สถิติ 7 วันอันตรายปีใหม่ 2566 รวม 4 วัน ยอดอุบัติเหตุ 1,664 ครั้ง เสียชีวิต 66 ราย บาดเจ็บ 1,647 ราย สาเหตุหลักขับรถเร็ว-เมาแล้วขับ เชียงราย ดับสูงสุด
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 2 ม.ค. 2566 ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน (ศปถ.) ช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2566 สรุปสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 1 ม.ค. 2566 เกิดอุบัติเหตุ 478 ครั้ง ผู้บาดเจ็บ 465 คน ผู้เสียชีวิต 66 ราย สรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสมในช่วง 4 วันของการรณรงค์ (29 ธ.ค.65 – 1 ม.ค.66) เกิดอุบัติเหตุรวม 1,664 ครั้ง ผู้บาดเจ็บรวม 1,647 ราย ผู้เสียชีวิตรวม 218 ราย
กำชับจังหวัดเข้มข้นดูแลเส้นทางเชื่อมสู่ถนนสายหลัก เพิ่มการเรียกตรวจรถเพื่อชะลอความเร็วรถและประเมินความพร้อมของผู้ขับขี่ เน้นดูแลจุดเสี่ยงอุบัติเหตุโดยเฉพาะเส้นทางตรงระยะทางยาว ป้องกันง่วงหลับใน พร้อมประสานเปิดช่องทางพิเศษเร่งระบายรถ และจัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกบริเวณจุดตัดเส้นทางที่มีการจราจรหนาแน่น ฝากเตือนผู้ขับขี่ไม่ขับรถเร็ว ปฏิบัติตามกฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด มีน้ำใจกับเพื่อนร่วมทาง เพื่อป้องกันอุบัติเหตุและเดินทางถึงจุดหมายอย่างปลอดภัย
นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดีปภ. เลขานุการศปถ. ในฐานะประธานการประชุมคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนตลอดทั้งปี เปิดเผยว่า ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2566 โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยและความร่วมมือของหน่วยงานภาคีเครือข่ายได้รวบรวมสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 1 มกราคม 2566 ซึ่งเป็นวันที่สี่ของการรณรงค์ 'ชีวิตวิถีใหม่ ขับขี่อย่างปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ' เกิดอุบัติเหตุ 478 ครั้ง ผู้บาดเจ็บ 465 คน ผู้เสียชีวิต 66 ราย สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ขับรถเร็ว ร้อยละ 37.03 ดื่มแล้วขับ ร้อยละ 33.26
ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 88.02 ส่วนใหญ่เกิดบนเส้นทางตรง ร้อยละ 79.50 ถนนกรมทางหลวง ร้อยละ 38.49 ถนนใน อบต./หมู่บ้านร้อยละ 32.22 ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ช่วงเวลา 00.01 – 01.00 น. ร้อยละ 15.69 ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตสูงสุดอยู่ในช่วงอายุ 20 - 29 ปี ร้อยละ 23.54
มีการจัดตั้งจุดตรวจหลัก 1,887 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 55,851 คน เรียกตรวจยานพาหนะ 401,164 คัน มีผู้ถูกดำเนินคดีรวม 59,862 ราย มีความผิดฐานไม่มีใบขับขี่ 16,696 ราย ไม่สวมหมวกนิรภัย 16,070 ราย ขับรถเร็วเกินกำหนด 7,109 ราย โดยจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ สงขลา (27 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ สงขลา (31 คน) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ แม่ฮ่องสอน สระแก้ว สุราษฎร์ธานี (จังหวัดละ 4 ราย)
สรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสมในช่วง 4 วันของการรณรงค์ (29 ธ.ค.65 – 1 ม.ค.66) เกิดอุบัติเหตุรวม 1,664 ครั้ง ผู้บาดเจ็บรวม 1,647 คน ผู้เสียชีวิตรวม 218 ราย จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี (56 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ สกลนคร (57 คน) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงราย (12 ราย) จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต (ตายเป็นศูนย์) มี 10 จังหวัด
อย่างไรก็ตาม วันที่ 2 ม.ค. 2566 เป็นวันหยุดวันสุดท้ายของช่วงเทศกาลปีใหม่ 2566 เส้นทางขากลับเข้าสู่กรุงเทพมหานครและจังหวัดใหญ่ในภูมิภาคต่างๆ จะมีปริมาณการจราจรหนาแน่น ซึ่งการสังสรรค์เฉลิมฉลองช่วงเทศกาลปีใหม่อาจทำให้ผู้ขับขี่มีอาการอ่อนล้า ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุจากการง่วงหลับใน
ศปถ. จึงได้เน้นย้ำให้จังหวัดเข้มข้นจุดตรวจโดยเฉพาะเส้นทางเชื่อมสู่ถนนสายหลัก-สายรองที่ประชาชนใช้เป็นทางลัดและทางเลี่ยงเมืองซึ่งผู้ขับขี่มักใช้ความเร็วสูง พร้อมเพิ่มความถี่ในการเรียกตรวจยานพาหนะและรถโดยสารสาธารณะทั้งประจำทางและไม่ประจำทาง เพื่อชะลอความเร็วรถและประเมินความพร้อมของผู้ขับขี่ เน้นดูแลจุดเสี่ยงอุบัติเหตุ โดยเฉพาะเส้นทางตรงที่มีระยะทางยาวที่มักเกิดอุบัติเหตุจากการหลับใน รวมถึงประสานการเปิดช่องทางพิเศษเพื่อเร่งระบายรถและจัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกบริเวณจุดตัดเส้นทางที่มีการจราจรหนาแน่น
นายบุญธรรม กล่าวต่อว่า วันนี้คาดว่าเส้นทางสายหลักจะมีปริมาณรถหนาแน่นตลอดทั้งวัน ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนได้กำชับให้จังหวัดสนธิกำลังอาสาสมัครอำนวยการจราจรและดูแลความปลอดภัยแก่ประชาชนตลอดเส้นทาง เพื่อคุมเข้มพฤติกรรมเสี่ยงอุบัติเหตุ
ทั้งนี้ ขอฝากเตือนผู้ใช้รถใช้ถนนไม่ขับรถเร็ว ปฏิบัติตามกฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด หยุดพักรถทุก 1-2 ชั่วโมง ไม่ฝืนขับรถ เมื่อมีอาการง่วงนอนให้จอดพักรถตามจุดบริการต่างๆ หรือสถานีบริการน้ำมัน เพื่อให้เดินทางถึงจุดหมายอย่างปลอดภัยสำหรับประชาชนที่ประสบหรือพบเห็นอุบัติเหตุสามารถแจ้งเหตุได้ทางสายด่วน 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง และไลน์ 'ปภ.รับแจ้งเหตุ1784' โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป