกิดขึ้นมาสักระยะหนึ่ง จึงเป็นโอกาสที่ที่ทำให้เกิดการขยับโยกย้ายทรัพย์สิน และเส้นเงิน แต่เชื่อว่าอาชญากรรมไม่ว่าจะรูปแบบใดย่อมทิ้งร่องรอยหลักฐานไว้เสมอ และ หากกระทำผิดจริง เชื่อว่าทางเจ้าหน้าที่สามารถแกะรอยตรวจสอบได้อย่างแน่นอน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลต่างๆ ขอเวลาสักระยะหนึ่ง เมื่อพยานหลักฐานมีมากพอก็จะตั้งเป็นคดีและเชื่อว่าจะสามารถไปต่อได้อย่างแน่นอน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ผู้ถูกกล่าวหามีเพื่อนร่วมรุ่นเป็นอดีต ผบ.ตร. และ มีความสัมพันธ์ กับนายพล จ. นั้น จะมีผลต่อการดำเนินงานหรือไม่ พล.ต.ท.จิรภพ ยืนยันว่า เราดำเนินการตามข้อเท็จจริง จะเป็นลูกใครหลานใครไม่ใช่ประเด็นหรือสาระ ยึดพยานหลักฐานข้อเท็จจริง และ ข้อกฎหมายเป็นที่ตั้ง ส่วนเรื่องบทลงโทษทางวินัย ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของต้นสังกัด ทางเราดำเนินการเฉพาะในเรื่องของคดีอาญา ซึ่งหากปรากฎข้อเท็จจริงใดๆทางเราจะรายงานไปยังผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติทุกขั้นตอนอยู่แล้ว
พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวเพิ่มเติมว่า การสืบสวนตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีนี้ ทางเรายืนยันว่า ยินดีเปิดรับข้อมูลจากทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลจากนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ นายสันธนะ ประยูรรัตน์ หรือใครก็แล้วแต่ สามารถส่งมาได้ เพราะข้อมูลที่ได้มาถือว่าเป็นประโยชน์ทุกข้อมูล และจะนำข้อมูลที่ส่งมาไปตรวจสอบต่อ ส่วนข้อมูลที่นายชูวิทย์ ให้มานั้น มีมาจำนวนมาก และเป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ที่จะนำไปดำเนินการตรวจสอบ หากปรากฎเป็นข้อเท็จจริงที่ผิดกฎหมาย ก็จะใช้ดำเนินคดีต่อไป ส่วนการจะเรียกนายชูวิทย์มาให้ปากคำหรือไม่นั้น เป็นเรื่องของอนาคต